โจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจเลือก "ส.ว.คามาลา แฮร์ริส" เป็นคู่สมัครของเขาในตำแหน่งรองประธานาธิบดี สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้สมัครหญิงผิวสีคนแรกในตำแหน่งนี้
อดีตรองประธานาธิบดีไบเดนประกาศการตัดสินใจของเขาทางโซเชียลมีเดียเมื่อวันอังคารที่ 11 สิงหาคม 2563 โดยตามกำหนดการทั้งคู่จะกล่าวสุนทรพจน์จากเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ เพื่อเริ่มต้นการผนึกกำลังกันช่วงชิงเก้าอี้จากทรัมป์และรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ในการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้
การเสนอชื่อแฮร์ริส ซึ่งเป็นอดีตคู่แข่งร่วมพรรคของเขา ทำให้เธอเป็นสตรีอเมริกันผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐที่ได้รับเสนอชื่อเป็นคู่สมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดี และหากไบเดนชนะทรัมป์ได้ เธอก็จะเป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรกและรองประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐด้วย
ก่อนหน้านี้เคยมีผู้หญิงได้รับการเสนอชื่อโดยพรรคการเมืองใหญ่ในตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐเพียง 2 คน ได้แก่ เจอรัลดีน เฟอร์ราโร ของพรรคเดโมแครตเมื่อปี 2527 และซาราห์ เพลิน ของพรรครีพับลิกันเมื่อปี 2551 ส่วนเก้าอี้ประธานาธิบดีนั้น นางฮิลลารี คลินตัน เคยสร้างประวัติศาสตร์เป็นสตรีที่ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งคนแรก แต่ก็พ่ายแพ้ต่อทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2559
ไบเดนวัย 77 ปี กล่าวถึงแฮร์ริส ซึ่งอ่อนกว่าเขาถึง 2 รอบว่า เป็นนักต่อสู้ที่กล้าหาญ เป็นหนึ่งในผู้รับใช้ประชาชนที่ดีที่สุดของประเทศ เขาภูมิใจที่ได้เธอเป็นคู่หูในการเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วนแฮร์ริสบอกว่าเธอรู้สึกเป็นเกียรติและจะทุ่มเทเต็มที่เพื่อช่วยให้ไบเดนชนะ
ส.ว.หญิงวัย 55 ปี น่าจะเป็นตัวเลือกที่ช่วยดึงดูดคะแนนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนหนุ่มสาวและผู้หญิง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงแถบชานเมืองที่ไม่ชื่นชอบทรัมป์ นอกจากนี้หากไบเดนชนะทรัมป์ได้ ซึ่งจะทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีอายุมากที่สุดของสหรัฐ ก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะดำรงตำแหน่งเพียงแค่สมัยเดียว และจะเปิดโอกาสให้เธอเป็นตัวเต็งในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีคนต่อไป
แฮร์ริสมีพ่อเป็นชาวจาเมกาและแม่เป็นชาวอินเดียที่ย้ายมาตั้งรกรากในสหรัฐ เธอเป็นสตรีผิวดำคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นอัยการสูงสุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย และเป็นสตรีผิวดำคนที่ 2 และเป็นผู้ที่มีเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกที่ชนะเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐ
เธอเคยแจ้งเกิดในการโต้อภิปรายของพรรคเดโมแครตรอบแรกเมื่อปีที่แล้ว แต่ยังไม่สามารถระดมเสียงสนับสนุนได้มากพอจึงถอนตัวในเดือนธันวาคม และมาประกาศสนับสนุนไบเดนเมื่อเดือนมีนาคม
แฮร์ริสเอาชนะคู่แข่งที่เป็นสตรีนับสิบคนในตำแหน่งรองประธานาธิบดีของไบเดน ซึ่งรวมถึงซูซาน ไรซ์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ซึ่งเป็นสตรีผิวสีเช่นกัน, ส.ว.แทมมี ดักเวิร์ธ เชื้อสายไทย-อเมริกัน, มิเชล ลูฮาน กริแชม ผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งมีเชื้อสายลาติน และสตรีผิวขาวอีกหลายคน รวมถึงเมแกน วิตเมอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |