รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (10 ส.ค.) "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" เปิดใจสัมภาษณ์ "ทนายเจมส์-นิติธร แก้วโต" กรณีคดี "เก้า เกริกพล" กับ "เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น"

ตอนนี้เรื่องไปถึงไหนแล้ว?
          "กำลังร่างคำฟ้อง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตอนนี้พยานรู้เห็นในเหตุการณ์เรื่องตกลง 70-30 มี 3 คน หนึ่งคือน้องเก้า สองแม่ สามน้องเจนนี่ หลังจากนี้ข้อเท็จจริงทั้งสองฝั่ง ที่มันไม่ตรงกัน น้องเก้าอ้างว่าพูด 70-30 แล้ว 30 เปอร์เซ็นต์จะได้หลังจากมีส่วนแบ่งของกำไรจากยอดวิว"

ต้องหักค่าใช้จ่ายก่อนเหรอ?
          "ในเรื่องค่าใช้จ่ายเขาไม่พูดถึง น้องเก้าเขามีต้นทุนของเขา ฐานแฟนคลับ มีชื่อเสียง แล้วก็มีผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ เขาไปออกรายการเดอะวอยซ์คิด ได้แชมป์มา ส่วนตัวน้องลิลลี่ เขาเป็นนักร้องหญิงก็จริง แต่ตัวเขายังไม่มีฐานแฟนคลับ ฉะนั้นเพลงนี้จะดังได้ก็ต่อเมื่อมีฐานแฟนคลับที่เข้ามาดู เข้ามากดไลก์ มาแชร์ ยอดก็จะขึ้น ฉะนั้นถ้าสังเกตดูเพลงนี้ เอ็มวีนี้ประกอบไปด้วยเพลงซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของน้องเจนนี่ ประกอบไปด้วยนักร้องหญิง ซึ่งเป็นหน้าที่น้องเจนนี่และทุนที่น้องต้องไปหามา น้องเก้าลงทุนด้วยชื่อเสียง ด้วยน้ำเสียง และฐานแฟนคลับตัวเองที่มี  ก็กลายมาเป็นมิวสิกวิดีโอ เป็นชิ้นงานขึ้นมา ฉะนั้นในเมื่อไม่ได้ตกลงเรื่องราคาค่าแรง เลยเป็นการร่วมลงทุน โดยจะมีการแบ่งผลประโยชน์ในภายภาคหน้า คือ 70-30
          เรื่องมันก็เกิดจากการที่สองฝั่งพูดไม่ตรงกัน ฝั่งน้องเก้าบอกว่าพูดเรื่อง 70-30 บอกก่อนจะไปถ่ายเอ็มวี ส่วนน้องเจนนี่บอกว่าจะให้ 70-30 จริง แต่น้องต้องมาเซ็นสัญญากับค่ายซะก่อน ซึ่งตรงนี้น้องเก้าก็แย้งๆ ว่าตอนที่มาชวน ค่ายยังไม่มีเลย ค่ายเพิ่งจดเมื่อเดือนเม.ย.ปี 62 จะเอาค่ายมาจากไหน มีข้อเท็จจริงที่เขาแย้งกันอยู่ เมื่อข้อเท็จจริงสองฝั่งไม่ตรงกัน คนที่จะวินิจฉัยชี้ขาดได้ดีที่สุดคือศาล เอาข้อเท็จจริงมาวางรวมกัน แล้วให้ศาลชั่งน้ำหนัก ท้ายที่สุดผมเชื่อเลยฝั่งนึงต้องพูดเท็จ อีกฝั่งนึงต้องพูดจริง ความจริงมีแค่อย่างเดียว    
          ทีนี้ศาลจะพิจารณายังไงในเมื่อสองฝ่ายพูดไม่ตรงกัน ศาลจะดูจากพฤติการณ์ สิ่งที่คุณพูด คุณพูดเมื่อไหร่ ประเด็นอยู่ตรงนี้ คุณพูดก่อนทำเอ็มวี หรือพอยอดวิวขึ้นแล้วถึงค่อยมาตั้งเงื่อนไขในการจ่ายเงิน เห็นน้องเก้าบอกว่า 70-30 คือต้องมาเซ็นสัญญาค่าย และไม่ได้ได้ในเพลงนี้นะ ได้เพลงต่อไป"

อันนั้นคือสิ่งที่น้องเก้าต้องสู้?
          "ถูกต้องครับ ตามธรรมชาติมนุษย์ไม่มีใครเอาข้อเสียตัวเองออกมาพูด และพูดในสิ่งที่ตัวเองได้เปรียบและสาดโคลนอีกฝั่งนึงว่าไม่ดีอย่างนั้น ไม่ดีอย่างนี้ ผมเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์เลย ยกเว้น 3 คนเมื่อกี้ ฉะนั้นศาลจะวินิจฉัยชี้ขาดได้ดีที่สุด ยกเว้น ณ วันนี้มีใครสักคนมาเป็นคนกลางให้ในการไกล่เกลี่ย ซึ่งสองฝั่งให้ความเคารพนับถือเจรจากันจบ อาจจะไม่จบที่ 70-30 ก็ได้ จบที่ความพอใจก็ได้ ซึ่ง ณ วันนี้ถามว่าวิธีการของผมนอกจากเรียกผลประโยชน์ 70-30 แล้ว ยังสามารถทำอะไรได้อีก มี 2 วิธีการคือหนึ่งมาทวงกันเรื่องลิขสิทธิ์ในชิ้นงาน อีกเรื่องคือเรื่องค่าตัวเวลามารายการต่างๆ น้องมีค่าตัวนะครับแต่น้องไม่เคยรู้มาก่อน น้องได้ 500 บาท ที่เห็นชัดๆ ตอนนี้คือรายการช่องนึงออกมาบอกว่าให้ค่าตัวน้อง 3,500 บาท นั่นเป็นการยักยอกทรัพย์หรือไม่"

ถ้าดูโซเชียล แฟนคลับทั้งหลายอยู่ข้างไหน?
          "ส่วนใหญ่น้องเก้า ฐานแฟนคลับสองฝั่งมีอยู่แล้ว แต่มาดูตรงกลางดีกว่า เสียงจากคนที่ไม่ได้เป็นติ่งใครเลย เขาก็มองว่าเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ความรู้สึกมันน้อยไปไหมที่จะให้น้องแค่นั้น"

ให้ 500 ผิดธรรมชาติ?
          "ครับ สิ่งที่น้องเขาโต้แย้งมาว่าถ้า 500 มันไม่พอ ทำไมไม่โต้แย้ง โน่นนี่นั่น ผมกำลังจะบอกว่าน้องเก้าเป็นเด็กดีมาก เป็นคนขี้เกรงใจ เขาได้มาในขณะที่เขาไม่รู้เลยว่ารับมาทั้งหมดเท่าไหร่ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าค่าตัวเขามี เขาได้ 500 เขารู้หรือเปล่าว่าเป็นเงินรายการหรือเงินพี่เจนนี่ สมมติเด็กเข้าใจว่าเป็นเงินเจนนี่ ความเกรงใจก็มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นผมกำลังจะบอกว่าใดๆ ก็แล้วแต่ ไม่ควรเอาความซื่อสัตย์หรือความใจดีของคนอื่น ไปเอาเปรียบเขา"

ตอนนี้เจนนี่ติดต่อมาไหม?
          "ไม่มีครับ ผมยังหวังอยู่ลึกๆ ว่าน่าจะมีเวทีใดเวทีนึง กำลังหาช่องทางอยู่อาจจะขอให้ระหว่างรอคดีแพ่งเราร่างฟ้องคดี ไปดูในมุมลิขสิทธิ์ เพราะน้องอยู่ในเอ็มวี กรณีกฎหมายพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ กำหนดไว้ชัดเจนเลยว่าถ้าไม่จ่ายค่าตอบแทนนักแสดงให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์นักแสดง"

สมมติเงิน 3,500 เป็นเงินของรายการแต่น้องได้ 500 เข้าข่ายยักยอก?
          "ต้องบอกว่าน้องไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีค่าตัว ฉะนั้นการที่ใครก็แล้วแต่รับเงินแทนเขามา อย่าลืมนะว่ารายการประสงค์ฝากให้น้องเก้า โดยผ่านบุคคลนึงที่ไปเซ็นมา พอบุคคลนั้นรับเงินมาแล้ว ไม่ให้น้องเก้าทั้งหมด แต่ยักไว้บางส่วน นั่นอาจเข้าข่ายยักยอกทรัพย์ เรียกว่าเบียดบังทรัพย์เป็นของตัวเอง"

เอ็มวีมีโฆษณาไทน์อินอยู่ในนั้นถ้าเขาไม่พูดความจริงทั้งหมด แล้วไปอ้างต้นทุนตรงนั้นจะเข้าข่ายอะไร?
          "ภาษาทั่วไปเรียกว่าโฆษณาแฝง เขาต้องจ่ายค่าสปอนเซอร์มา ต้นทุนเป็นศูนย์ รายได้จากยอดวิวจะเอาไปหักจากต้นทุนไม่ได้ จะเป็นการเอาเปรียบ"

คดีปัญหากับพ่อและป้า?
          "คดีนั้นผมไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะในสถานการณ์หนึ่งมีป้าโพสต์ในเฟซบุ๊กประมาณว่าน้องเจนนี่ไม่ดูแลพ่อ น้องก็ไปแจ้งความดำเนินคดีกับป้าข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เสร็จแล้วมีการปรับความเข้าใจกันแล้วให้ป้ากับพ่อไลฟ์สดโพสต์ขอโทษน้องเจนนี่ ก็ปฏิบัติตามทุกอย่างแล้ว แต่น้องไม่มีการถอนแจ้งความ สุดท้ายป้าต้องขึ้นมาจากใต้มั้งถ้าผมจำไม่ผิด แกต้องไป สน.สมุทรปราการ
          ผมก็ไปดูแล และเจอพ่อน้อง วันนั้นมาเจอในสภาพผมก็ยกมือขอโทษเขาก่อนว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะสภาพซูบผอมตัวเหลือง เขาก็เปิดให้ดูว่าฝังท่อน้ำดีอะไรสักอย่าง พ่อเขาป่วยทำงานหนักไม่ได้ ถ้าไม่มีงานกลางคืนเขาก็ไปตัดผม ซึ่งร้านตัดผมอยู่ในร้านนึงของร้านเสริมสวยของป้าที่เขาแบ่งที่ให้ตัดผม เห็นว่าปัจจุบันขายกล้วยทอด ต้องดิ้นรนทุกอย่าง"

ที่บอกว่าพ่อไม่มีเงินกลับบ้าน จนแมนต้องให้เงินไป ใช่ไหม?
          "ถูกครับ วันนั้นเขาไปคุยกับนักข่าว ผมก็ได้ยินเอง พอได้ยินก็คิดว่าต้องช่วยแล้ว จังหวะพอดีช่วงนั้นดีเจแมนโทรมาถามผมพอดี ผมก็เลยเล่าให้ฟัง แมนเลยบอกว่าเฮ้ย ขอช่วยเขาได้มั้ย ผมก็บอกว่าเอาดิ ผมเลยไปขอเลขที่บัญชีเขามา แมนก็โอนตังค์ให้มา ผมก็มอบให้หน้างาน เขาก็ได้ค่ารถกลับบ้านไป ตอนที่ผมได้ยิน เขาบอกว่าเขาไม่มีค่ารถขึ้นมาจากใต้เพื่อเป็นพยานให้ป้าเขาไปยืมเงินคนข้างบ้านเพื่อนั่งรถไฟขึ้นมา ผมก็โห ร่างกายก็ไม่แข็งแรง แล้วต้องมาเดือดร้อนเรื่องนี้อีก ก็นั่นแหละช่วยเหลือค่ารถกลับไป"

เจนนี่บอกว่าช่วย 5 พัน แต่พ่อบอกว่าได้ 3 พัน ตกลงเท่าไหร่?
          "เท่าที่ได้ยินมา คุณพ่อเขาบอกว่าน้องพูดในรายการว่าให้เดือนละ 5 พัน แต่พ่อบอกกับผมว่าเขาได้แค่ 3 พันบาท สาเหตุที่ได้เพราะเขาแต่งเพลงเลิกคุยทั้งอำเภอนี่แหละ ไม่ใช่ได้ทุกเดือน เป็นค่าจ้างแต่งเพลง น้องเจนนี่แต่งเป็นกลอนมา นอกนั้นคือพ่อแต่งตั้งแต่ต้น แล้วมาฮุกเอาของเจนนี่ใส่ ส่วนท้ายพ่อแต่ง พ่อยืนยันไม่ใช่เงินเดือน?

แสดงว่าเดือนละ 5 พันไม่จริง?
          "เท่าที่ได้ยินมาก็ไม่จริง ข้อเท็จจริงตรงนี้ก็ย้อนแย้งกันอยู่ ก็ต้องไปสอบถามน้องเจนนี่อีกทีว่าที่เขาพูดในรายการเป็นยังไงกันแน่ ให้เขาอธิบายอีกที"

แต่มีคนบอกว่าเจนนี่ให้เงินพ่อแฟนเป็นปึกใหญ่เลย?
          "อันนี้มีปรากฎในภาพสื่อสังคมออนไลน์ ผมก็ไม่แน่ใจว่าจำนวนเท่าไหร่ แต่มีภาพว่าให้เงินพ่อแฟนจริง เป็นปึกไหมไม่แน่ใจจำนวน แต่มากกว่า 3 พันแน่นอน"

หลายคนกำลังมองเจนนี่ในภาพลบ เช่นการเอาเปรียบ การพูดไม่จริง เรื่องนี้ปรากฎหมด?
          "สิ่งที่สื่อโซเชียลเขาลง เขาก็ลงจากภาพต่างๆ ที่ปรากฎในสื่อเฟซบุ๊กของน้อง คราวนี้เป็นประเด็นของน้องที่น้องต้องมาแก้ต่างหรือแก้ไขในส่วนนี้"

ตอนมีเรื่องมีราว เจนนี่ถูกขุดเรื่องอะไรบ้าง?
          "ส่วนใหญ่เรื่องค่าแรงเด็กๆ ที่อยู่ในค่าย ซึ่งน้องเจนนี่ก็ออกมาแก้ข่าวต่างๆ บางคนก็ให้ข่าวว่าเด็กอยู่ในค่ายถูกเอาเปรียบ น้องก็ออกมาแก้ข่าวโดยเอาเด็กในสังกัดมาพูดว่ากินดีอยู่ดีมั้ย ไลฟ์สด ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง เพราะเวลาโซเชียลขุดกระแสบางอย่างก็เป็นการปั่น ปั่นปั๊บคือเรื่องไม่จริง ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชมนิดนึง"

เรื่องที่เขาบอกว่ามีเพื่อนไปส่งข้าวส่งน้ำที่โรงแรมตอนเขากำลังหนีหนี้ อันนี้จริงไหม?
          "ส่วนนี้น้องเคยพูดในรายการ แต่มีสื่อโซเชียลตั้งข้อสังเกตว่าในเมื่อคนให้ข้าวให้น้ำในช่วงชีวิตย่ำแย่มากที่สุด คนๆ นั้นควรเป็นหนึ่งในผู้มีพระคุณของคุณไหม แต่ ณ วันนี้คนๆ นี้ยังไม่โผล่หน้ามาเลยว่าเป็นใคร เขาก็เลยสงสัยว่ามีตัวตนจริงไหม ชื่อเสียงเรียงนามคืออะไร มันคือเหตุการณ์อะไรกันแน่ ที่บอกว่าหนีหนี้ มันจริงหรือเปล่า คนสงสัยกัน"
 
ชื่อเสียงเจนนี่ได้รับผลกระทบจากการขุดของโซเชียลและพฤติกรรมในคดีที่โดนอยู่ตอนนี้ไหม?
          "โดนผลกระทบแน่นอน เท่าที่ดูจากเพจของน้องเหรือเฟซบุ๊กส่วนตัวก็มีคนติดตามอยู่เยอะแยะนะเป็นล้านเหมือนเดิม ประเด็นคือเขาอยู่เพื่อติดตามหรืออยู่เพื่อชื่นชม อีกประเด็นคือการที่มีคนติดตามจำนวนมากๆ ไม่ได้สื่อให้เห็นถึงความนิยมชมชอบนะ การที่มีผู้คนอยู่มากมาย ไม่ได้หมายความว่าน้องเขาจะโอเคอยู่ ยกตัวอย่างหลายๆ เพจที่มีปัญหาลักษณะอย่างนี้ จำนวนเป็น 10 ล้าน แล้วมีคนอันฟอลโลว์ล้านกว่าคน เพจบอกว่าไม่มีปัญหาอะไร สุดท้ายสิ่งที่เขาต้องยอมคือการที่ผู้ว่าจ้างหรือผู้ที่ให้โฆษณาสินค้าแบน"

