วัย...ไม่เป็นปัญหา


เพิ่มเพื่อน    

มองมุมสูง

            มนุษย์ป้า..เพิ่งลงจากดอยตอนช่วงใกล้สิ้นปีเหมือนกัน พอเจอข้อความที่เพื่อนส่งมาให้อ่านทางไลน์แล้ว รู้สึกว่า...ใช่เลย!! ..ลองอ่านค่ะ

            ..หญิงชราท่านหนึ่ง อายุ 87 ปี ช่วงบั้นปลายของชีวิตได้มีโอกาสเดินทางมาที่ "หุบเขา" แห่งหนึ่ง เป็น "ภูเขาหัวโล้น" แห้งแล้ง ไม่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุม

            เธอได้พบปะ พูดคุยกับชาวเขาที่นั่น พบว่าชาวเขากำลังประสบเคราะห์กรรมลำบาก สุขภาพย่ำแย่ ไม่มีการศึกษา การเกษตรที่ทำอยู่ก็ผิดกฎหมาย ไม่มีความมั่นคง แถมต้องพึ่งพากองกำลังทหารที่ข่มขู่ คุกคามชีวิตของพวกเขา บางครอบครัวต้องขายลูกสาวให้ไปค้าบริการทางเพศกับชายหนุ่มในประเทศใกล้เคียง ติดโรคร้าย โรคเอดส์ มาแพร่เชื้อให้กับคนในหุบเขา ผู้คนล้มตายปีหนึ่งเป็นร้อย

          หญิงชราคิดว่า "ฉันต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยคนเหล่านี้"

            เธอจึงสอบถามชาวบ้าน หาข้อมูลจากคนข้างเคียง พบว่า "ชาวบ้านไม่ได้อยากเป็นคนไม่ดี แต่พวกเขาขาดโอกาส" เธอครุ่นคิดและพบวิธีแก้ปัญหา 

            "ฉันจะปลูกป่าที่นี่" หญิงชราบอกกับทีมงาน ป่าจะเป็นต้นน้ำและสร้าง "อาชีพ" ให้กับคนในหุบเขาแห่งนี้ 

            เธอเริ่มจ้างชาวบ้านมาช่วยกัน "ปลูกป่า" ให้ค่าแรงเป็นรายวัน ชาวบ้านได้เงินทันที สนับสนุนให้ชาวบ้านเลิกทำเกษตรผิดกฎหมาย สร้างความ "เชื่อใจ" ให้เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรก ยึดหลักเอาชาวบ้านเป็นจุดศูนย์กลาง

            ขั้นที่หนึ่ง ชาวบ้านจะต้อง "อยู่รอด" ก่อน ให้พวกเขาได้มีเงินกินอิ่ม ไม่สร้างหนี้สินเพิ่มจากที่เป็นอยู่ ให้มีบริการสาธารณสุข หยุดโรคระบาด เมื่อ "อยู่รอด" แล้วก็ต้อง "ทำมาหากิน" ตามมา

            หญิงชราทดลองนำพืชหลายๆ ชนิดเข้ามาปลูกในบริเวณนี้ หวังจะสร้างเป็น "อาชีพ" ให้กับชาวบ้าน ทดลองปลูกพืชเป็นร้อยๆ อย่าง ก็มาจบที่สองอย่าง นั่นคือ "ถั่วแมคคาเดเมีย" และ "เมล็ดกาแฟ" 

            พืชทั้งสองประเภทสามารถปลูกได้ดีในเขตภูมิอากาศที่ "หุบเขา" แห่งนี้ ปลูกทีเดียว เก็บเกี่ยวได้หลายสิบปี แต่ว่าต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ใช้ "แรงงานคน" ปริมาณมาก หญิงชราเห็นเป็นโอกาสในการ "สร้างงาน สร้างอาชีพ" ให้กับชาวบ้าน

            สร้างรายได้ให้กับ "ชาวบ้าน" ให้เลี้ยงตัวเองได้ ค่อยๆ ปลดหนี้จาก "เงินกู้ยืม" ที่ตนมี ขั้นตอนสุดท้าย สอนให้ชาวบ้าน "รัก" ผืนดินของตัวเอง โดยการยกที่ดินบริเวณที่พวกเขาเคยถูก "จ้าง" ให้ดูแล ให้เป็น "เจ้าของ" มีส่วนได้เสียอย่างเต็มตัว

            20 ปีผ่านไป มาจนถึงปัจจุบัน__จากภูเขาหัวโล้นกลายมาเป็น "ป่าอนุรักษ์ ป่าเศรษฐกิจ" ไปทั่วทั้งหุบเขา ชาวบ้านที่ลำบาก อัตคัด ก็สามารถลืมตาอ้าปาก มีรายได้ต่อหัวเพิ่มกว่า 20 เท่า มีการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยมากขึ้นกว่า 30 เท่า

            หญิงชราผู้มุมานะคือ "สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี"

            "สมเด็จย่า" หรือ "แม่ฟ้าหลวง" ของปวงชนชาวไทย ริเริ่มโครงการ "ดอยตุง" เมื่อมีพระชนมายุ 87 พรรษา ทรงอุทิศตนเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่นจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต

            แม้จะมิใช่ "วัยแห่งความฝัน" แต่หากคุณยังมี "ฝัน" มีความคิดจะสร้าง "ประโยชน์" ให้เกิดกับ "ผู้อื่น" ก็จงลงมือทำเถิด "เขาหัวโล้น" ที่แห้งแล้งก็อาจถูกเปลี่ยนเป็น"ยอดดอยแห่งแรงบันดาลใจ" ให้ "คนรุ่นต่อไป" ได้ชื่นชม (เรียบเรียงโดย : กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร).

                                                                                                                      "ป้าเอง"        


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"