ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net บรรยากาศทำเนียบรัฐบาลคึกคักตั้งแต่เช้า นัดรวมพลถ่ายรูปหมู่ ครม.ประยุทธ์ 2/2 หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ตามธรรมเนียม โดยมี "เอนก เหล่าธรรมทัศน์" รมว.การอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม เดินทางมาถึงเป็นคนแรก แต่สายตาของสื่อแทนที่จะโฟกัสไปที่รัฐมนตรีใหม่ กลับกลายเป็นจับจ้องไปที่ "บิ๊กป้อม" เพียงแต่ครั้งนี้ไม่มีช็อตเด็ดยกมือบังแดดเหมือนถ่ายรูป ครม.ประยุทธ์ 1/5 ช่วงเดือน ธ.ค.60 แถม "บิ๊กตู่" ยังรู้แกว ชิงแซวพี่ป้อมโดยชี้ไปที่นาฬิกากับแหวน ดักคอสื่อไปในตัว งานนี้ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ก่อนจะเปลี่ยนชุดขาวเป็นผ้าไทยเข้าประชุม ครม.ใหม่นัดแรก ที่น่าสนใจก็เรื่องแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีกันใหม่ หลังจากที่ลาออกไป 1 คน คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ แต่มีเพิ่มมา 2 คน คือ นายดอน ปรมัตถ์วินัย กับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ทำให้มีรองนายกฯ ทั้งหมด 6 คน สำหรับกระทรวงหรือหน่วยงานที่ 4 รองนายกฯ เดิมรับผิดชอบก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไฮไลต์อยู่ที่ลำดับชั้นมากกว่า เพราะมีการสลับลำดับกันระหว่าง "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายอนุทินได้ขยับขึ้นมาเป็นรองนายกฯ ลำดับที่ 4 ส่วนนายจุรินทร์ลดลำดับอยู่ที่ 5 ดูแล้วก็น่าจะมาจากเสียง ส.ส.ของ ภท.ที่เพิ่มขึ้นจาก 52 คน เป็น 61 คน ขณะที่ ปชป.มี 53 คนเท่าเดิม

                ๐ "ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งรองอัยการสูงสุดจริงเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ในฐานะเป็นคนสั่งคดีนี้ และสังคมก็กดดันสถาบันอัยการ ดังนั้นเพื่อความสบายใจของทุกคน จึงขอลาออกเพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร ที่ทำหน้าที่รับราชการเป็นอัยการอยู่ในองค์กรนี้มาแล้ว 40 ปี" ตัวจริงเสียงจริง "เนตร นาคสุข" รองอัยการสูงสุด บอกเหตุผลที่แท้จริงที่ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง กลางที่ประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้เห็นหน้าค่าตากันซะที ผ่านมา 3 สัปดาห์นับตั้งแต่ข่าวสั่งไม่ฟ้องบอสถูกตีแผ่ช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เรียกว่าประเดิมชี้แจง กมธ.กฎหมายเป็นชุดแรก หลังจากนี้น่าจะมีจ่อคิวอีกเพียบ รวมถึงคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ในวันศุกร์นี้ ระหว่างนายเนตรแจงปมสั่งไม่ฟ้อง โดยอ้างว่ายึดตามสำนวนของตำรวจ ฝั่ง สตช.ก็ไม่น้อยหน้า ร่ายยาวผลสอบชุดที่มี พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็นประธาน ชนิดละเอียดยิบกว่า 1 ชั่วโมง โดยไล่ไทม์ไลน์ตั้งแต่ปี 55 กระทั่งมีความเห็นไม่แย้งการสั่งไม่ฟ้องของอัยการ ก่อนจบด้วยการฟันวินัยนายตำรวจ 14 นาย ส่วน "พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ" ผู้ช่วย ผบ.ตร. คนเซ็นคำสั่งรอดตามระเบียบ

                ๐ กับประเด็นร้อนเรื่องเวทีกิจกรรม "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" ที่มีการปราศรัย ออกแถลงการณ์ ข้อเรียกร้อง ที่พาดพิงถึงสถาบันเบื้องสูง จนทำให้เกิดกระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วถึงความเหมาะสม เรื่องนี้ทำเอาคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั่งกันไม่ติด เพราะเป็นการจัดกิจกรรมในพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต อีกทั้งยังใช้ชื่องาน "ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" เสมือนหนึ่งว่าเป็นท่าทีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลยทำให้ผู้บริหารต้องมีการออกแถลงการณ์ในนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงท่าทีอย่างเป็นทางการไปแล้ว ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา "นรนิติ เศรษฐบุตร" นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เรียกประชุมด่วน บอร์ดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นการเร่งด่วนนัดพิเศษ โดยมีผู้บริหารของมหาวิทยาลัยร่วมประชุมด้วย จากเดิมที่จะนัดประชุมประจำเดือน วันที่ 24 สิงหาคม แต่สถานการณ์ร้อนแรงเกินจะทนรอได้ เลยต้องเปิดห้องประชุมถกกันเครียด จนสุดท้าย ต้องออกเอกสารข่าวแบบร้อนๆ แสดงท่าทีของสภามหาวิทยาลัยไว้ 4 ข้อ เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยืนยันในจุดยืนของการเป็นสถาบันการศึกษาที่สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข-คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอรับไปดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดอย่างรอบด้าน...หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น่าจะทำให้ต่อจากนี้ การที่กลุ่มบุคคลใดจะไปขอใช้พื้นที่ในรั้วมหาวิทยาลัย จัดกิจกรรมชุมนุม เคลื่อนไหวทางการเมืองน่าจะทำได้ยากขึ้น เพราะผู้บริหารมหาวิทยาลัยคงระมัดระวังมากขึ้นในการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ ซึ่งน่าจะรวมถึงอีกหลายมหาวิทยาลัยด้วย ที่คงไม่ต้องการให้เกิดเหตุซ้ำรอย ธรรมศาสตร์ รังสิต.

ลี้คิมฮวง