9ส.ค.63-นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กสศ. ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง เพื่อค้นหาเด็กเรียนดีแต่ยากจน ให้ศึกษาต่อในสายอาชีพ ร่วมกับ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เพื่อสนับสนุนเป้าหมายในการพัฒนากำลังคนสายอาชีพ และสร้างโอกาสให้เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสได้เรียนต่อสายอาชีพ ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และความต้องการตลาดแรงงานในประเทศ ปัจจุบันมีสถานศึกษาจากทุกสังกัด เข้าร่วม จำนวน 66 สถานศึกษาสายอาชีพ กระจายตัวใน 40 จังหวัด โดยมีนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่น 1 และ 2 รวมจำนวน 4,890 ทุน ซึ่งโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพฯ มีเป้าหมายสำคัญ คือ ค้นหาเยาวชนช้างเผือกที่เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสได้รับทุนการศึกษาทางสายอาชีพตามหลักสูตรที่ทันสมัยและตรงกับความต้องการของประเทศ และ ผลิตบุคลากรด้านอาชีวศึกษาเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ภายใต้ทิศทางการดำเนินงาน 4 ประการ คือ 1.ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 21 2.เด็กที่ได้รับทุนทุกคนเรียนจบแล้วต้องมีงานทำ 3.เด็กที่ได้รับทุนได้สำเร็จการศึกษาตลอดหลักสูตรในสัดส่วนที่สูง ไม่มีการหลุดออกนอกระบบกลางคัน และ4.หลังจากจบการศึกษาแล้วจะส่งเสริมอาชีพให้กับทุกคน
นพ.สุภกร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การดำเนินการรุ่นที่ 1 ที่ผ่านมาพบว่าเด็กที่ได้รับทุนมีผลการเรียนดีมีเกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.00 หรือกว่าร้อยละ 67 ถือเป็นผลที่น่าพอใจ แต่ยังมีเด็กที่รับทุนมีความเปราะบางและภูมิต้านทานต่ำ เมื่อเจอปัญหาและอุปสรรคเช่น เรื่องการปรับตัวฯลฯ ก็จะหมดกำลังใจเรียนต่อ ดังนั้นผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรครูจึงมีส่วนสำคัญที่จะป้องกันไม่ให้เด็กต้องหลุดออกจากระบบการศึกษากลางคันได้ และเพื่อป้องกันปัญหา กสศ. จึงได้ร่วมกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือดูแลปัญหาสภาพจิตใจของเด็กกลุ่มเหล่านี้ เพื่อให้สามารถมีพลังในการเรียนต่อจนจบหลักสูตรได้ ทั้งนี้หากเด็กสามารถเรียนจบตลอดหลักสูตรตามเป้าหมายที่วางไว้ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
ด้านนพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ปลัด อว.) กล่าวว่า จากการทำงานของ กสศ. ที่ผ่านมา สามารถสรุปออกมาได้ 4 ข้อสำคัญ คือ 1.กสศ.เข้าใจความเป็นมนุษย์และเข้าใจสภาพแวดล้อมของเด็กที่ยากจน 2.นำหลักการของยุทธศาสตร์ชาติมาปรับใช้ในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งเป็นปัญหาระดับประเทศ 3.เจาะลึกเข้าถึงพื้นที่ที่มีปัญหาจริง และ4.ใช้การศึกษาเพื่อให้เกิดไอเดียและนวัตกรรมนำไปสู่การประกอบอาชีพได้ ซึ่งทั้ง 4 เรื่องต้องชื่นชมที่ กสศ.ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ยินดีให้การสนับสนุนกสศ.และต่อยอดโครงการเพิ่มเติมซึ่งเราพร้อมร่วมมือต่อไป
ด้านนายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาฯ กอศ.) กล่าวว่า โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง เกิดจากการกลั่นกรองและผลักดันจากผู้ทรงคุณวุฒิในหลายภาคส่วน ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมาเห็นชัดเจนว่า ทางสถาบันการศึกษาและนักศึกษาอาชีวะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ตรงกับวัตถุประสงค์ของ กสศ. ที่มุ่งจะพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตไปอยู่ในสังคมได้อย่างสง่าเสริม มีศักดิ์ศรี และได้ตอบแทนบุญคุณประเทศชาติ ดังนั้นการรับทุนนี้ถือเป็นบันไดขั้นแรกของการช่วยเหลือ แต่สถานศึกษาต้องมีกระบวนการที่จะทำให้เด็กได้ไปถึงฝั่งฝันและไม่หลุดออกนอกระบบกลางคัน เพราะหากเรามองไปที่เด็กที่เรียนสายอาชีวะ เชื่อว่าจะมีเด็กที่มาจากครอบครัวยากจนและด้อยโอกาสเกินกว่าร้อยละ 80 จึงต้องมีกองทุนแบบนี้มาช่วยให้เด็กๆ ได้พัฒนาศักยภาพให้สมบูรณ์ ถือเป็นการเติมเต็มสิทธิขั้นพื้นฐานที่เด็กควรจะได้รับ
“วันนี้กำลังพลในด้านของช่างเทคนิค ช่างเทคโนโลยีขาดแคลนมาก ขาดแคลนจนไปกระทบกับภาคอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท ส่งผลให้ทุกหน่วยงานออกมาเรียกร้องให้ผลิตคนสายอาชีวะให้เยอะขึ้น แต่การจะก้าวข้ามตรงนี้ได้ เราต้องตอบโจทย์ประเทศให้ได้ มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะผู้ปกครองมองภาพลักษณ์อาชีวะในด้านลบ เมื่อคนมองข้ามก็จะไม่ส่งลูกหลานมาเรียนสายอาชีวะ เราจึงต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อที่จะกอบกู้ความรู้สึกเหล่านี้ เพื่อที่จะชี้ให้เห็นว่าการเรียนสายอาชีวะไม่ได้ด้อยค่า ปัจจุบันเรามีสายนวัตกรรมอาชีพมากมายที่ได้ค่าตอบแทนสูง ซึ่งหากดูตัวเลขการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา จะเห็นว่ามีเด็กอาชีวะเรียนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 อย่างไรก็ตามเชื่อว่าถ้าเราช่วยกันผลักดันก็จะมีน้ำหนักและเป้าหมายที่ชัดเจนร่วมกันมากขึ้น”เลขาฯ กอศ. กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |