กรุงศรีวิไลเฮ! กลับสภารอบ 2 เลือกตั้งซ่อมปากน้ำชนะลอยลำม้วนเดียวจบ หลังเพื่อไทย-ก้าวไกลตัดคะแนนกันเอง แฉจ่ายเงินระนาวผ่านระบบเครือข่ายผู้นำชุมชน
    เมื่อวันอาทิตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการ โดยในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยได้เดินทางมารับหีบบัตรและอุปกรณ์ในการเลือกตั้งที่ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งจังหวัดสมุทรปราการ ที่ตั้งอยู่ที่อาคาร อบต.บางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะลำเลียงไปยังหน่วยเลือกตั้งต่างๆ กว่า 300 หน่วยเลือกตั้งใน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอบางพลี  2 ตำบล, อำเภอบางเสาธง 3 ตำบล และอำเภอบางบ่อ 8 ตำบล
    ด้านนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เดินทางมาตรวจความเรียบร้อย โดยได้กำหนดให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทุกนายใส่อุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ สวมหน้ากากอนามัย ใส่เฟซชิลด์ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ อสม.ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้สิทธิเลือกตั้ง
      นายอิทธิพรกล่าวว่า การเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นเราจะยังไม่ประกาศ จนกว่าเราจะดำเนินการตามเงื่อนไขมาตรการ 127 ของพระราชบัญญัติ ส.ส. ที่ว่า กกต.จะต้องตรวจสอบเบื้องต้นก่อน หากมีหลักฐานเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริต และรับฟังพยานหลักฐานรายงานผู้ตรวจการเลือกตั้งก็สามารถประกาศได้ ถ้าหากมีข้อเท็จจริงบางอย่างที่เราต้องสืบสวนในเรื่องข้อเท็จจริงและกระบวนการสอบสวน ก็อาจจะต้องใช้เวลาอยู่บ้าง แต่ปกติเราจะไม่ทำอะไรล่าช้า
    นายอิทธิพรระบุด้วยว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนอะไร ยังเป็นสองเรื่องเดิม คือการที่สถานีทีวีช่องหนึ่งเอาละครของผู้สมัครท่านหนึ่งไปออกอากาศ ก็มีผู้ร้องเรียน ก็อาจจะเป็นการกระทำที่เป็นคุณต่อผู้สมัครท่านดังกล่าว กกต.ก็ใช้อำนาจตามมาตรา 135 ระงับการออกอากาศจนถึงการเลือกตั้งสิ้นสุด และอีกคำร้องหนึ่งก็ คือการสำรวจความคิดของประชาชนลักษณะทำโพล มีผู้เอาไปเผยแพร่ ซึ่งเราก็ได้รับเรื่องมาแล้วทั้งสองเรื่อง อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ หากรับเอาไว้ดำเนินการ ก็จะเข้าสู่กระบวนการของการสืบสวน
    "ส่วนจะประกาศผลได้เมื่อไร ขึ้นอยู่กับสถานการณ์จริงว่าจะมีเหตุอันใดที่ทำให้ต้องเลื่อนการประกาศผลออกไปหรือไม่ หากการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีการร้องเรียน กกต.ก็สามารถประกาศผลได้ทันที เบื้องต้นคาดว่าการเลือกตั้งซ่อมวันนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิใกล้เคียงกับการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ซึ่งเขตนี้มีผู้มาใช้สิทธิร้อยละ 74.6." นายอิทธพรระบุ
    วันเดียวกัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนได้เรียกร้องให้นายอิทธิพรมาดูในพื้นที่ เนื่องจากถึงตอนนี้ได้รับการแจ้งสถานการณ์ผิดปกติเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้ง ส.ส.ของพรรคก้าวไกลที่ลงชื่อกับ กกต.แล้วเพื่อเข้าไปสังเกตการณ์ในหน่วยเลือกตั้ง แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า หรือบางหน่วยหีบบัตรเลือกตั้งไม่มีสายรัด บางหน่วยเลือกตั้งมีป้ายหาเสียงของผู้สมัครบางพรรคอยู่หน้าหน่วย บางหน่วยก็มีการตั้งโต๊ะแจกเงินกันอย่างโจ๋งครึ่มกลางวันแสกๆ ซึ่งเราจะรวบรวมหลักฐานนี้ส่งให้ทาง กกต.ต่อไป
