รัฐบาลภูฏานหวั่นควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาไม่อยู่ ประกาศล็อกดาวน์ประเทศเป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคาร ภายหลังมีผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการกลับตรวจพบเชื้อซ้ำหลังพ้นกำหนดกักกันโรคและเดินทางไปทั่วแล้ว

    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า ประเทศบนเทือกเขาหิมาลัยที่โด่งดังเรื่องความสุขมวลรวมในประเทศแห่งนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพียง 113 ราย และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิต แต่เมื่อเช้าวันอังคารที่ 11 สิงหาคม 2563 รัฐบาลมีคำสั่งให้ใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นครั้งแรกกับประชากร 800,000 คนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส

    นายกรัฐมนตรีโลเทย์ เชอริง ซึ่งเป็นแพทย์ที่ยังรักษาคนไข้ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า เบื้องต้นมาตรการนี้จะบังคับใช้ 5-6 วัน โดยจะอนุญาตให้เฉพาะบริการที่จำเป็นเท่านั้น และขอให้ประชาชนทุกคนอยู่บ้านเพื่อปกป้องตนเองจากโรคติดต่อนี้ หากมีการแพร่เชื้อรุนแรงที่ตรวจไม่พบ

    รัฐบาลภูฏานประกาศมาตรการนี้ภายหลังพบหญิงชาวภูฏานคนหนึ่งที่เดินทางกลับจากคูเวตและถูกกันกันโรคนาน 30 วัน หลังจากพ้นระยะกักกันแล้ว 10 วันถัดมากลับตรวจพบว่าติดเชื้อ

    การตรวจแอนติบอดีแบบเร็ว 3 ครั้งระหว่างที่เธอถูกกักกันนั้นพบการติดเชื้อ ระหว่างนั้นเธอไม่แสดงอาการ แต่การตรวจพีซีอาร์ 6 ครั้งผลออกมาเป็นลบทั้งหมด เธอพ้นระยะกักกันเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ทว่าผลการตรวจซีพีอาร์ครั้งที่ 7 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมากลับออกมาเป็นบวก แต่หญิงคนนี้ออกเดินทางไปในหลายพื้นที่แล้วตั้งแต่พ้นระยะกักกัน ทั้งไปเยี่ยมครอบครัว เจอเพื่อน และชอปปิ้ง

    สำนักงานนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขติดตามผู้ต้องสงสัยที่สัมผัสกับหญิงคนนี้ได้แล้ว 210 ราย

    คำแถลงกล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจตัดสินใจใช้มาตรการล็อกดาวน์ โดยได้ถวายรายงานต่อสมเด็จพระราชาธิบดีตลอดค่ำคืนวันจันทร์

    ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ภายหลังรัฐบาลมีคำสั่งล็อกดาวน์ ผู้คนจำนวนมากเร่งรุดไปซื้อข้าวของจำเป็นเช่น ข้าว, ผัก, ไข่, น้ำมันพืชและยาสูบ.