จบข่าว! บอร์ดสลากฯ ยืนยันไม่มีนโยบายทำสลากออนไลน์ ชี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม หลังผู้ขายยังไม่มีความพร้อมใช้ระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมห่วงกระทบทำสลากใบขายยากขึ้น ลั่นขอมุ่งเดินหน้ารวมชุดขายแก้ปัญหาหวยแพงอย่างเดียว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2561 อนุมัติหลักการร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 หรือ พ.ร.บ.สลากฯ โดยมีสาระสำคัญเพื่อให้สำนักงานสลากฯ สามารถสมทบเงินรางวัลเพื่อทำสลากฯลอตโต ที่มีรางวัลแจคพ็อตใหญ่ได้ ว่าขอยืนยันชัดเจนว่าคณะกรรมการสลากฯ ไม่มีนโยบายทำสลากออนไลน์ หรือลอตโต้เพื่อจ่ายเงินรางวัลแจ๊กใหญ่ในตอนนี้

แต่จะมุ่งทำเฉพาะสลากฯ รวมชุดเพื่อแก้ไขปัญหาลอตเตอรี่ราคาแพงเท่านั้น เพราะประเมินว่าสถานการณ์ขณะนี้ไม่มีความเหมาะสม เนื่องจากผู้ขายยังไม่มีความพร้อมใช้ระบบคอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังกลัวว่าสลากฯออนไลน์จะเป็นคู่แข่งทำให้สลากฯ ใบขายได้ยากขึ้นด้วย

“การปรับปรุงพ.ร.บ.สลากฯ รอบนี้ถือเป็นการทำครั้งแรกในรอบ 40 ปี เพื่อต้องการแก้ปัญหาสลากฯ ในปัจจุบันและวางรากฐานสลากฯ ไปสู่อนาคตอีก 20 ปี ส่วนการแก้กฎหมายเพื่ออนุญาตให้สำนักงานฯ สามารถสมทบเงินรางวัลแบบลอตโต้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องให้สำนักงานสลากฯ ทำโดยทันที แต่เป็นการมองไปไกลถึงอนาคต  ถ้ามีความพร้อมก็ค่อยศึกษาดูโดยมีกฎหมายฉบับนี้รองรับได้ไม่ต้องเสียเวลาไปแก้กฎหมายกันใหม่ อย่างไรก็ตามระหว่างนี้หากใครมีข้อเสนอแนะการทำสลากฯออนไลน์ หรือสลากฯรูปแบบใหม่เข้ามา สำนักงานสลากฯ ก็พร้อมรับฟังเพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในอนาคต” นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา พ.ร.บ.สลากฯ พ.ศ.2517 ก็ให้อำนาจสำนักงานสลากฯ ทำสลากออนไลน์ หรือผลิตภัณฑ์เสี่ยงโชคใหม่ๆ อยู่แล้ว แต่ที่มีการแก้ไขกฎหมายใหม่เพื่อต้องการให้สำนักงานฯ สามารถนำเงินรางวัลในงวดที่ไม่มีใครถูกรางวัลไปสมทบในงวดต่อๆไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายรางวัลทุกงวดตามที่กฎหมายเก่ากำหนดไว้จะต้องจ่าย 60% ของยอดขายในทุกๆ งวด ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการ หรือการออกสลากฯแบบใหม่ในอนาคต

ส่วนการบังคับใช้ พ.ร.บ.สลากฯ ใหม่ หลังจากนี้จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ส.น.ช.) ก่อน และประกาศลงพระราชกิจจานุเบกษา ขณะเดียวกันสำนักงานสลากฯ  ต้องมีการออกกฎหมายลูกด้วย เช่น การกำหนดโทษกรณีการขายสลากฯ ในสถานศึกษา และห้ามขายให้บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ความคืบหน้าการจัดทำสลากฯรวมชุด ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็น โดยคณะกรรมการสลากฯ จะลงพื้นที่ในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้ หากได้ข้อสรุปก็พร้อมดำเนินการทันที