โพลเผยคนไทย กลัววิกฤติโควิดเมินเข้าที่แออัด


เพิ่มเพื่อน    

  ไทยพบผู้ป่วยรายใหม่อีก 3 รายจากสถานกักกันโรคของรัฐ อึ้งผลตรวจเชื้อไม่มีอาการทั้งสิ้นก่อนแสดงผล “โพล” ชี้คนไทยตระหนักวิกฤติโควิด-19 ใช้ชีวิตนิวนอร์มอล เน้นป้องกันเลี่ยงพื้นที่สุ่มเสี่ยง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย ว่าพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,351 ราย ผู้ป่วยรักษาหายแล้ว 3,151 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 142 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่รายที่ 1 เดินทางมาจากประเทศบังกลาเทศ เป็นชายชาวบังกลาเทศ อายุ 31 ปี อาชีพค้าขาย เดินทางถึงไทยวันที่ 30 ก.ค. เข้าพักสถานที่กักกัน หรือ Alternative State Quarantine (ASQ) แห่งหนึ่งใน กทม. ผลตรวจพบเชื้อวันที่ 6 ส.ค.ไม่มีอาการ ผู้ป่วยใหม่รายที่ 2 เดินทางมาจากอินเดีย เป็นแม่บ้านหญิงสัญชาติอินเดีย อายุ 41 ปี เดินทางมาถึงไทยวันที่ 2 ส.ค. เข้าพักที่สถานกักกันแห่งหนึ่งใน กทม. ผลตรวจพบเชื้อวันที่ 6 ส.ค. ไม่มีอาการ และผู้ป่วยรายที่ 3 เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกา เป็นหญิงไทย อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานโรงแรม เดินทางมาถึงไทยวันที่ 4 ส.ค. เข้าพักสถานที่กักตัวของรัฐใน กทม. ผลตรวจพบเชื้อวันที่  7 ส.ค. ไม่มีอาการ
วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ทั้งสิ้น 1,123 คน ในเรื่องการดูแลสุขภาพของประชาชนหลังมีโควิด-19 ระบาด เมื่อเทียบกับก่อนมีโควิด-19 พบว่าพฤติกรรมด้านสุขภาพที่ประชาชนปฏิบัติมากขึ้น ได้แก่ การเอาใจใส่คนรอบข้าง เช่น พ่อแม่ พี่น้อง  80.59% รองลงมาคือซื้ออุปกรณ์ป้องกัน 75.78% ส่วนพฤติกรรมที่ปฏิบัติเท่าเดิมคือการทำงานอดิเรกต่างๆ  56.01% และพฤติกรรมที่ปฏิบัติลดลงมากที่สุดคือการไปสถานบันเทิง สถานที่แออัด 76.58%  
    จากผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า หลังจากมีการระบาดของโควิด-19 คนไทยมีพฤติกรรมดูแลสุขภาพเปลี่ยนแปลงไป โดยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในทิศทางมากขึ้น ล้วนเป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค โดยเฉพาะปัจจัยด้านยารักษาโรค ที่พบว่าคนไทยมีการตระเตรียมซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 เพิ่มขึ้น และนอกจากจะซื้อเพื่อตนเองแล้ว ยังดูแลเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้างมากขึ้นอีกด้วย พฤติกรรมป้องกันโควิด-19 ด้วยตนเองอย่างเคร่งครัดของคนไทยเช่นนี้ จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมากว่า 2 เดือน ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์โควิด-19 อีกด้วย     
    น.ส.พรพรรณ บัวทอง นักวิจัยสวนดุสิตโพล กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมไทยค่อนข้างหวั่นไหวกับโอกาสการระบาดระลอกสอง ที่นักวิชาการด้านสุขภาพและนักระบาดวิทยาต่างออกมาเตือนคนไทยให้กำกับพฤติกรรมตนตามวิถีใหม่ (นิวนอร์มอล) ให้เหนียวแน่น ซึ่งผลโพลสะท้อนให้เห็นอิทธิพลของการระบาดนี้ต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพอย่างชัดเจน โดยมีพฤติกรรมเชิงป้องกันตนเองเพิ่มสูงขึ้น และพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรคลดต่ำลง รวมทั้งการค้นหาข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ การตรวจสุขภาพ อันเป็นพฤติกรรมที่บุคลากรสุขภาพคาดหวังให้ประชาชนประพฤติปฏิบัตินั้นเพิ่มสูงขึ้นด้วย อาจกล่าวได้ว่าวิกฤติการณ์โควิด-19 เป็นปัจจัยกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้านสุขภาพที่มีประสิทธิภาพยิ่ง และประเด็นที่น่าสนใจคือ การเอาใจใส่คนรอบข้าง เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน เพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับแรก จึงขอเสนอการ์ดอย่าตก เพื่อปกป้องตัวคุณ คนที่รักและครอบครัว เป็นสโลแกนป้องกันการระบาดรอบใหม่ไว้.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"