อัยการตั้งคณะทำงานใหม่สั่งคดี 'บอส อยู่วิทยา' ให้พนักงานสอบสวนสอบพยานหลักฐานใหม่ ขีดเส้นส่งสำนวน 20 ส.ค.


เพิ่มเพื่อน    

10 ส.ค.63 - 11.15 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา, นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมแถลงความคืบหน้าการดำเนินคดี นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง กรณีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต 

นายประยุทธ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งที่ พิเศษ/2563 ลงวันที่ 26 ก.ค. 2563 ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดี สำนวน ส.1 เลขรับที่ 107/2556  ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 คดีระหว่าง พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี ผู้กล่าวหา นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาที่ 1 และ ด.ต. วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้ต้องหาที่ 2 ต่อมาเมื่อคณะทำงานได้ตรวจพิจารณาการสั่งสำนวนดังกล่าวเสร็จสิ้น และได้แถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบแล้วเมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2563   

ทั้งนี้ คณะทำงานได้ตรวจพบว่าข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายที่มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องไปแล้วนั้น ได้ปรากฏพยานหลักฐานใหม่ซึ่งเป็นพยานสำคัญสามารถทำให้ศาลลงโทษนายวรยุทธได้ จึงเข้าหลักเกณฑ์ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 ที่สามารถแจ้งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนต่อไป และคณะทำงานยังตรวจสำนวนพบว่ามีหลักฐานการตรวจพบยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเคน) ในร่างกายนายวรยุทธ แต่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนผู้ต้องหา ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน)  โดยคณะทำงานได้ทำบันทึกรายงานและเรียนอัยการสูงสุดให้ดำเนินคดีนายวรยุทธ ต่อไป      

ต่อมา อัยการสูงสุดได้พิจารณารายงานของคณะทำงานดังกล่าวแล้ว เห็นชอบด้วยกับข้อเสนอของคณะทำงานและอัยการสูงสุดได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 จึงมีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1400/2563 ลงวันที่ 4 ส.ค. 2563 แต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นคณะทำงานพิจารณามีคำสั่งคดีอาญาสำนวน ส.1 เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ดังนี้ นายอิทธิพร  แก้วทิพย์  เป็นหัวหน้าคณะทำงาน, นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน, นายอุทัย สังขจร เป็นคณะทำงาน, นายประยุทธ  เพชรคุณ เป็นคณะทำงานและเลขานุการ, นายนรา เขมอุดลวิทย์ เป็นคณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการ โดยมีนายสมใจ  โตศุกลวรรณ์ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน  

ทั้งนี้ ให้คณะทำงานมีอำนาจหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยให้ดำเนินการเรียกสำนวนคดีดังกล่าวเพื่อพิจารณา สั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมหรือส่งพยานคนใดมาให้ซักถาม และหากปรากฏว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ให้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายเพื่อพิจารณาสั่งคดีต่อไป   

ด้าน นายอิทธิพร กล่าวว่า วันนี้ (10 ส.ค. 2563) คณะทำงานตามคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุดที่ 1400/2563 ดังกล่าว ได้ประชุมพิจารณาสำนวนคดี ส.1 เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 แล้ว คณะทำงานได้มีคำสั่งทางคดี คือ พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26 ) พ.ศ.2560 มาตรา 4 และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.63 อันเป็นผลให้คดีต้องห้ามมิให้ทำการสอบสวนเกี่ยวกับการกระทำของนายวรยุทธในเรื่องเดียวกันนั้นอีก เว้นแต่จะได้พยานหลักฐานใหม่ อันสำคัญแก่คดี ซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหานั้นได้ ทั้งนี้ ตามนัยประมวลกฎหมาย  วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147  

ภายหลังจากพนักงานอัยการได้มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนายวรยุทธดังกล่าวแล้ว ได้ปรากฏข้อเท็จจริงทางสื่อมวลชนอย่างแพร่หลายว่ามีผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นเกี่ยวกับอัตราความเร็วในการขับรถของนายวรยุทธ แตกต่างจากอัตราความเร็วที่ใช้เป็นข้อเท็จจริงในการพิจารณาความเห็นสั่งไม่ฟ้อง      

1.ปรากฏข้อเท็จจริงจากคำให้สัมภาษณ์ทางสื่อมวลชนของ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นผู้คำนวณความเร็วรถยนต์ที่นายวรยุทธขับ ได้ความเร็ว 177 กม./ชม. 2. ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้คำนวณความเร็วรถยนต์ของนายวรยุทธขับได้ความเร็ว 126 กม./ชม.       