    "ถึงตอนนี้เราต้องช่วยกันพยายามสกัดกั้นไม่ให้การโกงเลือกตั้งเกิดขึ้น โดยที่ได้รับแจ้งมาตอนนี้มีความผิดปกติแล้วกว่า 20 หน่วย   การเลือกตั้งใหม่สมุทรปราการครั้งนี้ ถ้า กกต.ทำได้ดี บริสุทธิ์ยุติธรรม และสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนจริง ก็จะได้รับคำชื่นชม แต่ถ้าทำไม่ได้ นี่จะเป็นฟางเส้นสุดท้ายวิกฤติศรัทธา กกต. ดังนั้น ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ อยากให้ใช้เวลานี้ให้เต็มที่ที่สุด" นายพิธากล่าว
    อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่ผู้สังเกตการณ์ของพรรคก้าวหน้าที่ประจำอยู่ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 37 เต็นท์หน้าบ้านผู้ใหญ่ชิ้น หมู่ 10 ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้บันทึกภาพเหตุการณ์พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยกำลังยกเคลื่อนย้ายหีบเลือกตั้งจากจุดที่ตั้งให้ประชาชนที่เข้าไปใช้สิทธิ์มาหย่อนบัตรเลือกตั้ง และมีการส่งภาพให้สื่อมวลชนทุกแขนงไปออกอากาศ จนกลายเป็นประเด็นโกงการเลือกตั้งนั้น
         ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับการชี้แจงจาก น.ส.สุพัชชา เรืองดี ผู้อำนวยการประจำหน่วยว่า ในเรื่องนี้คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด ภาพที่เห็นเจ้าหน้าที่มีการยกหีบบัตรเลือกตั้งจริง เนื่องจากบางคนก็มีไข้ และไม่มีหน้ากากอนามัยมา จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ยกหีบบัตรมา แต่อยู่ในหน่วย ไม่ได้ออกนอกหน่วย แล้วก็ให้เจ้าหน้าที่ยกกลับไปตั้งที่เดิม สาเหตุที่ต้องให้เจ้าหน้าที่ยกหีบมาเพราะไม่มีหน้ากากอนามัยมา และมีไข้สูง
    เธอระบุว่า การดำเนินการนั้นอยู่ในระเบียบของ กกต. ซึ่งมีการประชุมกันเมื่อวานที่ผ่านมา ให้มีการแยกการดำเนินการสำหรับสถานการณ์มีการแพร่ระบาด เพราะหีบเลือกตั้งมีใบเดียว ซึ่งก็มีคนที่มาใช้สิทธิ์ที่ไม่มีหน้ากากอนามัยมาหลายคน ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ยกหีบไปรอ และยกกลับมาตั้งที่เดิม
    "ตั้งแต่เช้ามาก็กระทำการแบบเดียวกันมา 4-5 ครั้งแล้ว และได้มีการบันทึกลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งให้ทาง กกต.ทราบ แต่พอเห็นมีคนนำเรื่องไปลงในโซเชียลฯ ก็เลยแจ้งไปทาง กกต.ให้ทราบ เพราะในที่ประชุมได้แจ้งไว้ว่าในสถานการณ์แบบนี้ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ถ้ากรณีที่ประชาชนไม่ใส่หน้ากากอนามัยมาใช้สิทธิ์ ก็สามารถเคลื่อนย้ายหีบมารับบัตรได้ แต่ต้องอยู่ในหน่วย และเพื่อไม่ให้เป็นข้อครหาอีก จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ไปจัดหาหน้ากากอนามัยมาสำรองไว้ให้แล้ว" น.ส.สุพัชชาระบุ
    ขณะที่นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชน ที่ได้แจ้งผ่านมายังศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทยว่าได้รับเงินซื้อเสียงจากพรรคการเมืองหนึ่งก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งข้อมูลที่ได้รับตรงกับที่ได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่มาก่อนหน้านี้ โดยมีการจ่ายเงินซื้อเสียงผ่านระบบนายหน้า จ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 500 บาท นายหน้าจะได้รับ 100 บาทต่อหัว ซึ่งหากผู้สื่อข่าวไปหาข่าวในพื้นที่จะพบแน่นอน มีการจ่ายเงินอย่างเป็นระบบ ไม่อาย และใช้เครือข่ายผู้นำชุมชนในการดำเนินการเรื่องนี้
        อย่างไรก็ตาม ในเวลา 17.00 น. วันที่ 9 ส.ค.2563 ภายหลังหมดเวลาใช้สิทธิ์ออกเสียงในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง กับ 5 ผู้สมัครจาก 5 พรรคการเมือง โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าจนกระทั่งปิดหีบเลือกตั้ง มีประชาชน 3 อำเภอ คือ อ.บางเสาธง, อ.บางบ่อ และ อ.บางพลี ผู้มีสิทธิ์ประมาณ 170,000 คน
    ทั้งนี้ มีรายงานของคณะทำงานเพื่อสังเกตการณ์เลือกตั้ง ตรวจสอบความโปร่งใส และสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบเลือกตั้ง (Pararell Vote Trabulation - PVT) รายงานผลการนับคะแนน เลือกตั้งซ่อม เขต 5 จ.สมุทรปราการ อย่างไม่เป็นทางการเมื่อเวลา 21.00 น. ปรากฏว่า หมายเลข 4 นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก พรรคพลังประชารัฐ ได้ 13,182 คะแนน, หมายเลข 3 นางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ พรรคเพื่อไทย ได้ 6,636 คะแนน, หมายเลข 2 นายอิศราวุธ ณ น่าน พรรคก้าวไกล ได้คะแนน 6,341 คะแนน, หมายเลข 1 นายมานะ บุญนาค พรรคเสรีรวมไทย ได้ 2,713 คะแนน และหมายเลข 5 นายวราวุฒิ ทิมเมือง พรรคภราดรภาพ ได้ 151 คะแนน
    ขณะที่นายกรุงศรีวิไล พร้อมด้วย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้แก่ นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี, นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม และนายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เขต 6 สมุทรปราการ ร่วมกันแถลงข่าวผลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส. สมุทรปราการ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ
    โดยนายกรุงศีวิไลกล่าวว่า ผลคะเเนนที่ได้รับขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชน และขอบคุณทุกคะเเนนเสียง ซึ่งไม่คิดว่าประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์กันจำนวนมาก ทั้งที่เป็นเลือกตั้งซ่อม ทั้งนี้ ตนเองเป็น ส.ส.ในพื้นที่มา 3 สมัย อยู่ในวังวนของพื้นที่มาตลอด ถึงวันนี้ก็ 13 ปีแล้วไม่เคยหยุด การเป็น ส.ส.ต้องอดทน ไม่ใช่แค่รูปหล่อหรือสวย แต่ต้องให้ประชาชนติดตา ต้องเห็นหัวประชาชน อยู่กับประชาชนตลอด อย่าดูถูกคนจน ถ้าพูดแบบสมัยโบราณ กำพืดของตนเป็นลูกชาวนา บ้านหลังนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าที่ไหน ก็คือชาวนาธรรมดานี่เอง การทำงานก็สุดท้ายของชีวิตอุทิศให้สมุทรปราการบ้านเกิด
    นายกรุงศรีวิไลกล่าวยืนยันว่า ไม่กังวลเรื่องร้องเรียน เพราะเป็นเรื่องธรรมดา ก็แก้ไขไป แต่ตนเองคิดว่าเป็นคนบริสุทธิ์ เล่นหนังมาจะ 50 ปี ไม่เคยทำผิดอะไร เบื้องต้นยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะท่านยุ่งอยู่กับการช่วยประขาชนน้ำท่วมที่ จ.เลย นอกจากนี้ยังกล่าวว่า ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปด่าใคร เป็น ส.ส. วันนึงก็ต้องไป ไม่มีใครอยู่จนตาย พร้อมกราบขอบคุณประชาชน ที่เห็นว่าตนมีประโยชน์แล้วเลือกตน.