7 ส.ค.63 - เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ บางเขน กทม. นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง เข้ายื่นเรื่องขอให้สภาทนายความฯลบชื่อ นายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มพลเมืองโต้กลับ และทนายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกจากทะเบียนทนายความ เนื่องจากมีพฤติกรรมเข้าข่ายละเมิดข้อบังคับสภาทนายความฯ จากการปราศรัยที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 3 ส.ค.63 มีเนื้อหายุยง ปลุกปั่น บิดเบือน และล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมี นายเกียรติศักดิ์ เหลืองอังกูร อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย และ นายปัญญา จารุมาศ เลขานุการคณะกรรมการมรรยาททนายความ เป็นผู้รับเรื่อง
นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า เดิมตนได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ นายอานนท์ ที่ สน.สำราญราษฎร์ ไว้แล้ว จากกรณีที่ นายอานนท์ ได้ขึ้นปราศรัยล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเคารพของคนไทย การปราศรัยดังกล่าว เป็นการบิดเบือนความจริง หมิ่นประมาท เสียดสี ยุยงปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเสียหาย และความชิงชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อหวังผลให้ประเทศเกิดความแตกแยกความสามัคคี ความวุ่นวายปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว
“ในฐานะที่นายอานนท์เป็นทนายความ แต่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดี หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ต่อศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของวิชาชีพ อีกทั้งสภาทนายความ ก็อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดังนั้นจึงควรมีมาตรการลงโทษ โดยการลบชื่อนายอานนท์ ออกจากทะเบียนทนายความโดยเร็วที่สุด” นายอภิวัฒน์ ระบุ
นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า การดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับ นายอานนท์ ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ และต่อสภาทนายความฯนั้น เป็นการดำเนินการในฐานะส่วนตัวที่รักและเทิดทูนสถาบัน ไม่ได้มีใครมอบหมายมาทั้งสิ้น และไม่เกี่ยวข้องใดๆกับทางรัฐบาล แม้ตนจะมีตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีก็ตาม อีกทั้งตนก็ไม่ได้ต้องการปิดกั้นการแสดงออกของประชาชน แต่ยอมรับไม่ได้กับพฤติกรรมของนายอานนท์ ที่เข้าข่ายความผิดกฎหมายบ้านเมืองหลายข้อหา ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาตามข้อเท็จจริงของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พฤติกรรมของนายอานนท์เข้าข่ายฐานความผิดใด และได้ยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาใดต่อทางตำรวจ นายอภิวัฒน์ กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัวมองว่าคำปราศรัย และการชักชวนให้ผู้อื่นวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ในทางเสียหายนั้น ถือว่าเข้าข่ายฐานความผิดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 112 ที่เกี่ยวกับการหมิ่นพระพรมเดชานุภาพ อย่างไรก็ดีมาตราดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ไม่ให้นำมาใช้ดำเนินคดีกับผู้ใด ก็เลยเป็นช่องทางที่พวกโจมตีสถาบันฯออกมาให้ร้ายป้ายสี ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง จึงมองว่า นายอานนท์ เข้าข่ายฐานความผิดมาตรา 116 เรื่องความมั่นคง ยุยงปลุกปั่น ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง ตลอดจนมาตรา 215 เรื่องการชุมนุมเกินกว่า 5 คนขึ้นไป เป็นต้น
“อยากฝากถึงเยาวชนปลดแอก และกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ให้ใช้สติไตร่ตรองให้ดีว่า การชุมนุมทางการเมืองต่างๆนั้น สามารถทำได้ตามกรอบของกฎหมาย หากมีการละเมิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ ดังนั้นทุกคนต้องมีสติ อย่าตกเป็นเครื่องมือของแกนนำและผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่มีเป้าหมายแอบแฝงในเรื่องที่ไม่บังควร อย่าไปหลงเชื่อคนเหล่านั้นที่ชักชวนให้มาเดินขบวน มาลงถนน หรือชุมนุมต่างๆ“ นายอภิวัฒน์ กล่าว
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อรับเรื่องร้องเรียนมา ทางสภาทนายความฯจะเร่งดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากนั้นจะเร่งพิจารณาเป็นการเร่งด่วน คาดว่า จะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ จะมีความชัดเจน โดยจะเชิญนายอานนท์มาให้ถ้อยคำในเรื่องนี้ด้วย สำหรับฐานความผิดหนักที่สุด คือการลบชื่อออกจากการเป็นทนายความ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |