บีโอไอเผยการลงทุนจากต่างประเทศยังโตเปิดยอดขอรับส่งเสริมช่วง 6 เดือนโครงการเพิ่ม 7% 


เพิ่มเพื่อน    

7 ส.ค.2563 น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนช่วง 6 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) รวมทั้งสิ้น 754 โครงการ เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มี 703 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 158,890 ล้านบาท ลดลง 17% จากปีก่อนที่สามารถทำมูลค่ารวม 190,330 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และในช่วงเดียวกันของปี 2562 มีโครงการขนาดใหญ่ด้านพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลยื่นขอรับการส่งเสริม ซึ่งเป็นการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) 225 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 85,480 ล้านบาท   

สำหรับยอดขอรับการส่งเสริมส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 371 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 83,140 ล้านบาท คิดเป็น 52% ของมูลค่าคำขอรับการส่งเสริมทั้งหมด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการแพทย์ ที่ยื่นขอรับการส่งเสริมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุน โดยมีการยื่นขอรับการส่งเสริมรวม 52 โครงการ เพิ่มขึ้น 174% มูลค่าเงินลงทุนรวม 13,070 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123%   

“ยอดคำขอรับการส่งเสริมในอุตสาหกรรมการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากมาตรการเร่งรัดการลงทุนในอุตสาหกรรมการแพทย์ ที่บอร์ดบีโอไอเห็นชอบเมื่อเดือนเม.ย. เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนอย่างรวดเร็ว รองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งจากสถิติการส่งเสริมการลงทุนช่วง 6 เดือนของปีนี้ มีประเด็นที่น่าสนใจว่ามีนักลงทุนรายใหม่สนใจขอรับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ไม่ปกติ ซึ่งเป็นการยื่นขอรับการส่งเสริมในโครงการใหม่ถึง 366 โครงการ คิดเป็น 49% ของจำนวนคำขอรับการส่งเสริมทั้งหมด เงินลงทุนรวม 42,520 ล้านบาท คิดเป็น 27% ของเงินลงทุนทั้งหมด   ”นางสาวดวงใจกล่าว   

 ทั้งนี้จำแนกตามอุตสาหกรรมเป้าหมาย อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรกในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 28,250 ล้านบาท รองลงมาคือ อุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปอาหาร มูลค่า 15,300 ล้านบาท อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน มูลค่า 13,510 ล้านบาท อุตสาหกรรมการแพทย์ 13,070 ล้านบาท และอุตสาหกรรมปิโตรและเคมีภัณฑ์ 4,380 ล้านบาท   

 สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) 6 เดือน มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริม 459 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5% มูลค่าเงินลงทุนรวม 75,902 ล้านบาท ลดลง 34% เพราะโควิด-19 ซึ่งประเทศญี่ปุ่นมีจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมมากที่สุด 99 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนสูงสุดที่ 22,636 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด ตามด้วยจีน 95 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 17,461 ล้านบาท และสิงคโปร์ 55 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 10,624 ล้านบาท   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"