กกต.ประกาศผลเลือกตั้งซ่อมปากน้ำเขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ "กรุง" โกย 4.6 หมื่นคะแนน ทิ้งเพื่อไทยเป็นทุ่ง ก้าวไกลฟอร์มตกได้ที่ 3 "อนุสรณ์" อ้างแพ้เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามเอาชัยชนะไปการันตีความนิยมในรัฐบาล พีเน็ตแฉบางพรรคแจกหัวละ 500 บาท

    เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำเขตเลือกตั้งที่ 5 จ.สมุทรปราการ  ประกาศผลคะแนนแบบไม่เป็นทางการของการเลือกตั้ง ส.ส.แทนตำแหน่งที่ว่างเมื่อวันที่ 9 ส.ค.63  นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 4 ได้ 46,747 คะแนน ตามมาด้วยนางสลิลทิพย์  สุขวัฒน์ พรรคเพื่อไทย เบอร์ 3 ได้ 21,540 คะแนน นายอิศราวุธ ณ น่าน พรรคก้าวไกล เบอร์ 2 ได้  19,977 คะแนน นายมานะ บุญนาค พรรคเสรีรวมไทย ได้ 8,905 คะแนน และนายวราวุฒิ ทิมเมือง  พรรคภราดรภาพ ได้ 513 คะแนน
    โดยมีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจำนวน 177,308 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 103,194 คน บัตรดี  97,682 บัตร บัตรเสีย 2,203 บัตร บัตรที่ไม่เลือกผู้สมัครรายใด 3,309 บัตร
    น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า จะเห็นได้ว่าการเลือกตั้งซ่อมทั้ง 2 ครั้งในช่วงที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐสามารถยึดที่นั่งในสภาได้ทั้ง 2 ครั้ง ผลการเลือกตั้งยังสะท้อนว่าพรรคเดินมาถูกทางแล้วในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมาที่ พล.อ.ประวิตรกำชับให้ทั้ง ส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ลงพื้นที่อย่างหนักเพื่อดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
    "พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายที่ผลักดันเป็นนโยบายรัฐบาลแก้ไขปัญหาปากท้องได้ โดยเฉพาะที่ผ่านมาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมและครองใจประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเหมือนสงครามสั่งสอน เพราะในขณะพรรคการเมืองบางพรรคยังคงหลงทาง มัวแต่ไปฝักใฝ่เรื่องการเมืองเพื่อหวังโค่นอำนาจรัฐบาล จนขาดความเชื่อมโยงกับประชาชน ขาดความเข้าใจในพื้นที่ต่างๆ เมื่อถึงเวลาหย่อนบัตรจึงเป็นเครื่องพิสูจน์" น.ส.ทิพานันกล่าว
    ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างว่าเป็นการเลือกในสถานการณ์พิเศษ ไม่สามารถรณรงค์หาเสียงได้เต็มที่เนื่องจากยังติด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยุทธศาสตร์ของพรรคพลังประชารัฐ พยายามทำให้เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น ทั้งที่เป็นการเลือกตั้งระดับชาติ มีการใช้วิธีจัดการพิเศษแบบปากน้ำโมเดล เมื่อใช้โมเดลนี้จึงมิอาจชี้วัดกระแสนิยม พล.อ.ประยุทธ์ได้
    "โพลหลายสำนักระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ตกต่ำ รวมทั้งช่วงหาเสียงไม่ปรากฏแกนนำพรรคพลังประชารัฐลงไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งช่วยผู้สมัคร เมื่อชนะจึงไม่ควรเอาชัยชนะครั้งนี้มาการันตี"
    ด้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า "แม้จะแพ้เราก็แพ้อย่างสมศักดิ์ศรี เราไม่เสียใจ แค่เสียดาย พร้อมจะสู้ต่อไป ทุกบทเรียนทำให้เรายิ่งเข้มแข็งขึ้น และเรายังคงเป็นพรรคการเมืองที่จะปักธงทางความคิด ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ทำการเมืองให้ประเทศไทยมีความเสมอภาค อย่างสร้างสรรค์"
    น.ส.ลัดดาวัลย์ ตันติวิทยาพิทักษ์ เลขาธิการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) เผยแพร่แถลงการณ์พีเน็ตว่า "ได้รับรายงานส่อทุจริตผ่าน QR Code จากประชาชนกระจายครบทุกพื้นที่ พบเหตุมากที่บางเสาธง คลองด่าน ศีรษะจรเข้น้อย ราชาเทวะ ศีรษะจรเข้ใหญ่ และบางบ่อ โดยมีลักษณะการแจกเงิน ให้เต็มจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในบ้านนั้นๆ เป็นการให้แบบปูพรมไม่ถามอะไรมาก เอาเงินใส่มือให้ง่ายๆ ตัวเลขที่รับรายงานตรงกันหมดคือ 500 บาท เบอร์เดียวตรงกันหมด มีการเก็บบัตรประชาชน สัญญาว่าจะให้ เจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง พบการซื้อเสียงในรูปแบบของการขายลอตเตอรี่โดยคนขายลอตเตอรี่ (เสื้อสีแดง) ได้มอบเงิน 1,000 บาทพร้อมลอตเตอรี่ให้แก่ผู้รับ (เสื้อสีดำขี่จักรยานยนต์) และหลังจากมีการบันทึกภาพคนขายลอตเตอรี่ จึงทำการย้ายที่ออกไปจากบริเวณดังกล่าว
