ถูกบรรจุเป็น "วาระด่วน" ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันพฤหัสบดีที่ 19 เม.ย.นี้ กับวาระ "เลือกบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช." หลังกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กสทช.ของ สนช. เพิ่งจะประชุมนัดสุดท้ายไปเมื่อ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา

      ซึ่งเหตุที่ สนช.ต้องเร่งพิจารณาเรื่อง "โหวตเลือก 7 อรหันต์ กสทช." ก็เพราะต้องทำตามกฎหมายที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติต้องพิจารณาโหวตเลือก 7 กสทช.ภายในไม่เกิน 30 วัน หลังรับเรื่องจากกรรมการสรรหา กสทช. โดย สนช.รับเรื่องไว้เมื่อ 21 มี.ค. ดังนั้น จึงต้องทำให้แล้วเสร็จภายในไม่เกินสัปดาห์นี้

      ท่ามกลางกระแสข่าวออกมาในช่วง "48 ชั่วโมง ก่อน  สนช.จะลงมติ เลือก 7 อรหันต์ กสทช.ชุดใหม่" ที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง-อำนาจหน้าที่ใหม่ตามกฎหมาย

องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ที่มีการลด กสทช.จากเดิม 11 คนเหลือ 7 คน และให้ กสทช.ต้องดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นหลัก ซึ่งทั้งหมดเป็นโมเดลที่เกิดขึ้นในยุค คสช.ทั้งสิ้น

      กระแสข่าวเลือก กสทช. จับทิศทางได้  2 ทาง

      1.อาจมีความเป็นไปได้ที่ทางที่ประชุม "ลับ" ของ สนช.ในวันที่ 19 เม.ย.นี้ อาจจะ "ล้มกระดาน 14 รายชื่อ ว่าที่ กสทช." ทั้งหมด ซ้ำรอยกับการเลือก กกต.ที่ สนช.เคยล้มกระดานมาแล้วก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุว่า รายชื่อส่วนใหญ่  ที่ทางคณะกรรมการสรรหาฯ ที่มี "อุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" เป็นประธาน คัดเลือกและส่งชื่อมาให้ สนช.ส่วนใหญ่ ทาง สนช.อ้างว่ามีปัญหาขาดคุณสมบัติ มีปัญหาข้อกฎหมายในเรื่องคุณสมบัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน ที่อาจขัดต่อกฎหมาย ทำให้ สนช.จะล้มกระดานไปเลย เพื่อนับหนึ่งใหม่

      2.สนช.อาจเลือกว่าที่ กสทช.แค่บางด้าน ที่พบว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เพื่อให้เข้าไปตัดชุดรอเป็น กสทช.รอไว้ก่อน ส่วนรายชื่อบางด้านที่เห็นว่ามีปัญหา ก็จะโหวตไม่เลือก แล้วให้ไปนับหนึ่งเริ่มต้นกันใหม่

       อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวดังกล่าวยังไม่แน่ชัด ทิศทางไม่นิ่ง อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ ในช่วงเช้าวันที่ 19 เม.ย. ที่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงโค้งสุดท้าย 

      โดยทั้งหมดคงเป็นเรื่องที่ทางสมาชิก สนช.ทั้งหมด จะพูดคุยกันใน "ห้องประชุมลับ สนช." หลังพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ ว่า สรุปแล้ว จาก 14 รายชื่อที่ส่งมา ชื่อไหน-ผู้สมัครจากด้านไหน  มีปัญหาหรือไม่ ถ้าทุกอย่างได้ข้อสรุปในที่ประชุมลับ สนช. ก็จะนำมาสู่การลงมติของที่ประชุม สนช.ว่าจะเอาอย่างไรกัน

      จะออกมาในสูตร "ล้มกระดานหมด" หรือจะออกสูตร "เลือกผู้สมัครจากบางด้าน-บางชื่อที่ไม่มีปัญหา ส่วนด้านที่มีปัญหา ก็โหวตไม่เลือก แล้วไปนับหนึ่งใหม่" หรือจะออกสูตร "เลือกหมดครบทุกด้าน" ก็ต้องรอดูมติของ สนช.ที่จะออกมา?

       สำหรับ "14 รายชื่อว่าที่ กสทช." ที่ สนช.จะมีการพิจารณาโหวตลงมติแยกเป็นด้านต่างๆ จำนวนด้านละ 2 ชื่อ ดังนี้ 1.ด้านกิจการกระจายเสียง คือ พ.อ.กฤษฎา เทอดพงษ์ ​และธนกร ศรีสุขใส ​2.ด้านกิจการโทรทัศน์คือ วสันต์ ภัยหลีกลี้ และ พล.อ.มังกร โกสินทรเสนีย์ 3.ด้านกิจการโทรคมนาคม คือ อธิคม ฤกษบุตร และกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ 4.ด้านวิศวกรรมคือ พล.อ.ต.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ และ พ.อ.อนุรัตน์ อินกัน

    5.ด้านกฎหมาย คือ มนูภาน ยศธแสนย์ และก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร 6.ด้านเศรษฐศาสตร์คือ ภักดี มะนะเวศ และณรงค์ เขียดเดช 7.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค หรือด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน คือ นพ.สุริยเดว ทรีปาตี และวรรณชัย สุวรรณกาญจน์

      อันพบว่าส่วนใหญ่จะเป็น "คนในตึก กสทช.ซอยสายลม" เสียส่วนมาก ทั้งเป็นหน้าห้อง กสทช.ชุดรักษาการตอนนี้หรือเป็นอนุกรรมการชุดต่างๆ ที่ กสทช.ตั้ง ตลอดจนรองเลขาธิการ กสทช.อีก 3 คน ขณะที่บางคนก็มีข่าวว่า คนในรัฐบาลอย่างสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ส่งเข้าประกวด

      ส่วนผลการลงมติของ สนช.จะออกมาแบบไหน "7 อรหันต์ กสทช.ชุดใหม่" จะได้คลอดหรือไม่ ต้องรอดูกัน.