ชีวิตชีวาบนถนนเยาวราช


เพิ่มเพื่อน    

      ถนนที่ไม่เคยหลับ อย่างถนนเยาวราช ที่นักท่องเที่ยวเรียกขานกันว่าไชน่าทาวน์นั้น ดูเหมือนว่าวันนี้..ตื่นขึ้นแล้ว หลังจากหงอยเหงาเศร้าซึมเหมือนคนกินยานอนหลับมานานโขติดต่อกันกว่า 3 เดือน

        ลองแวะเวียน หรือขับรถผ่านไปช่วงเวลาหลัง 3 ทุ่มสิ จะพบว่าชีวิตยุคก่อนเกิดไวรัสโควิด-19 ระบาดนั้น หวนกลับมาคึกคักอีกแล้ว อย่างเงียบๆ แบบนิวนอร์มอล

      แถวยาวเหยียดที่รอกินขนมหวาน ลุกขึ้นมาทวงแชมป์อีกครั้ง โดยที่มีเพิ่มเติมมาแข่งขันก็เห็นจะเป็นร้านขายปลาหมึกย่าง ซึ่งมีการแชร์ต่อกันในโซเชียลมากมาย ราวกับว่าถ้าใครไปไชน่าทาวน์มิได้เช็กอิน 2 ร้านแผงลอยนี้ล่ะก็ อย่ามาโพสต์ว่าฟิน!! เด็ดขาด

      ดีใจไปกับบรรดาพ่อค้าแม่ขายที่ยึดพื้นที่นี้ทำมาหากินมานานสองนานด้วยนะ ถึงแม้นักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังไม่กลับเข้ามาก็ตาม เพราะสังเกตได้จากเด็กๆ ที่ไปโพสท่าถ่ายรูปริมถนนนั้น ..หัวดำกันทั้งน้าน และอีกส่วนหนึ่งสังเกตได้อย่างชัดเจนว่าเป็นนักท่องเที่ยวไทยที่มาจากภาคต่างๆ ของประเทศ

      ไทยเที่ยวไทย เท่ากับไทยช่วยไทย เศรษฐกิจก็ฟื้นตัวกระเตื้องขึ้นได้เหมือนกัน แม้จะช้าๆ แต่พร้าเล่มงามก็รออยู่ข้างหน้าแล้วล่ะ

      วิถีชีวิตเดิมๆ กลับมาให้เห็นอีกอย่างน่าชื่นใจในบริเวณไชน่าทาวน์  แต่ที่น่าสนใจก็เห็นจะเป็นวิถีชีวิตเก่ามากถึงมากที่สุด ก็ยังคงไม่ได้หายไปไหน เพราะจากถนนเยาวราชเลี้ยวไปที่ถนนเจริญกรุงทะลุถนนที่จะออกไปยังหัวลำโพง หรือแถบที่เรียกว่าถนนไมตรีจิตต์นั้น ภาพของสาวน้อยสาวใหญ่ตามมุมมืดต่างๆ ของเสาไฟฟ้าและมุมตึกเพื่อขายบริการนั้น ยังมีให้เห็นเหมือนเดิมเป๊ะ!!

      อาชีพที่เก่าแก่ที่สุด ไม่เคยตายจากถนนเส้นนี้

      คงจะไปตัดสินอะไรจากตาที่เห็นไม่ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับวิถีชีวิตของคนบางคน ทั้งๆ ที่โลกมันเปลี่ยนผ่านมานานแสนนาน

      นานขนาดที่เรียกว่า มนุษย์ป้าเคยนุ่งกระโปรงจีบรอบตัว สวมชุดนักเรียนผูกคอซอง เดินอยู่แถบนี้ทุกวี่ทุกวันนั่นแหละ ลองคิดดูสิ นี่วัยเกษียณ เข้าใกล้กระดูกเปราะบางเข้าไปทุกที ปรากฏว่าเมื่อคืนวานก็ยังเห็นภาพสาวขายบริการแบบบ้านๆ อยู่ไม่ผิดเพี้ยนจากตอนเป็นนักเรียนใช้คำนำหน้าว่า ด.ญ. เลยนะ

      จำได้ว่า ตอนนั้นเคยถามเพื่อนที่มีบ้านอยู่แถบวงเวียน 22 ว่าพวกผู้หญิงพวกนั้น ทำไมไปยืนดึกๆ ดื่นๆ ..พอได้คำตอบ..ตัวเองก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเดินบนถนนสายดังกล่าว ไม่ใช่เพราะดูถูกดูแคลนใคร แต่เพราะกลัวตามประสาเด็กๆ เสียมากกว่า

      สิ่งที่เห็นในอดีตมาถึงสิ่งที่เป็นในปัจจุบันไม่เปลี่ยนเลยนี้ มันฟ้องชัดๆ เลยว่าปัญหาปากท้องของคนไทยนั้น ยังไม่เคยแก้ได้สักที เพราะถ้ามีหนทางไปคงไม่มีใครเลือกทำมาหากินด้วยการเป็นนางตามเสาไฟฟ้าแน่นอน.

                                                            "ป้าเอง"


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"