12 ส.ค.63 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "คำตอบ..อยู่ที่คณะกรรมการอัยการ" โดยมีเนื้อหาดังนี้
ถาม อัยการสูงสุด เขาตั้งกรรมการอะไรครับ ถึง ๒ คณะ
ตอบ คณะแรกสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว รายงานแล้วว่า คำสั่งของรองฯเนตร ที่สั่งไม่ฟ้องบอสในข้อหาทำให้คนตายโดยประมาทนั้นถูกต้อง เป็นการใช้ดุลพินิจในกรอบของกฎหมาย ใครไม่เห็นด้วย ก็ช่วยไม่ได้
ถาม แล้วตั้งอีกคณะมาทำอะไร
ตอบ มาเริ่มการสอบสวนคดีใหม่ เพราะพบพยานหลักฐานใหม่ ๒ ชิ้น คือพบว่าเสพโคเคนก็ตั้งข้อหาฐานเสพโคเคน พบผลตรวจสอบความเร็วว่า เกิน ๑๐๐ ก็ตั้งข้อหาฐานขับรถโดยประมาท ทั้งหมดนี้ล้วนชี้ภาพว่า เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากตำรวจทำสำนวนอ่อนทั้งสิ้น
ถาม ไปสอบใหม่ทำไม ในเมื่ออัยการกรุงเทพใต้สั่งฟ้องไปแล้วว่าประมาท พอมีขบวนการขอความเป็นธรรมเกิดขึ้นเป็นสิบครั้ง อสส.ท่านที่ผ่านมา ก็สั่งยุติการรับพิจารณาคำร้องทุกข์ทั้งปวงแล้ว การที่รองฯเนตร มารับคำร้องทุกข์ใหม่ แล้วสั่งไม่ฟ้องทับคำสั่งฟ้องของอัยการกรุงเทพใต้ลงไป จึงทำไม่ได้ ไม่ใช่หรือ
ตอบ อาจารย์ ดร.คณิต ณ นคร อดีต อสส.ผู้สร้างระเบียบขอความเป็นธรรม ท่านก็ว่าอย่างนี้ คุณอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธาน คณะกรรมการอัยการ หรือ กอ.ท่านก็เสนอมาอย่างนี้ แต่ถ้ารับกันอย่างนี้ ทั้ง รองฯเนตร และผู้รู้เห็นอื่น ก็ต้องผิด คำสั่งสอบสวนใหม่ที่คุณถามจึงเป็นเพียงการฆ่าตัดตอน ตัดเอารองฯเนตรออกมาจากบ่วงเอาบอสยัดใส่ไปแทนโดยสอบใหม่เท่านั้นเอง
ถาม ถ้าถือตามอาจารย์คณิต และคุณอรรถพล อสส.ปัจจุบันจะผิดด้วยไหม
ตอบ ถ้าเป็นคนสั่งรองฯเนตร อสส.ก็ผิดด้วย ทางฟาก กมธ.กฎหมายของ สนช. ถ้าสมคบด้วย ก็ผิดฐานสนับสนุนได้เหมือนกัน
ถาม เข้าใจแล้วครับว่าทำไม..เขาถึงหลีกไปตั้งคณะกรรมการฟื้นคดีใหม่ โดยอ้างหลักฐานใหม่
ตอบ ช่องทางนี้...ถ้าเรื่องเสพโคเคนทำได้ เพราะเป็นหลักฐานใหม่จริง แต่เรื่องความเร็วเกิน ๑๐๐ นั้นไม่ใช่
ถาม ก็ผลการพิสูจน์นี้ มันไม่อยู่ในสำนวนจากตำรวจจริงๆ ไม่ใช่หรือครับ
ตอบ ขับรถชนคนตายตี ๕ ร่างดาบตำรวจกระเด็นลอยมาทับกระจกรถแตก กระจังหน้ารถเฟอรารี่แข็งเป้กยังยุบยับเยิน ถุงนิรภัยกระเด้งก็ออกมาแล้ว แถมยังลากศพไป๑๖๐ เมตรอีก หลักฐานแค่นี้แม้ไม่มีความเร็วปรากฏในสำนวน ผมว่าอัยการกรุงเทพใต้ ท่านก็สั่งถูกแล้วนะครับว่า หลักฐานเพียงพอให้ฟังว่าประมาทได้
ถาม แต่ความเร็วเกิน ๑๐๐ นี่ มันเป็นหลักฐานใหม่ไม่ใช่หรือ
ตอบ ถ้าเป็นข้อหาขับรถเร็วก็ขาดหลักฐานนี้ไม่ได้ แต่ในคดีประมาทนั้นมันไม่ใช่หลักฐานชี้ขาด ตัดสินจากพยานอื่นๆประกอบกันก็ได้ สำนวนนี้สมบูรณ์แล้วปิดเด็ดขาดแล้ว รื้อฟื้นอะไรอีกไม่ได้ ต้องฟ้องไปตามสำนวนเดิมเท่านั้น
ถาม ก็ อสส.เขายังยืนยันว่า สำนวนสอบสวนเดิมถูกรองฯเนตรสั่งไม่ฟ้อง อตร.ก็ไม่คัดค้าน สำนวนนี้จึงยุติไปตามวิ.อาญาแล้วนี่ครับ แล้ว ประธาน กอ.จะให้เอาไปฟ้องอีกได้อย่างไร
ตอบ ประเด็นปัญหานี้...ถึงคิวที่ กอ.ทั้งคณะจะต้องตรวจสอบและมีมติแล้วล่ะครับ ว่าในที่สุดองค์กรอัยการจะเห็นอย่างไร ถ้าเห็นตามประธาน กอ. ก็ต้องมีมติต่อไปว่าใครต้องถูกสอบวินัยบ้าง และต้องใช้อำนาจ อสส.จัดการให้ฟ้องบอสตามสำนวนเดิมต่อไป ถ้า อสส.ปัจจุบันยังขืนมืออยู่อีก ก็ต้องพักราชการไปเลย จากนั้น ปปช.ก็มาซ้ำทางอาญาในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ กับผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายอีกรอบหนึ่ง
ถาม ถ้า กอ.เห็นว่าความเห็น อสส.ถูก ล่ะครับ
ตอบ ก็ยุติตามนั้น ไม่มีอัยการใดผิดเลย มีแต่ตำรวจทั้งสิ้น
ถาม ทำไมเราไม่รอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการที่มี อาจารย์ วิชา มหาคุณเป็นประธานก่อนล่ะครับ
ตอบ นั่นเป็นคณะกรรมการโดยอำนาจทางบริหารของนายกรัฐมนตรี ที่ตำแหน่งนายกฯนั้นไม่มีอำนาจสั่งอะไรกับองค์กรอัยการเลย รัฐธรรมนูญให้อัยการเป็นองค์กรอิสระไปแล้ว
ถาม อิสระอย่างนี้...แล้วใครจะรับผิดชอบดูแลสถาบันอัยการให้บ้านเมืองครับ
ตอบ คณะกรรมการอัยการครับ องค์กรนี้เท่านั้นที่มีอำนาจเต็ม และรับผิดชอบ
โดยตรงที่สุด
บ้านเมืองนี้กำลังรอคำตอบจากมโนสำนึกของท่านครับ
.......................
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |