Taiwan Excellence แบรนด์รางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมของไต้หวัน ภายใต้การดำเนินการของ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน  และ สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน เปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมสะเทือนวงการยานยนต์ “ยางรถแบบไม่ใช้ลม”  และ “ขอบล้อคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิต” สองผลิตภัณฑ์สุดล้ำจากไต้หวันสู่คนไทย ชูแนวคิดการสร้างกระบวนทัศน์ใหม่สำหรับการค้นพบและออกแบบวัสดุที่ล้ำสมัย มุ่งขับเคลื่อนอนาคตวงการยานยนต์โลก

นวัตกรรมขอบล้อคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิต ที่ผลิตโดย Hecheng Group และยางรถแบบไม่ใช้ลม ของ Jianda 2 ผู้นำด้านการผลิตอุปกรณ์ส่วนประกอบรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของไต้หวัน แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมล้ำสมัย และตอกย้ำความมุ่งมั่นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่น่าทึ่งมากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอย่างแท้จริงของไต้หวัน โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับในรางวัล Taiwan Excellence Awards ครั้งที่ 28 อีกด้วย ความสุดยอดของ ขอบล้อคาร์บอนไฟเบอร์คอมโพสิต สามารถแทนที่ขอบอลูมิเนียมอัลลอยด์แบบดั้งเดิม มีน้ำหนักเบา ลดน้ำหนักได้ถึง 20% ช่วยประหยัดพลังงาน เมื่อพิจารณาถึงโครงสร้างของรถยนต์อัตราส่วนระหว่างน้ำหนักส่วนบนและส่วนล่างของช่วงล่างของรถจะอยู่ที่ประมาณ 20:1 ดังนั้น หากสามารถกำจัดน้ำหนักได้ 1 กิโลกรัมจากขอบล้อแต่ละล้อ ขอบทั้งสี่จะเบาขึ้น 4 กิโลกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับการให้น้ำหนักเบากว่า 80 กิโลกรัมสำหรับรถทั้งคัน ทำให้รถประหยัดพลังงานและประหยัดน้ำมันมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดคาร์บอน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ด้าน ยางรถแบบไม่ใช้ลม รุ่น K3003/K3004 เป็นยางล้อรถแบบไม่ใช้ลมรุ่นแรกที่วางจำหน่ายในตลาดทั่วภูมิภาคเอเชีย นวัตกรรมใหม่ที่เรียกเสียงฮือฮาจากทั่วโลก ด้วยคุณสมบัติที่ล้ำสมัยและเหนือกว่าในทุกมิติ โดยยางรถแบบไม่ใช้ลมสามารถวิ่งได้ทั้งบนถนน พื้นหญ้า ดิน และถนนภูเขา ล้อยางใช้การออกแบบดอกยางแบบเฉพาะทิศทาง โดยมีห่วงลวดเหล็กหลายชั้นพันรอบเพื่อเพิ่มความแข็งแรงความมั่นคงและความทนทาน ป้องกันความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดจากกิ่งไม้ กรวด และวัตถุแปลกปลอมอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีอายุการใช้งานมากกว่ายางลมธรรมดาสองเท่าหรือมากกว่านั้น การใช้ยางที่ไม่ใช้ลมยังสะดวกและประหยัดเวลา เนื่องจากสามารถเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องจัดการกับขอบล้อ และสามารถติดตั้งได้โดยไม่ต้องใช้แท่นติดตั้งยาง นอกจากนั้น ล้อยางยังทำจากวัสดุที่ไม่ก่อมลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ American Business นิตยสารชื่อดังของอเมริการะบุถึงมุมมองอนาคตของเทคโนโลยียานยนต์ว่า วัสดุใหม่ ๆ จะเป็นปัจจัยสำคัญของการยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานและการผลิต ด้วยเหตุนี้ทั่วโลกจึงทุ่มทุนในการพัฒนาวัสดุใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกาที่ทุ่มกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2011 เพื่อเปิดตัวโครงการ Materials Genome Initiative โชว์เคสการสร้างกระบวนทัศน์ใหม่สำหรับการค้นพบและออกแบบวัสดุ ตามมาด้วยประเทศญี่ปุ่นที่ได้ริเริ่มการวิจัย Materials Integration (MI) ของตนเองในปี 2014 ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การศึกษาพลาสติกเสริมแรงเส้นใย อัลลอยด์/โลหะ และเซรามิก ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย เช่น จีน เกาหลีใต้ และไทย ต่างทุ่มเทให้กับการวิจัยเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้วัสดุใหม่ ๆ ในทางปฏิบัติ เตรียมพบกับ “2020 Taipei AMPA” มหกรรมระดับนานาชาติสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์เสริม ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 - 24 ตุลาคม 2563 ​ณ Nangang Exhibition Hall 2 ประเทศไต้หวัน