13 ส.ค.63- ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่าข้อเสนอ 10 ประการของเด็ก กับ ข้อสนับสนุนของ 105 อาจารย์
ศาสตราจารย์ ดร. ชวินทร์ ลีนะบรรจง และ รศ. ดร. สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สถานะปัจจุบันคือข้าราชการบำนาญ ในฐานะที่เราสองคนเคยประกอบอาชีพเช่นเดียวกับพวกคุณจึงขอใช้สิทธิเสรีภาพบ้าง
(1) ประเด็นเรื่องการแสดงออกของเด็กที่ธรรมศาสตร์รังสิต เป็นเสรีภาพที่ปราศจากหน้าที่ความรับผิดชอบ แล้วพวกคุณที่อาบน้ำร้อนมาก่อนจะไปให้ท้ายเด็กว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องไปได้อย่างไร?
ประเทศไทยถ้าจะว่าไปแล้วมั่นคงมาโดยตลอดก็ด้วยปัจจัยหลายประการแต่ที่สำคัญลำดับต้นก็คงไม่พ้นเรื่อง "สถาบัน" เพราะมันก่อให้เกิด ทุนทางสังคม (Social Capital) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันพระมหากษัตริย์
การมี "สถาบัน"อยู่ในสังคมมันเป็นของดี เพราะหมายถึง การมีขอบเขต (Limit) ที่สังคมยอมรับให้กระทำได้ ดังนั้นนักการเมืองหรือพรรคการเมืองในประเทศไทยจึงไม่สามารถเป็น "สถาบัน" ให้ประชาชนยึดเหนี่ยวเอาไว้ได้เพราะการกระทำของนักการเมืองหรือพรรคการเมืองที่ผ่านมาเป็นไปในลักษณะของการไร้ซึ่งขอบเขต หรือพูดได้ว่าทำตามอำเภอใจ
ถ้าเข้าใจอย่างนี้แล้วจะไปล้มล้าง "สถาบัน" ที่เป็นของดีอยู่คู่บ้านเมืองมานานไปด้วยเหตุอันใด มีสถาบันย่อมดีกว่าไม่มีแน่นอน มีเหตุผลใดที่ต้องไปถกเถียงจำกัดขอบเขตสิ่งดีเล่า?
(2) ข้อเสนอ 10 ประการของเด็ก (ที่ผู้ใหญ่เป่าหูมาโดยตลอด) จึงเป็นการบ่อนทำลายสถาบันนี้โดยตรง
เสรีภาพในการแสดงออกจึงมิใช่เช่นที่ผ่านมา มันขาดความรับผิดชอบ ไม่ได้เสนอทางออกอันใดที่ดีกว่าเอาไว้ให้เลยแม้แต่น้อย มองไม่ต่างจากนักการเมืองที่ชอบ "ทุบ ทำลาย และสร้างใหม่" (วัฒนธรรมคอนกรีต) เพราะรื้อสร้างใหม่มันดูดีมีผลงาน ต่างจากการอนุรักษ์ของเดิมเอาไว้ที่คนมักไม่สนใจ
(3) สำหรับ 105 อาจารย์ซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำไมพวกคุณจึงใจร้ายไปให้ท้ายเด็กในทางที่ผิดเช่นนี้เล่า?
พวกคุณทำตัวราวกับเป็นหุ่นยนตร์หรือเครื่องจักรที่ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่า "สามัญสำนึก"
จะมาถกเถียงในเรื่องที่คนไทยส่วนใหญ่เคารพรักไปทำไม มันต่างจากการให้ใครก็ไม่รู้มาด่าว่าบุพการีของคนอื่นที่ตรงไหน?
พวกคุณทำตัวเป็นเกลือที่ไม่รู้จักความเค็มโดยแท้
เท่าที่ดูจากรายชื่อส่วนใหญ่ก็เป็นข้าราชการ/พนักงานของมหาวิทยาลัย พวกคุณไม่รู้เลยหรือว่าเงื่อนไขการจ้างข้อสำคัญคือ
"เลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข"
ขณะที่รัฐธรรมนูญก็เป็นกติกาที่ทุกคนต้องยอมรับ ถ้าจะไม่รับไม่ปฏิบัติตามโดยอ้างว่าไม่พอใจในเงื่อนไขบางอย่างที่คนส่วนใหญ่เขายอมรับ ประพฤติตัวเยี่ยงนี้ถือว่าเลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่?
หรือว่าประชาธิปไตยต้องเป็นแบบที่พวกคุณเห็นชอบด้วยเท่านั้นหรือ?
(4) คิดเฉพาะจำนวนอาจารย์มหาวิทยาลัยในประเทศไทย ... อาจารย์ 105 คนจาก 39,430 คน คืออยู่ที่ 0.26% เท่านั้น
อาจารย์ 0.26% จากอาจารย์ทั้งหมด กำลังอ้าง"สถานะพิเศษ" ของตนเองเพื่อสนับสนุนข้อเสนอที่บอกว่าไม่ควรมีใครมีสถานะพิเศษในสังคมไทย
ถ้านี่เป็นข้อสอบวิชาการใช้เหตุผล อักษรศาสตร์ จุฬาฯ ปี 1 ควรจะเฉลยคำตอบว่าอะไร?
พวกคุณประกาศตัวเรียกร้อง "ประชาธิปไตย" แสดงตัวสนับสนุนม็อบเยาวชนปลดแอกที่ท้าชนสถาบันกษัตริย์อย่างเปิดเผย ... ถ้าพวกคุณร้อนวิชาอยากเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ทั้งๆที่ตัวเองเป็นแค่เสียงส่วนน้อยถึงน้อยมาก ก็ควรหัดเกรงใจคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้บ้าง
(5) ถ้าพวกคุณจะซื่อสัตย์กับตัวเองก็ควรลาออกไปเพราะพวกคุณไม่ได้เลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแต่ประการใด
ไปเป็นเสรีชนเถิดจะดีกว่าไหม?
เพราะการลงชื่อในแถลงการณ์ฉบับนี้ของพวกคุณมีนัยยะทางการเมืองที่ต่างจากการร่วมลงชื่อในแถลงการณ์อื่นๆที่พวกคุณเคยลงชื่อมาทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง
หมึกหยดเดียวที่เซ็นชื่อลงไปในสัญญาย่อมมีผลตามกฏหมายทันทีฉันใด การเข้าร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ฉบับนี้ของพวกคุณก็ย่อมมีผลเยี่ยงนั้น
... หลังจากนี้พวกคุณก็ต้อง "รับผิดชอบ" สิ่งที่จะตามมาด้วยเช่นกันเหมือนม็อบเยาวชนปลดแอก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |