ขนส่งฯ ถอยกรูดแนวคิดริบใบขับขี่ตลอดชีพถ้าไม่ผ่านสอบใหม่ หลังหลายฝ่ายออกมาค้านกันขรม หันไปเน้นการควบคุมพฤติกรรมด้วยการตัดแต้ม
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมนี้ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ชี้แจงว่า กรมการขนส่งทางบกยืนยันจะไม่ยึดคืนใบอนุญาตขับรถตลอดชีพ และไม่เรียกผู้มีใบอนุญาตขับรถตลอดชีพทั้งหมดมาทดสอบสมรรถภาพของร่างกายใหม่ หรือทดสอบขับรถใหม่ ตามข้อมูลที่มีการแชร์กันในขณะนี้อย่างแน่นอน แต่จะมีการศึกษาว่าจะทำอย่างไรที่จะคัดกรองผู้ที่ร่างกายเสื่อมสมรรถภาพ หรือมีสภาวะโรคที่แพทย์วินิจฉัยแล้วเห็นว่ามีผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่อย่างปลอดภัย เช่น โรคทางสมอง โรคปัญหาการมองเห็นที่รักษาไม่หาย เป็นต้น เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน การศึกษาดังกล่าวต้องหารือร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และแพทยสภา และต้องพิจารณาข้อกฎหมายประกอบอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้กระทบสิทธิผู้ถือใบอนุญาตขับรถตลอดชีพ ดังนั้น ที่มีการแชร์ข้อมูลว่าจะมีการยึดคืนใบอนุญาตขับรถตลอดชีพที่ออกให้แล้ว หรือการให้เข้ามาทดสอบสมรรถภาพของร่างกายใหม่หรือทดสอบขับใหม่ จึงไม่เป็นความจริง การดำเนินการเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถยังคงเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามปกติ
อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกยังได้มีการนำสถิติการเกิดอุบัติเหตุและผลการศึกษาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมาวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางในการยกระดับมาตรฐานการออกใบอนุญาตขับรถ โดยแบ่งเป็น 7 มิติ ประกอบด้วย 1.การกำหนดสภาวะโรค 2.การทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย 3.การอบรมและทดสอบความรู้ของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ (ภาคทฤษฎี) โดยจะมีการทบทวนและปรับปรุงเนื้อหาหลักสูตรการอบรมให้สอดคล้องกับการขอรับใบอนุญาต พร้อมทั้งจัดทำระบบอบรมภาคทฤษฎีออนไลน์แบบ e-Learning
4.การอบรมการขับรถและทดสอบความสามารถในการขับรถของผู้ขอรับใบอนุญาตภาคปฏิบัติ 5.การบริหารจัดการ 6.การปรับปรุงรูปแบบใบอนุญาตขับรถ โดยจะปรับปรุงให้สอดคล้องกับอนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยการจราจรทางถนน ค.ศ.1968 และ 7.การควบคุมพฤติกรรมการขับรถด้วยมาตรการตัดแต้ม (การติดตามประเมินผล) เพื่อพัฒนามาตรฐานใบอนุญาตขับรถของประเทศไทยให้ครอบคลุมทุกมิติ ยกระดับความปลอดภัยทางถนนของประเทศ
ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า กรมการขนส่งทางบกมีแนวคิดจะเรียกผู้ครอบครองใบขับขี่ตลอดชีพกลับมาทำการทดสอบซ้ำ เนื่องจากสถานการณ์อุบัติเหตุในปัจจุบันที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับผู้ขับขี่ที่มีอายุมากขึ้นอาจมีสมรรถภาพร่างกายไม่เหมือนวันที่มาทำใบขับขี่ทีแรก ทั้งนี้ จากสภาพร่างกายดังกล่าวที่ทรุดโทรมลงไปตามอายุ อาจส่งผลให้มีปัญหาในด้านการมองเห็น การได้ยิน ซึ่งไม่สมบูรณ์เหมือนเดิม และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุอันตรายระหว่างการขับขี่ ทั้งต่อตนเองและต่อผู้ร่วมทางรายอื่นได้
ประเด็นดังกล่าว อธิบดีกรมการขนส่งทางบกระบุว่า สัปดาห์หน้าจะมีการหารือให้มีการจัดตั้งโครงการเรียกผู้ขับขี่รถ และมีใบอนุญาตแบบตลอดชีพกลับมารับการทดสอบอีกครั้งตามที่ทำการสำนักงานขนส่งทางบกทั่วประเทศ ซึ่งระเบียบในส่วนนี้หากมีผู้ครอบครองใบขับขี่รายใด สภาพร่างกายไม่สามารถขับรถได้ หรือมีความเสี่ยงต่อการก่ออุบัติเหตุบนท้องถนน ก็อาจถึงขั้นพิจารณาเพิกถอน ยกเลิกใบอนุญาตดังกล่าว
ปัจจุบันคาดว่ามีผู้ถือครองใบขับขี่ประเภทตลอดชีพอยู่ราว 1 ล้านใบ ภายหลังจากมีคำสั่งยกเลิกไปเมื่อ พ.ศ.2546
จากแนวคิดดังกล่าว ก่อให้เกิดปฏิกิริยาจากผู้ครอบครองใบขับขี่รถตลอดชีพ ขณะที่ ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า การเพิกถอนใบอนุญาตขับรถด้วยเหตุที่ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถมีสภาพสังขารร่างกายที่เสื่อมลงจากเหตุสูงอายุนั้น ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้กระทำได้
ขณะที่นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ใบขับขี่ตลอดชีพมันหนักหัวใคร เห็นข่าวว่ากรมขนส่งจะให้คนที่ถือใบอนุญาตขับขี่ชนิดตลอดชีพ มาทดสอบใหม่ ต้องถามว่ากรมขนส่งไม่มีงานทำหรือไง? มาเพิ่มงาน? งานที่ทำอยู่เอาให้มันเข้มงวดมากขึ้นไม่ดีกว่าหรือ? งานตรวจสภาพรถ? รถบุโรทั่ง? รถบรรทุกทำส่วนต่อขยายเกินน้ำหนัก? รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ยังวิ่งกันเต็มบ้านเต็มเมือง? หรือกรมตั้งใจจะเปลี่ยนกรมจัดหารายได้? คนที่ถือใบขับขี่ตลอดชีพไม่ได้ทำอะไรผิดนะ? ที่บอกว่าคนแก่ขับรถเกิดอุบัติเหตุบ่อย? เอาตัวเลขสถิติมาดู คนขับรถที่เกิดอุบัติบ่อยคือรถจักรยานยนต์? รถบรรทุก? คนขับรถเร็ว? ขับขี่หลังการดื่มสุรา คิดผิดคิดใหม่ได้นะ".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |