วันที่ 12 สิงหาคม หรือวันแม่แห่งชาติ ถือเป็นโอกาสดีที่คนในครอบครัวจะได้มารวมตัว และทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อแสดงความรักและความกตัญญูต่อบุคคลสำคัญของครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถทำได้ในหลายรูปแบบ และแต่ละพื้นที่ส่วนใหญ่จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมวาระสำคัญนี้อยู่แล้ว
ในส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานฉะเชิงเทรา จัดเส้นทางท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด Gastronomic ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน เพื่อเป็นทางเลือกในการพาคุณแม่และคนในครอบครัวไปท่องเที่ยวด้วยกัน
นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือแปดริ้ว เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ให้อารมณ์ของความเป็นวิถีชีวิตพื้นบ้าน มีวัดวาอาราม มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้เคารพสักการะ รวมทั้งมีตลาดเก่าแก่ ที่สำคัญอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางไม่นาน จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนและทำกิจกรรมกันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะการเดินทางร่วมกับครอบครัวในวาระสำคัญ
สำหรับเส้นทางที่แนะนำมีรายละเอียดดังนี้ วันแรก เริ่มต้นออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา ถึง “วัดโสธรวรารามวรวิหาร” เข้ากราบสักการะหลวงพ่อพุทธโสธร สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองแปดริ้ว ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้น ไปเยือน “หอธรรมพระบารมี” อยู่ที่อำเภอบ้านโพธิ์ เป็นสถานที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและจัดแสดงงานศิลปะจากศิลปินแห่งชาติ ศิลปินทั่วไป นักศึกษา แบ่งโซนจัดแสดงเป็น 4 โซนหลักๆ ได้แก่ โซนงานศิลป์รัชกาลที่ 9 โซนงานศิลป์จัดแสดงถาวร โซนงานศิลป์หมุนเวียน (เปลี่ยนทุก 3 เดือน) และโซนงานศิลป์กลางแจ้ง เปิดบริการ เวลา 09.00-16.00 น. ปิดบริการทุกวันจันทร์ โทร. 0-3813-1811 ทั้งนี้หากเข้าชมเป็นหมู่คณะกรุณาติดต่อล่วงหน้า
จากนั้น ไปร้านเปี๊ยะซิม การ์เด้น อ.บ้านโพธิ์ เรียนรู้ สาธิตการทำขนมเปี๊ยะ ของดีเมืองแปดริ้ว พร้อมชิมขนมเปี๊ยะร้อนๆ จากเตา ทานคู่กับชาจีน ภายในร้านตกแต่งสถาปัตยกรรมที่เน้นการอยู่กับธรรมชาติ ตัวโครงสร้างของอาคารทำจากใบจาก สามารถรับประทานอาหารกลางวันที่นี่ได้ มีทั้งอาหารคาวหวาน เครื่องดื่ม และของฝากอย่างขนมเปี๊ยะ ส่วนเมนูแนะนำได้แก่ หมี่ผัดผักกระเฉดกุ้ง หมูกรอบ หมูสะเต๊ะ หมูอบ เป็นต้น ร้านเปิดบริการเวลา 09.00-17.00 น. ปิดบริการทุกวันจันทร์ โทร. 09-7236-2605
อิ่มหนำสำราญกันแล้ว ช่วงบ่ายไปเยือน “มินิมูร่าห์ฟาร์ม” อำเภอบ้านโพธิ์ มีกิจกรรมเวิร์กช็อป เช่น การทำพิซซ่า การทำไอศกรีม ให้เลือกลองฝีมือ ที่นี่เป็นฟาร์มขนาดเล็ก เลี้ยงควายนมสายพันธุ์มูร่าห์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อการเรียนรู้วิถีชาวฟาร์ม เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น. โทร. 08-1819-2819
จากนั้นไป “บ้านสวนเมล่อน” อยู่ที่อำเภอบ้านโพธิ์เหมือนกัน เรียนรู้เรื่องพันธุ์เมล่อน การปลูกเมล่อน และการตัดเมล่อน การแปรรูปจากเมล่อน พร้อมเติมความหอม หวานกับเมนูน่าทาน อาทิ เมล่อนปั่น หรือเมล่อนสด เปิดบริการเวลา 08.30-17.00 น. ปิดบริการทุกวันจันทร์ โทร. 08-2470-8973 และในเวลา 16.30 น.