กรณีนี้ก็กำลังมีแคมเปญนี้เหมือนกันว่าต้องเลิกจ้าง?
          "เหมือนเป็นสูตรสำเร็จ พวกสื่อโซเชียลเขากดดันไม่ได้ ก็ไปกดดันผู้ว่าจ้างแทนสินค้าตัวไหนเขาก็จะไปโจมตี เอาทัวร์ไปลง วิธีการแบบนั้นเลย"

เขาถูกเลิกว่าจ้างหรือยัง?
          "เท่าที่ดูจากข่าว มีโฆษณาบางตัวถูกถอดจากเพจไป หรือยกเลิกรายการแสดงบางรายการก็มี คอนเสิร์ตเขาเปลี่ยนตัวก็มี น่าจะพอได้รับแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นผลกระทบพอให้น้องกลับมาคุยกับน้องเก้ามั้ย อันนี้ไม่รู้"

อยากให้เขากลับมาคุยกันหรือจะดำเนินคดี?
          "ผมมองว่าน้องเป็นเด็กมีความสามารถ ผมเสียดายซะด้วยซ้ำ ที่จะมีเด็กรุ่นใหม่แบบนี้ ที่ตั้งใจทำมาหากินแบบนี้ เพราะปัจจุบันนี้เด็กบ้านเรา 20 กว่ายังไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย ยังไม่รู้จักการทำมาหากิน อันนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในมุมทำมาหากิน แต่ผมอยากจะทิ้งท้ายไว้แบบนี้ คนทุกคนอาจจะผ่านเรื่องราวเลวร้ายในชีวิตตัวเอง แต่อย่าเอาเหตุผลตรงนั้นมาใช้เอาเปรียบคนอื่น ผมไม่ได้ว่าใครนะ ผมยกตัวอย่างให้ฟัง"

ถ้าหากเจนนี่เขาสะดุด ในโซเชียลจะมองว่าเอาเปรียบหรือเปล่า ถ้าเจมส์จะพูดคุยกับเขา จะแนะทางออกยังไง?
          "ถ้าผมคุย ผมจะไม่คุยเรื่องเก่า เอาเปรียบหรือเปล่าผมไม่รู้ แต่ผมจะถามเขาว่าจะจบเรื่องนี้ยังไง ถ้าจะจบง่ายๆ เลยจบสวยทั้งสองฝ่าย อาจต้องมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวจับมือกันและช่วยเหลือน้องไปในส่วนที่น้องพึงพอใจ ผมเชื่อว่าน้องเองไม่ได้ติดใจอะไรมากมาย สังเกตได้ว่าเขาเงียบมาเป็นปีแล้ว พอมีกระแสสังคมเนื่องจากมีทัวร์ไปลงพ่อเขา เขาก็ต้องออกมาปกป้องความเป็นพ่อ ความเป็นตระกูลของเขา เท่านั้นเอง"

น้องเจนนี่โดนเรื่องเอารัดเอาเปรียบ เขาจะแก้ไขภาพนี้ยังไง?
          "ถ้าผมแนะนำ ต้องใช้น้ำดีไล่น้ำเสีย ต้องสร้างผลงานที่ดีขึ้นมาใหม่ เพื่อไล่ภาพเก่าออกไป สังคมไทยถ้าเขาขอโทษ ก็ให้อภัย"

ถ้าเขายังเงียบอยู่ทำไงดี?
          "อันนี้ก็แล้วแต่นะครับ แต่อยากจะบอกว่าสื่อโซเชียล หรือนักรบไซเบอร์เป็นอะไรที่อันตรายมาก เพราะเขามีขุมกำลังที่เราไม่รู้จักว่าเป็นใคร มีเป็นล้านๆคน เราคงสู้ไม่ไหว"

เขาคงไม่ปล่อยให้เจนนี่เงียบจนกว่าจะออกมาพูดอะไรบางอย่าง?
          "อันนี้ตอบแทนไม่ได้จริงๆ แต่จากประสบการณ์ที่เจอเขาไม่ยอมจริงๆ จนกว่าจะออกมาพูดอะไรบางอย่าง และต้องแก้ไขสมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ถ้าไม่สะดวก 70-30 มันก็ต่อรองกันได้"

ขอบคุณภาพประกอบเพิ่มเติมจากอินสตาแกรม janey_suwannaket  และ gerkpon_petcharat