คณะทำงานได้ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงที่ได้จากการให้สัมภาษณ์และการคำนวณของ ดร.สธน และดร.สามารถ เป็นพยานหลักฐานใหม่ตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 โดยเห็นว่า พยานหลักฐานใหม่ หมายถึง พยานหลักฐานที่ไม่เคยปรากฏอยู่ในสำนวนการสอบสวนและเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญ ซึ่งอาจมีผลให้การพิจารณาความเห็นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้ ดังนั้น ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเร็วของรถยนต์ที่นายวรยุทธขับในขณะเกิดเหตุจึงเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญ และสามารถทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาที่ 1 ได้ ถือเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่ควรสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งคดีต่อไป ตามนัยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147   

คณะทำงานจึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ ดังนี้ 1.ให้สอบสวน ดร.สธน และดร.สามารถ เป็นพยานตามรูปคดี ที่คณะทำงานได้กำหนดเป็นประเด็นในหนังสือสั่งสอบสวนเพิ่มเติม 2.ให้สอบสวนนายกสภาวิศวกรหรือผู้ได้รับมอบหมายเป็นพยานในประเด็นว่า ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ขาดต่อใบอนุญาตจริงหรือไม่ การขาดต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรจะมีผลต่อการทำเอกสารรับรองการคำนวณความเร็วของรถยนต์ที่นายวรยุทธขับ มากน้อยเพียงใด การคำนวณความเร็วของรถยนต์มีความถูกต้องมากน้อยเพียงใด   

3. นอกจากนี้ยังปรากฏว่าผลการตรวจร่างกายของนายวรยุทธพบสารโคเคน ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 คดีจึงมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ 1 ในความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเคน) เข้าสู่ร่างกาย โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 แต่พนักงานยังไม่ได้ดำเนินคดีข้อหานี้กับนายวรยุทธ คณะทำงานจึงมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายวรยุทธ ป็นคดีใหม่ต่อไปตามกฎหมาย โดยคณะทำงานได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมดังกล่าวโดยด่วน และให้จัดส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติมภายในวันที่ 20 ส.ค. 2563 นี้  

ส่วน นายชาญชัย กล่าวว่า ความเห็นเกี่ยวกับความเร็วที่เพิ่มเติมขึ้นมา การที่ความเห็นเรื่องความเร็วเปลี่ยนแปลง ไม่ได้แปลว่าความเห็นเดิมจะเป็นเท็จ สิ่งที่แสวงหาเวลานี้คือการสอบสวนต่อไป เราดำเนินการต่อไปในลักษณะการให้สอบสวนเพิ่มเติมจากผู้ให้ความเห็นทั้งสอง ใช้หลักการคำนวณอย่างไร สามารถให้ความเห็นโดยอิสระบนหลักการคำนวณที่น่าเชื่อถือที่สุด สามารถรับฟังยุติได้ รวมถึงประเด็นใบอนุญาตประกอบอาชีพวิศวกรขาดต่อของ ดร.สายประสิทธิ์ มีผลหรือไม่ ในคดีอาญาข้อเท็จจริงต้องเป็นที่ยุติจนสิ้นกระแสความ และอาจมีประเด็นมากกว่าที่ได้สั่ง ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงอะไร ส่วนประเด็นยาเสพติด พนักงานสอบสวนต้องไปสอบให้ได้ความจริงว่าผู้ต้องหาที่ 1 กระทำผิดหรือไม่ การพบสารโคเคนเกิดจากความตั้งใจเสพหรือเหตุอื่น ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขับรถประมาท คณะทำงานรอพนักงานสอบสวนดำเนินการ และมีหน้าที่พิจารณาสั่งคดีเรื่องนี้ แสวงหาข้อเท็จจริงให้ยุติ  

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่พนักงานสอบสวนไม่แจ้งข้อกล่าวหาการเสพยาเสพติดกับนายวรยุทธ จะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายชาญชัย กล่าวว่า พนักงานสอบสวนมีดุลพินิจของท่าน ในสำนวนเดิมมีความเห็นของหมอผู้เชี่ยวชาญ การพบสาร 2 ตัว ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนนั้นเสพโคเคนมาหรือไม่ เพียงแต่ยืนยันว่าได้รับสารโคเคน ซึ่งสารนี้อาจจะเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย เช่นการได้รับยาบางตัว ในสำนวนเดิมบอกได้รับการจ่ายยา ทำให้พนักงานสอบสวนเข้าใจว่าความผิดยังไม่ชัดเจน อาจจะผิดหรือไม่ผิดแล้วแต่พยานที่จะสอบกัน ไม่ผูกมัดต้องสอบพยานผู้เชี่ยวชาญที่เคยให้การไว้แล้ว  

นายประยุทธ กล่าวเสริมว่า การตรวจร่างกายผู้ต้องหาพบสารโคเคนตั้งแต่วันแรก แต่นักวิชาการสอบไว้หลายคราว่าอาจจะมีผลข้างเคียง เมื่อมีข่าวปรากฏนักวิชาการหลายท่าน สิ่งที่พนักงานสอบสวนสอบไว้ในสำนวนไม่เป็นบทสรุปทางวิชาการ เช่น การใช้แอมม็อกซีรักษาฟันแล้วทำให้ค่ารวมเหมือนโคเคน ก็มีทันตแพทย์บอกว่าความเชื่อเช่นนั้นเป็นเรื่องร้อยปีมาแล้ว เราก็ใช้ดุลพินิจ ต้องไปสู้กันในศาล คณะทำงานเห็นพ้องต้องกันว่าเพียงพอที่จะดำเนินคดีจึงมีคำสั่งออกไป  

เมื่อถามถึงในหลักวิชาการ ต้องวัดความเร็วใหม่หรือไม่ นายอิทธิพร ระบุว่า ดูจากหลักฐานเดิม ตามคลิปวิดีโอที่ปรากฏในสื่อ นำไปคำนวณความเร็วตามหลักวิชาการ เพื่อข้อเท็จจริงที่ฟังโดยยุติ โดยนายชาญชัย กล่าวเสริมว่า ถ้ามีคนพบคลิปใหม่ที่แสดงจุดชนได้ยิ่งดีใหญ่ เรากำลังหาความเร็วที่เป็นที่ยุติว่า ความเร็วที่เฉี่ยวชนกันขณะเกิดเหตุความเร็วเท่าไหร่ มีผลต่อการพิจารณาสั่งคดีว่าผู้ขับรถปราศจากความระมัดระวังหรือไม่ ต้องหาความเห็นที่น่าเชื่อถือที่สุด โดย ดร.สามารถ ให้ 126 กม./ชม. กับ ดร.สธน 177 กม./ชม. ยังไม่ชัดเจนพอสมควร หากมีผู้เชี่ยวชาญปรากฏตัวขึ้นอีก ถือเป็นข้อเท็จจริงใหม่ทั้งสิ้น เรากำลังแสวงหาข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ความจริงให้ได้ 

นายประยุทธ ตอบคำถามช่วงท้ายถึงรายละเอียดและพนักงานสอบสวนจะดำเนินการเสร็จทันใน 10 วันหรือไม่ ว่า คณะทำงานสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป รายละเอียดอยู่ที่พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ไปรวบรวมพยานหลักฐาน วิธีการอย่างไรไม่ก้าวล่วง ดร.สธน เป็นพยานที่ปรึกษาของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ที่ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและทำความเห็นทางวิชาการ ว่ารถแล่น 177 กม./ชม. สิ่งเหล่านี้มันหายไปจากสำนวน จึงย่อมเป็นพยานหลักฐานใหม่ จะแสวงหามากกว่านี้ก็ได้ ท่านแสวงหาได้ตามอำนาจหน้าที่ ส่วนจะเสร็จทันหรือไม่นั้น อย่าเพิ่งคาดการณ์ อาจจะเสร็จพรุ่งนี้ก็ได้ สำนักงานอัยการสูงสุดเดินหน้าคดีบอสต่อไปอย่างเต็มที่ 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"