How many roads must a man walk down?


เพิ่มเพื่อน    

                                             (1)

                การพูดจา ว่ากล่าว ตักเตือน ให้คำแนะนำ ต่อบรรดาพวกหนูเล็กๆ เด็กๆ ทั้งหลายนั้น คงต้องยอมรับว่า...ถ้าหาก บารมี ไม่ถึงกันจริงๆ ก็ออกจะเป็น อันตราย หรือออกจะน่าสยดสยอง น่าขนลุกขนพอง อยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะโอกาสที่จะถูกพวกเด็กๆ เขา ถีบกลับ ไม่ก็ ยกฝ่าตีนลูบหน้า คนแก่ คนชรา ย่อมมีโอกาสเป็นไปได้สูงเอามากๆ โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ ยุคใหม่ยุคเจเนอเรชั่น เอ็กซ์ เจอเนอเรชั่น วาย หรือเจอเนอเรชั่น แซ่ด ฯลฯ ทั้งหลายประมาณนั้น...

                                                        (2)

                เพราะด้วยวัย ด้วยสารเคมี หรือด้วยฮอร์โมนใดๆ ก็แล้วแต่...ขึ้นชื่อว่า เด็ก หรือผู้ที่ยังไม่ได้เติบโตเป็น ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ผู้ที่ยังไม่ได้พัฒนา วุฒิภาวะ ไปสู่ระดับที่พอเป็นหลักเป็นฐาน ได้มั่ง ไม่ว่ายุคไหนต่อยุคไหน ย่อมเป็นอะไรที่ยากต่อการเหนี่ยว การรั้ง การเตือนสติ การให้คำแนะนำ มาโดยตลอดนั่นแหละ แม้แต่ย้อนยุคไปถึงสมัย พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านยังไม่ได้ปรินิพพาน ถ้าว่ากันตาม นิทานชาดก หรือ นิยายชาดก ก็แล้วแต่จะเรียก ขนาดผู้ที่มีอิทธิบารมี ปาฏิหาริย์บารมี ฯลฯ ระดับสูงสุดชนิดไม่มีผู้ใดเทียบเทียมได้อีกต่อไปแล้ว อย่างองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แม้ทรงอุตส่าห์ลงทุน เทศนา ด้วยพระองค์เอง แต่ก็ยังเอา กามนิตหนุ่ม ไม่อยู่ ต้องทะรอดทะแรดวิ่งไปเจอ ควายขวิดตาย กันจนได้...

                                                       (3)

                คือแม้ด้วยความหวังดี ความปรารถนาดี ความรัก ความห่วงใย โดยจริงใจและบริสุทธิ์ใจก็ตาม...แต่จะไปตั้งความหวังให้เด็กๆ เขาเชื่อตาม เดินตาม แบบพับเพียบเรียบร้อย ไม่เขย่าแข้ง เขย่าขา ไม่ออกอาการคันไป-คันมา บ้างเลยนั้น ออกจะเป็นอะไรที่ยากซ์ซ์ซ์เอามากๆ สู้หา หนวดเต่า-เขากระต่าย ยังง่ายซะยิ่งกว่าหาเด็กที่พร้อมจะเชื่อตาม เดินตาม กันในทุกเรื่อง ทุกๆ กรณีด้วยเหตุนี้...ระหว่างเตือนๆ หรือระหว่างให้คำแนะนำ ก็ควรต้องกะระยะ หรือกะรัศมีให้ห่างๆ จากความยาวช่วงขา หรือช่วงเท้าของพวกเด็กๆ เขาไว้ด้วย ถึงจะเป็นอะไรที่ ปลอดภัยเอาไว้ก่อน...

                                                         (4)

                ยิ่งเด็กๆ ยุคนี้ ยุคดิจิตอล ยุค 4G-5G ก็แล้วแต่จะเรียก คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้ว่า รัศมีปลายเท้า หรือรัศมีฝ่าตีนของเขา ค่อนข้างยาวเหยียดอีเหลนเป๋นเอามากๆ เรียกว่า...ระดับข้ามโลก ข้ามชาติ ข้ามประเทศ ก็ยังสามารถตามไปเหยียบ ตามไปรุมกระทืบได้ถึงที่ แถมยังเป็นอะไรที่หนักหน่วง รุนแรง อันเนื่องมาจากความรู้สึกด้าน จิตวิญญาณ ในแต่ละรูปละแบบ มันได้ถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ กลไก หรือด้วย เทคโนโลยี นั่นแหละเป็นสำคัญ ดังนั้น...การแนะนำ ตักเตือน พูดจาว่ากล่าวใดๆ ก็ตาม จึงไม่เพียงแต่ต้องอาศัย ศิลปะ ระดับ ศิลปินแห่งชาติมาเอง เท่านั้น ยังต้องอาศัย ความอดทน อดกลั้น หรืออาศัย ขันติธรรม ชนิดสูงเอามากๆ ระดับ ปางพระพุทธเจ้าผจญมาร เอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                                        (5)

                แต่ก็นั่นแหละ...สิ่งที่จะเป็นตัวช่วยให้คำแนะนำ ตักเตือน บรรดาเด็กๆ ทั้งหลายได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้นไปจาก บทเรียน และ ประสบการณ์ ที่บรรดาหนูเล็กๆ ในแต่ละราย หนีไม่พ้นต้องเจอ ต้องเผชิญด้วยตัวของตัวเอง อันคงไม่ต่างอะไรไปจากความเจ็บปวด รวดร้าว ทรมาน ความเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ฯลฯ ที่บรรดาคนแก่และคนชราทั้งหลาย เคยประสบพบพานมาก่อนหน้านั่นเอง เจ็บขนาดไหน ปวดขนาดไหน แต่ละคนแต่ละราย คงได้รับรู้ รับทราบ กันไปตามแต่ละ ปัจเจกบุคคล ตามยุค ตามสมัย ที่แม้นไม่อาจนำมาเทียบเคียงกันได้ แต่ก็เจ็บ ก็ปวด ชนิดหลับไม่ลง ลืมไม่ลง ไปด้วยกันทั้งสิ้น ต่อการต้องตกเป็น เหยื่อ เป็น เศษปรักหักพังทางประวัติศาสตร์ เป็น วีรชนที่โลกลืม ฯลฯ หรืออะไรต่อมิอะไรก็แล้วแต่...

                                                      (6)

                และสิ่งที่ออกจะน่าเป็นห่วงก็คือว่า...บรรดาเด็กยุคใหม่ ยุคเจนฯ เอ็กซ์ เจนฯ วาย หรือเจนฯ แซ่ด ฯลฯ ทั้งหลายเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้ว...ออกจะเป็นอะไรที่ บอบบาง เอามากๆ ไม่ได้ ทนมือ-ทนตีน เหมือนบรรดาเด็กรุ่นก่อนๆ จะด้วยเหตุเพราะถูกอุ้มชู ฟูมฟัก ถูกเลี้ยง ถูกดูแล แบบ ปรินซ์ และ ปรินเซส ตามความรัก ความหลงใหล ของพวกพ่อๆ-แม่ๆ ที่ไม่อยากเห็นลูกตัวเองต้องเจ็บปวดแบบที่ตัวเองเคยต้องเจอมาก่อน หรือไม่ อย่างไร? ก็แล้วแต่ ความบอบบาง เปราะบาง ของบรรดาเด็กๆ เหล่านี้นี่เอง เลยทำให้ออกจะเป็นอะไรที่น่าสงสาร น่าเวทนา มากกว่าที่จะไปฉุนฉิว กริ้วโกรธ เกลียด เคียดแค้น อาฆาตพยาบาท คิดลงมือลงตีน ใช้ตีน-แลกตีน หรือต้องเชื้อชวน เชิญชวน ให้ช่วยกันรุมกระทืบพวกเด็กๆ ให้ตายคาตีน อะไรประมาณนั้น...

                                                      (7)

                เพราะโดย บทเรียน และ ประสบการณ์ ที่พวกเด็กๆ เขาต้องเจอ หรือต้องก้าวผ่านจนกว่าเติบโตขึ้นเป็น ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ได้อย่างเพียบพร้อมสมบูรณ์ หรือจนกว่าจะมองเห็น ศัตรู เห็น ฝ่ายตรงข้าม ล้วนแล้วแต่เป็น เพื่อนร่วมวัฏสงสาร ไปด้วยกันทั้งสิ้น มันคงต้องผ่านความเจ็บ ความปวด ความรวดร้าวทรมาน กันอีกเยอะแยะมากมาย ต้อง How many roads must a man walk down before you call him a man อะไรประมาณนั้น เพียงเท่านี้...ก็น่าสงสาร น่าเวทนา เพียงพอแล้ว ส่วนบรรดาผู้ที่ไม่ได้คิดจะเป็น ผู้หลัก-ผู้ใหญ่ ทั้งที่แก่แสนแก่ หรือบรรดา เฒ่าทารก ทั้งหลาย ที่ดันหันมา ยุ ให้พวกเด็กๆ ต้องเจ็บ ต้องปวด กันไปเป็นรายๆ หรือเป็นแผงๆ ก็อาจถือซะว่าเป็นพวก โรคจิต ประเภท ซาดิสต์ ก็แล้วกัน...

                                -----------------------------------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"