เข้าที่พัก โรงแรมดีวา ฉะเชิงเทรา อำเภอคลองเขื่อน ทำกิจกรรม อาทิ จักรยานเพื่อชุมชน แช่เท้าสมุนไพร ทำขนม ผ้ามัดย้อมธรรมชาติ ฯลฯ รับประทานอาหารเย็น ที่โรงแรมดีวา ฉะเชิงเทรา เมนู กุ้งแม่น้ำเผา เมนูปลา พักผ่อนตามอัธยาศัย สำหรับที่พัก กิจกรรม อาหาร กรณีมาเป็นหมู่คณะ จองล่วงหน้าได้ที่ โทร. 06-2653-3694
วันรุ่งขึ้นออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ “เทวสถานอุทยานพระพิฆเนศ คลองเขื่อน” สถานที่ประดิษฐานพระพิฆเนศองค์ยืนเนื้อสำริด ขนาดความสูงรวมฐาน 39 เมตร เป็นประติมากรรมที่โดดเด่นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ท่ามกลางธรรมชาติของสวนเกษตรแห่งอำเภอคลองเขื่อน พระหัตถ์ทั้ง 4 ถือกล้วย อ้อย มะม่วง ขนุน ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดิน
จากนั้นไปเยือน “สวนมะพร้าวน้ำหอม โคโค่คาวบอย” อำเภอคลองเขื่อน เรียนรู้เรื่องพันธุ์มะพร้าว การปลูกมะพร้าว และการตัดมะพร้าว พร้อมเติมความหอม หวาน กับเมนูน่าทาน เช่น มะพร้าวสด มะพร้าวเผา ไอศกรีมกะทิสดมะพร้าวอ่อนไร้แป้ง กาแฟมะพร้าวหอมละมุนลิ้น เป็นต้น เปิดบริการวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น. โทร. 09-9275-7425
ช่วงเที่ยง รับประทานอาหารกลางวันกันที่ “ร้านกรีน วิลล์” อำเภอบางคล้า ร้านอาหารสไตล์ฟาร์มคาเฟ่ เป็นฟาร์มผักสลัด ร้านอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ เมนูแนะนำ ซี่โครงหมูซิกเนเจอร์ สลัดผัก กรีนวิลล์สมูทตี้ ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-19.00 โทร. 06-1828-8880
จากนั้นช่วงบ่ายไปเยือน “วัดปากน้ำโจ้โล้” อำเภอบางคล้า โดดเด่นด้วยโบสถ์สีเหลืองอร่ามทั้งหลัง ที่มีความงดงามทั้งภายในและภายนอก เป็นวัดเก่าแก่ ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สันนิษฐานว่า บริเวณปากน้ำโจ้โล้เป็นที่ตั้งของกองทัพพม่าที่มีการต่อสู้ และพ่ายแพ้ให้กับกองทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บริเวณด้านหลังวัดเป็นจุดชมทิวทัศน์ของแม่น้ำบางปะกง
ถัดมา “วิสาหกิจชุมชนขนมเปี๊ยะแม่บุญมี” อำเภอบางคล้า เรียนรู้กระบวนการทำขนมเปี๊ยะและหมี่กรอบ การผลิต ชมและเลือกซื้อผลิตภันฑ์ เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น. โทร. 08-1928-8216
ยังมี “ร้านขนมเปี๊ยะตั้งเซ่งจั้ว สาขาเก๋งจีน” อำเภอบางคล้า เป็นร้านเก่าแก่ ตกแต่งสไตล์จีนโบราณ แวะซื้อของฝาก เช่น ขนมเปี๊ยะ ขนมบัวหิมะไส้ต่างๆ ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมโก๋อ่อน โมจิ เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00-19.00 น. โทร. 0-3856-8988 ใกล้ๆ กัน เป็นตลาดมะม่วง ของดีมีชื่อบางคล้า อาทิ มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงเขียวเสวย มะม่วงขายตึก
หากมีเวลาอาจไปเยือน ตลาดบ้านใหม่ เป็นตลาดเก่าอายุกว่า 100 ปี ในอดีตสถานที่แห่งนี้มีความคับคั่งด้วยผู้คนเชื้อสายไทย จีน ที่มาประกอบอาชีพค้าขาย รวมทั้งเป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้าสำคัญของฉะเชิงเทรา มีอาคารบ้านเรือนปลูกสร้างติดกันริมน้ำ แม้วันเวลาจะผ่านไปนานแต่ตลาดริมน้ำแห่งนี้ก็ยังดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน เป็นที่รวมอาหารรสเด็ดของแปดริ้ว ทั้งอาหารคาวหวาน อาหารพื้นบ้านที่หาทานได้ยาก และของฝากหลากหลายชนิดสำหรับซื้อติดมือก่อนกลับบ้าน
เส้นทางที่แนะนำ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความสะดวกและเวลา แต่ทุกสถานที่ยังให้ความสำคัญกับการรักษาระยะห่าง การตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมหน้ากาก และการล้างมือตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทุกคนเดินทางท่องเที่ยวมีความปลอดภัยและมีความสุข
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานฉะเชิงเทรา โทร. 0-3851-4009 และเฟซบุ๊ก TAT Chachoengsao.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |