กระบวนการยุติธรรมที่บิดเบือน สะเทือนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คดีรถชนธรรมดาๆ ที่ไม่ธรรมดา เมื่ออัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องและให้ยุติการดำเนินคดีกับนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดง ที่ขับรถยนต์หรูเฟอร์รารีชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่ ป.สน.ทองหล่อ เสียชีวิต ภายในซอยสุขุมวิท 49 วันที่ 3 ก.ย.2555 สร้างความเคลือบแคลงสงสัยกันทั้งประเทศ หรือจะเป็น “เงินจ้างผีโม่แป้งได้” 8 ปี ตำรวจไม่สามารถนำตัวส่งฟ้องศาลได้ หลายข้อหาขาดอายุความ กระทั่งมีคำสั่งเด็ดขาดยุติดำเนินคดี ผู้ต้องหากลายเป็นผู้บริสุทธิ์

            งานเข้ากระบวนการยุติธรรมชั้นสอบสวน “อัยการ-ตำรวจ” เต้นเป็นเจ้าเข้า ต่างคนต่างตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เช่นเดียวกันกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายจากส่วนกลางขึ้นอีกอีกคณะ โดยนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน คดียิ่งน่าสงสัยถึงความไม่ชอบมาพากล เมื่อนายจารุชาติ มาดทอง หนึ่งในพยานคนสำคัญ เสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุรถ จยย.เฉี่ยวชน ยิ่งขุดยิ่งเจอ เมื่อนายจารุชาติเป็นคนทำงานในบ้านผู้กว้างขวางทางภาคเหนือ มีสายสัมพันธ์อันดีกับครอบครัวเศรษฐีเมืองไทย

            อสส.ชิงสรุปผลการสอบข้อเท็จจริง ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุดทุกประการ โดยการพิจารณายึดตามพยานหลักฐานตามแนวทางการสอบสวนของตำรวจ ว่ากันให้เข้าใจแบบบ้านๆ หลักฐานพยานอ่อน ไม่เพียงพอที่จะฟ้อง ความเร็ว 177 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐานคำนวณจากกล้องวงจรปิด ได้ค่าเฉลี่ยความเร็วออกมาก็ไม่ถูกนำเข้าสู่สำนวน ผลการตรวจเลือดพบสารเสพติดโคเคน ก็ไม่ถูกนำเข้าสู่สำนวนการสอบสวน คดียังไม่สิ้นสุด คณะทำงานจึงให้พนักงานสอบสวนเริ่มต้นสอบคดี “เสพโคเคน-ขับรถเร็ว” ใหม่ โยนเผือกร้อนให้กับตำรวจ

            ยังไม่ทันหายเมาหมัดก็ถูกตบหน้าอีกฉาดใหญ่ เมื่อเกิดเหตุยิงกันในบ่อน “เฮียตี้” ย่านพระราม 3 มีผู้เสียชีวิต 4 ราย หนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นข้าราชการตำรวจ คือ “สารวัตรแม็ค” พ.ต.ท.วัทธเศรษฐ์ สำเนียงประเสริฐ สว.(สอบสวน) สน.แสมดำ ที่ตำรวจใหญ่ออกมาป่าวประกาศไม่มีบ่อนในพื้นที่นครบาล สังคมรับไม่ได้ ระดับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา กว่าจะได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุก็ปาเข้าไป 01.00 น. ทั้งที่เกิดเหตุตั้งแต่ 22.00 น. ระบุสถานที่เกิดเหตุไม่ใช่บ่อน แต่ยอมรับมีการลักลอบเล่นการพนัน..?

            “ศพประจาน” ตำรวจ เมื่อคลิปที่ถูกบันทึกจากภายในออกสู่สายตาประชาชน เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์อลหม่านในการทำลายหลักฐานโต๊ะพนัน ตู้พนันไฟฟ้า พนันออนไลน์ อุปกรณ์เล่นการพนัน และวงจรปิดพร้อมเซิฟเวอร์ โดยไม่สนใจศพผู้เสียชีวิตนอนเกลื่อนพื้น เพื่อจัดฉากสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่บ่อน น่าตกใจกับพฤติกรรมตำรวจ เมื่อชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง แม้แต่เด็กอมมือยังรู้ว่า สถานที่นี้คือบ่อนระดับห้าดาว

            พยานหลักฐานไม่สามารถบิดเบือนได้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ถึงออกมายอมรับว่าเป็น “บ่อน” ซึ่งเปิดมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ทำขึงขังสั่งเด้ง พล.ต.ต.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผบก.น.5 และ 4 เสือ สน.ทุ่งมหาเมฆ ตามระเบียบเพื่อหลบกระแส บ่อนแห่งนี้นักเล่นพนันเขารู้ดี อย่างที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เจ้าพ่ออ่างได้ออกแฉซ้ำ บ่อนแห่งนี้ไม่ได้เป็นบ่อนวิ่ง แต่เป็นบ่อนถาวรที่เล่นกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว และก่อนที่ “เฮียตี้” จะมาเช่าสถานที่แห่งนี้ เมื่อต้นปีไปเปิดอยู่ใจกลางกรุงย่านพัฒน์พงศ์ แต่เมื่อถูก ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายชี้โลเกชั่นจึงได้ย้ายมาอยู่ที่อาคารแห่งนี้

            เมื่อถูกสังคมจับตาตำรวจจึงออกแอคชั่น “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่ง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. จับกุมคนร้ายให้ได้ภายใน 3 วัน ไม่เช่นนั้นถูกเด้ง แต่ก็เหมือนเตี๊ยมกันมา เมื่อ “บอย บ้านครัว” ถูกระบุว่าเป็นมือปืนยิงเสี่ยถาวร สีสด ที่ก่อเหตุยิงสารวัตรแม็ค และหญิงสาวอีก 2 คน ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน อ้างเพื่อป้องกันตัว และไม่ให้เกิดการสูญเสียมากกว่านี้ ทำให้นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ต้องลงมาติดตามเรื่องนี้ ระบุไม่เชื่อ “บอย บ้านครัว” เป็นผู้ก่อเหตุ

            เมื่อมองย้อนกลับไปทั้ง 2 คดี ตำรวจเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำ โดยมีตัวละคร ผู้มีอำนาจ เศรษฐี ผู้มีอิทธิพล สามารถสั่งซ้ายสั่งขวาได้ กรณีของ “บอส กระทิงแดง” หลังเกิดเหตุ สว.ป.สน.ทองหล่อ พยายามช่วยเหลือคนผิด นำตัวพ่อบ้านเศรษฐีเครื่องดื่มชูกำลังมามอบตัวแทน “บอส” แต่ความแตกในที่สุด ในชั้นกระบวนการสอบสวนหาพยานหลักฐาน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานพร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ลงพื้นที่เกิดเหตุ นำคลิปวิดีโอมาคำนวณหาความเร็ว พบว่าในชั้นแรกรถเฟอร์รารีของบอสวิ่งมาด้วยความเร็ว 177 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่เมื่อส่งให้อัยการ พบว่าความเร็วเหลือเพียง 76 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งกฎหมายระบุห้ามขับรถเร็วกว่า 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง

             ในกรณีนี้เมื่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของตำรวจได้เรียกเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่รับผิดชอบมาให้ข้อมูล ทำไมความเร็วถึงคลาดเคลื่อน กลับได้รับคำตอบว่า ความเร็วรถ 177 กิโลเมตร/ชั่วโมงจริง แต่ที่เหลือ 76 กิโลเมตรนั้นอาจคลาดเคลื่อน เป็นเหตุให้สั่งไม่ฟ้องเรื่องความเร็ว ตอกย้ำวิกฤติศรัทธาตำรวจ เมื่อเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานบางนายที่ทำคดีนี้ออกมาแฉถูกบิ๊กตำรวจเข้ามาแทรกแซงให้เปลี่ยนความเร็ว นำไปสู่การไม่ฟ้อง เช่น เดียวกับการตรวจสารเสพติดในร่างกาย แพทย์ยืนยันพบสารเสพติดโคเคนในเลือด ตำรวจยังโบ้ยอาจมาจากการรักษาฟัน ถูกฉีกหน้าอีกครั้งเมื่อในสำนวนการสอบสวนไม่มีการแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดเลย จนเป็นที่มาที่อัยการเสนอให้ตำรวจแจ้งขอหาเสพยาเสพติดและขับรถเร็ว

            เช่นเดียวกันกับบ่อน  บ่อนเปิดที่ไหนทำไมตำรวจจะไม่รู้ คนทำบ่อนอันดับแรกต้องเข้าหาตำรวจเพื่อเจรจาต่อรองถึงผลประโยชน์ ทำบ่อนถ้าไม่มีแบ็กใหญ่จริงจะสามารถเปิดบ่อนได้ฤา เช่น บ่อน “เฮียตี้” ตำรวจพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะปฏิเสธปัดความรับผิดชอบไม่ได้ บ่อนแห่งนี้อยู่มาหลายสิบปี จัดให้มีการเช่าสถานที่ผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าของ ผลประโยชน์มูลค่ามหาศาล ซึ่งมีทั้งตำรวจใหญ่และนักการเมืองอยู่เบื้องหลัง ถ้าไม่มีเหตุยิงกัน ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ

            ต้องจับตาดู “บอย บ้านครัว” รับสารภาพยิงเพื่อป้องกันตัว ถ้าพนักงานสอบสวนที่ทำคดีถูกผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่าลงมากำกับให้พยานหลักฐานอ่อน “บอย บ้านครัว” จึงสามารถหลุดคดีได้ ส่วน “เฮียตี้” เป็นไปได้น้อยมากที่ตำรวจจะจับกุมตัวได้ ถึงแม้เล่นบทยักษ์ รู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร เร่งติดตามมาดำเนินคดี สุดท้ายก็เจอ “เฮียตอ” ทุกอย่างจบ

            ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา พ.ศ. ... ของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ จึงเป็นความหวังเดียวที่จะปฏิรูปตำรวจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนนายกรัฐมนตรีเสนอ ครม.เห็นชอบเป็นร่างกฎหมายก่อนเข้าสภา ถ้าร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับเป็นกฎหมายบังคับใช้ได้ จะสามารถแก้ไขปัญหาตำรวจที่เกิดขึ้นอยู่ในปัจจุบันได้ ถึงแม้จะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยกระบวนการยุติธรรมจะไม่ถูกกำหนดโดยหน่วยงานเดียวที่ให้ทั้งคุณและโทษได้เหมือนที่ผ่านมา.