12 ส.ค.63 - พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว  ว่า กองทัพนาซีรุกเข้าใส่สหภาพโซเวียตอย่างฮึกเหิม รวดเร็ว บ้าบิ่น จนกองหนุนนาซีตามไม่ทันและต้องตกอยู่ในสภาพโดดเดี่ยวในแนวรบของกองทัพแดง เข้าสู่ 'จุดผกผัน' ของการรบซึ่งหมายถึงการนับถอยหลังสู่ความพ่ายแพ้ของกองทัพนาซี ถูกกองทัพแดงของสหภาพโซเวียตฆ่าตายเป็นเบือ 

'จุดผกผัน' จึงเป็น 'จุดเริ่มต้น' ของความพ่ายแพ้...การชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อคืนวันที่ 10 ส.ค.63 ก็คือ 'จุดผกผัน' สู่ความพ่ายแพ้และการดับอนาคตของม๊อบล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ฉันนั้น สมกับประโยตที่ว่า "จบที่รุ่นเรา" นั่นแหละครับ

ความจริงแล้ว นับแต่วันแรกที่เริ่มชุมนุมครั้งแรกแล้วที่มีผู้ชุมนุมถือป้ายหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างโจ่งแจ้งชัดเจนก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า "นี่คือยุทธศาสตร์แห่งความล้มเหลวของคนโง่อวดฉลาด บ้าบิ่นอย่างโง่ๆ จัญไรอย่างเปิดเผยตัวตน"...ยุทธศาสตร์นี้ใช้ไม่ได้หรอกครับในราชอาณาจักรไทย มันเป็นความบ้าคลั่งที่เสมือน 'เอาศีรษะทุบกำแพง'. เพื่อหวังสลายกำแพง..มันโง่มากๆ...ลูกศิษย์โง่ๆอย่างนี้ก็คงมาจากอาจารย์โง่ๆทั้งหลายนั่นแหละครับ ไม่รู้สอนกันมาอย่างไร โง่จัง

สถานการณ์ ณ ขณะนี้ คงไม่เกิดความรุนแรงแล้วล่ะครับ...ปล่อยให้มันเอาศีรษะทุบกำแพงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็หยุดเอง...แนวร่วมของมันยังฉลาด รีบถอนตัวกันเป็นเบือ ไม่เห็นด้วยกับ 'ยุทธการหัวโขกกำแพง' ถอนตัวกันเป็นแถว...เหมือนกับไอ้จำอวดที่เล่นตลกอดข้าวหน้าสภาแล้วแอบหนีไปกินข้าวตอนกลางคืน สุดท้ายก็เลิกไปเองนั่นแหละครับ...ตลกชิบ!