ชวนสั่งหาตัวสส.ตบทรัพย์แลกงบ


เพิ่มเพื่อน    

 "ชวน" สั่งเลขาฯ สภาตรวจสอบ ส.ส.ตบทรัพย์ 5 ล้านแลกผ่านงบ ชี้อธิบดีน้ำบาดาลพูดเองปล่อยผ่านไม่ได้ "เรืองไกร" ร้องให้จัดการ กมธ.งบ 64 ทั้งยวง แฉทำเป็นกิจการโรงงานสภาตั้งแก๊งทั้งรัฐบาล-ฝ่ายค้าน "สันติ" ขึงขังไล่บี้อนุฯ ทุกชุด "แนน" ปัดเอี่ยวพร้อมให้สอบ

    ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะอนุกรรมาธิการแผนบรูณาการ 1  ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบ 2 กรณี  คือ 1.เรื่องค่าค้างตั๋วเครื่องบินของอดีต ส.ส. 113 คน และ 2.ตรวจสอบกรณีมี ส.ส.ในอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 เรียกรับเงินจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล 5 ล้านบาท เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่คณะ กมธ.ชุดใหญ่จะเป็นผู้ตรวจสอบกันเอง  
    นายเรืองไกรกล่าวว่า เห็นคาตาว่าประเด็นดังกล่าวมีการโต้แย้งกันในห้องประชุม เพราะยืนฟังอยู่  รวมทั้งมี ส.ส.ที่เป็น กมธ.ยืนอยู่หลายคน และในฐานะที่เป็นนักตรวจสอบเชื่อว่าเรื่องนี้มีมูล แต่สุดท้ายอยากให้อธิบดีมาเปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อว่ากระบวนการนี้ต้องมี ส.ส.ในอนุ กมธ.เกี่ยวข้องเกินกึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 10 คน ถึงจะดำเนินการใดๆ ได้
    นอกจากนี้ภายหลังเกิดเรื่องยังมี ส.ส.พูดกับตนว่าอย่ายุ่งเรื่องนี้ได้หรือไม่ ในขณะเดียวกันภายหลังที่ยื่นเรื่องให้นายชวน ก็ปรากฏในไลน์กลุ่ม ส.ส.ว่ามีการเขียนเลยว่า "ปวดตับ" สำหรับเรื่องเงิน 5 ล้านบาทได้ยินว่ามีผู้เกี่ยวข้องทั้ง 2 ฝ่าย โดยมีฝ่ายรัฐบาล 2 คน รวมทั้งอดีต ส.ส.ที่ไปอยู่กับฝ่ายรัฐบาล และอาจจะเกี่ยวข้องกับฝ่ายค้านด้วย ทั้งนี้ได้ตอบกลับไปว่าตนหยุดไม่ได้เพราะประชาชนอยากรู้ นอกจากนี้ในการทำงานยังมีหนังสือจาก กมธ.ชุดใหญ่ลงมาแทรกแซงคณะอนุ กมธ.ให้ดำเนินการตาม จึงเป็นเรื่องที่ชุดใหญ่จะต้องชี้แจงด้วย ดังนั้นนายชวนจึงควรลงมาดูด้วยตนเอง  
    เมื่อถามว่าขบวนการที่เกิดขึ้น ส.ส.มีการฮั้วกันทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่าได้ยินมานานแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องงบประมาณมีความผิดปกติมาตั้งแต่ปี 2563 แล้ว เพราะที่ผ่านมามีการตั้งอนุ กมธ.เพียง 5 คณะ แต่ปีนี้แปลกมากที่มีการตั้งอนุ กมธ.ถึง 8 คณะ มีผู้ใหญ่จากพรรคร่วมรัฐบาลบ่นกับตนว่าจะเอากันขนาดนี้เลยหรือ และมีการแย่งตำแหน่งประธานอนุ กมธ. เรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากลและมีความพยายามจะปิดให้จบภายในวันที่ 11 ก.ย. เพราะสภาจะปิดสมัยประชุมวันที่ 20 ก.ย.
    ส่วนเรื่องเรือยางของกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ที่มีกระแสข่าว ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ไม่ใช่คณะอนุ กมธ.คุรุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ที่มีนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐเป็นประธาน พยายามล็อบบี้ไม่ให้มีการตัดงบ รวมทั้งให้ตรวจสอบ 6 คณะอนุ กมธ.อื่นๆ  ว่ามีเรื่องทำนองเดียวกันหรือไม่ เพราะตอนนี้สภาพของสภาคือ "กิจการโรงงานสภา" ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ควรมาร่วมสอบด้วย เพราะว่าประเด็นนี้เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144  
    ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หนังสือของนายเรืองไกรยังมาไม่ถึง แต่ได้สั่งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรติดตามเรื่องนี้แล้ว เพราะเป็นเรื่องที่อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลพูด จึงเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบว่าเรื่องจริงๆ เป็นอย่างไร และไม่ควรปล่อยปละละเลย โดยเฉพาะ กมธ.ชุดนี้จะต้องสอบเพราะเขาก็ต้องรับผิดชอบ
    นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 2564 กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น กมธ.งบฯ จะเรียกอนุกรรมาธิการชุดดังกล่าวเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง ก่อนพิจารณาว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องนี้หรือไม่ แต่ขอชี้แจงว่าคณะอนุกรรมาธิการฯ ไม่มีอำนาจตัดลดงบประมาณ และไม่ใช่แหล่งผลประโยชน์ มีเพียงหน้าที่ตรวจสอบความเหมาะสมในการจัดสรรงบประมาณของแต่ละหน่วยงานเพื่อเสนอ กมธ.งบฯ ชุดใหญ่เท่านั้น ดังนั้น อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดจึงอยู่ที่ กมธ.งบฯ ชุดใหญ่เท่านั้น และจะเริ่มปรับลดงบประมาณในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ ทั้งนี้ในการพิจารณาของ กมธ.งบฯ ชุดใหญ่จึงไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่หน่วยงานต้องเอาใจอนุกรรมาธิการฯ
    เมื่อถามว่าจะสามารถให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ใน กมธ.งบฯ ชุดใหญ่ นายสันติยืนยันว่าการพิจารณาในชั้น กมธ.งบฯ ชุดใหญ่ มีการเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายร่วมกันแสดงความคิดเห็น และมีการถ่ายทอดสดการประชุมทุกครั้ง ตั้งแต่มีการประชุมมายังไม่เคยมีการประชุมลับ จึงมั่นใจว่าการพิจารณาเป็นไปอย่างโปร่งใส เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นภาษีของประชาชน กมธ.ฯ ต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
    ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าไม่ได้มีแค่คณะอนุกรรมาธิการฯ ชุดนี้แค่ชุดเดียวที่มีการเรียกเงินนั้น นายสันติกล่าวว่าจะเชิญอนุ กมธ.ฯ ทุกคณะมาสอบเช่นกัน
    นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลออกมาเปิดเผยรายชื่อว่าใครที่ทำแบบนั้น หรือตัวอนุฯ เองคนใดที่มีข้อมูลก็ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน อย่าหลบอยู่ข้างหลังเพราะจะทำให้ประชาชนเคลือบแคลงใจในสิ่งเหล่านี้
    สำหรับการประชุมอนุกรรมาธิการวันดังกล่าว ประธานอนุฯ เห็นบรรยากาศไม่ดีเพราะมีการโต้แย้งกัน จึงสั่งพักประชุมก่อนแล้วมาต่อในช่วงบ่าย และในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องตบทรัพย์กัน แต่อธิบดีเพียงบอกว่ามีการบันทึกเสียงไว้แล้วก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องประชุม
    น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็น โดยทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมตลอดทั้งวัน แต่เมื่อถึงช่วงที่เป็นปัญหานั้นเสียงในที่ประชุมดังมาก ซึ่งไม่แน่ใจว่าอธิบดีพูดเรื่องถูกเรียกรับเงิน 5 ล้านบาทจริงหรือไม่ ในฐานะที่เป็นประธานจึงขอให้ที่ประชุม กมธ.งบฯ ชุดใหญ่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง  เนื่องจากต้องการให้เกิดความโปร่งใส เพราะหากให้อนุกรรมาธิการฯ เป็นคนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเองเกรงว่าสังคมจะไม่เชื่อถือ เนื่องจากขณะนี้ภาพลักษณ์ของคณะอนุกรรมาธิการฯ ก็ออกมาในเชิงลบแล้ว ทั้งนี้ให้ กมธ.งบฯ ชุดใหญ่เป็นผู้ตัดสินใจว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งให้ประธานสภาตั้งกรรมการสอบด้วยตนเองหรือไม่ เพราะหากให้ กมธ.งบฯ ชุดใหญ่เป็นผู้ตรวจสอบจะดูเหมือนว่าตรวจสอบกันเอง
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพบรรยากาศการประชุม ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า มีอนุกรรมาธิการฯ บางคนแสดงสีหน้าไม่พอใจ ถึงขั้นมีบางคนเอ่ยปากกลางห้องประชุมในทำนองว่า "จะให้ถ่ายภาพอะไรอีก เมื่อวานนี้ (9 ส.ค.) ก็เป็นข่าวหน้าหนึ่งไปแล้ว วันนี้จะให้หน้าหนึ่งอีกเหรอ" ซึ่งในขณะนั้นอยู่ระหว่างการเชิญเจ้าหน้าที่จากกระทรวงคมนาคมเข้ามาชี้แจงงบประมาณ นอกจากนี้ยังพบว่าอนุกรรมาธิการฯ บางคนมีสีหน้าเคร่งเครียดระหว่างการประชุม ก่อนจะเชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุมโดยไม่อนุญาตให้เข้าฟังแต่อย่างใด.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"