    ผู้แจ้งเหตุรายหนึ่งกล่าวว่า มีการสอบถามคนในครอบครัวว่าได้เงินไหม ได้จากพรรคอะไร ได้กี่บาท ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า พรรค... ได้มาคนละ 500 บาท และได้ไปสอบถามคนอื่นๆ ที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ทุกคนก็บอกเหมือนกันว่าได้คนละ 500 จากพรรคนี้ กรณีแจกเงินตามรายจำนวนเสียงตามบ้าน การล่ารายชื่อล่วงหน้า ให้เป็นรายหัว หัวละ 500 บ้านมี 5 คน ทั้งสิ้น 2,500 บาท กรณีมีคนในหมู่บ้านมาขอชื่อสมาชิกในบ้านเพื่อนำไปดูว่าควรได้เงินกี่คน
     แล้วก่อนวันเลือกตั้งตอนเย็นประมาณ 18.30 น. มีคนซึ่งคนคนนี้ก็เป็นคนเดิมที่มาขอรายชื่อ แล้วนำเงินมายัดใส่มือคนละ 500 แต่ในที่นี้คือเขานำเงินรวมมาเป็นเงิน 10 คน คนละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 5,000 บาท กรณีมีคนในหมู่บ้านเดียวกันมาเรียกคนที่อยู่ในหมู่ 7 ซึ่งเป็นปีแรกที่เลือกตั้งได้เพราะอายุ 18 ปีพอดี เขามาถึงบอกว่าพรุ่งนี้ช่วยไปเลือกตั้งให้หน่อย ก็บอกว่าจะไปอยู่แล้ว เขาบอกว่าดีเลยงั้นช่วยๆ หน่อย เบอร์... เขาขอมา พร้อมกับส่งเงินให้ 500 บาท แต่รับมาก็ไม่ได้เลือก เพราะเบอร์... เป็นของพรรค...
     อีกกรณีได้รู้ข่าวจากพ่อแม่ว่าครอบครัวอื่นได้รับเงินจากพรรค...ที่ส่งผ่านมาทางผู้ใหญ่บ้าน 1 คนในครอบครัวนั้นๆ ที่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งจะได้รับเงินเป็นจำนวนเงิน 500 บาท ข่าวที่พ่อแม่รู้มานั้นมีชาวบ้านในหมู่บ้านที่ได้รับเงินบอกต่อๆ กันมา แต่ที่บ้านไม่ได้รับเงินที่ผู้ใหญ่บ้านนั้นใช้ซื้อเสียงให้... มีคนโกงกินแบบนี้ในหมู่บ้านแล้วรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
     จากการทำงานของพีเน็ต ในฐานะพลเมืองอาสาสมัครที่ใส่ใจประสงค์ให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม การเลือกตั้งเป็นหลักประกันที่สะท้อนเสียงบริสุทธิ์ของผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ผู้เกี่ยวข้องต่างได้ทำหน้าที่อย่างมุ่งมั่นทุ่มเทด้วยใจที่มีหลักประชาธิปไตย จึงมีข้อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะต่อการเตรียมการเลือกตั้งท้องถิ่นที่น่าจะมีขึ้นในอีกไม่นานนี้ ดังนี้
    1.พัฒนาระบบการป้องปรามปราบปรามการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ตลอดจนการทุจริตการเลือกตั้ง ให้เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจได้ 2.เตรียมมาตรการที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นกับสาธารณชน ว่าผลของการซื้อสิทธิ์ขายเสียงจะไม่มีอิทธิพลต่อผลการเลือกตั้ง และมีมาตรการที่ชัดเจนที่จะทำให้การทุจริตเลือกตั้งลดน้อยลง 3.พัฒนาระบบการจัดการเลือกตั้ง ให้มีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่เป็นมืออาชีพ การบริหารจัดการหน่วยเลือกตั้ง
    เพิ่มจำนวนหน่วยเลือกตั้งมากขึ้นให้สอดคล้องกับการระบาดของโรคที่ความเสี่ยงต่ำลงอย่างมาก ยกเลิกผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ไม่มีผลงานการทำงาน และสนับสนุนให้มีอาสาสมัครตรวจสอบการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และ 4.สนับสนุนให้องค์กรเอกชน ภาคประชาสังคม สถาบันวิชาการ เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนา ทำให้การเลือกตั้งเป็นกลไกที่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง"
    นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.เผยว่า เลือกตั้งซ่อมคราวนี้มีคนรายงานมาไม่มาก เพียงแค่ 19  ราย แต่ตัวเลขตรงกันหมดคือ 500 บาท เบอร์เดียวตรงกันหมด ต้องการเพียงให้ กกต.รู้ว่าท่านสามารถจัดการเลือกตั้งโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่คิดจะส่งรายงานให้ กกต. เสียเวลาสรุปและลงไปเก็บข้อมูลในรายละเอียด เพราะกรณีลำปางที่หลักฐานมากมายก็พิสูจน์แล้วว่าท่านไม่ใส่ใจอะไร ถึงวันนี้ยังไม่มีการติดต่อให้ตนไปให้ข้อมูล สมุทรปราการก็ประกาศผลเลย เพราะน่าจะอีกไม่นานคาดว่าจะยุบสภาแล้ว.