เจ้าบ่าวที่มีคิวแต่งงานในช่วงนี้ อาจจะต้องหนาวๆ ร้อนๆ กับราคาทองคำที่สวิงขาขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน จนล่าสุดราคาทองรูปพรรณขยับทะลุ 30,000 บาท เป็นที่เรียบร้อย

                ปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำทะยานขาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ก็เนื่องมาจากราคาทองคำโลกที่ปรับขึ้นทะลุ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ อันเป็นผลมาจากการการเก็งกำไร ที่นักลงทุนคาดหวังการเจรจาระหว่างสภาคองเกรสและทำเนียบขาวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่จะมีความคืบหน้า

                ขณะเดียวกัน ยังได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทั้งประเภทอายุ 10 ปี และ 30 ปี ปรับตัวลง และยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นมากขึ้น

                ขณะที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและจีน ในขณะที่สหรัฐและจีนได้ตกลงกันที่จะจัดการเจรจาระดับสูงในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ เพื่อประเมินผลข้อตกลงร่วมกันในเฟสแรก และที่สำคัญที่สุด การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกแทบหยุดชะงัก ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจลงทุนทอง เพราะมองเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง

                โดยในมุมมองของบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงโบรกเกอร์ทองหลายแห่ง ก็ยังเชื่อว่าราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น จากมุมมองของ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า “แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าจะยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ โดยทองคำมีแนวต้านที่ 2,040 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 30,100 บาท และแนวต้านต่อไป 2,050 เหรียญสหรัฐ หรือ 30,250 บาท ในขณะที่ทองคำมีแนวรับที่ 2,010 เหรียญสหรัฐ หรือ 29,620 บาท และ 1,990 เหรียญสหรัฐ หรือ 29,390 บาท

                ด้าน บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยนฯ ประเมินว่าในระยะสั้นหลังจากราคาทดสอบแนวต้าน 2,043 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถยืนได้ จึงทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 2,011-2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้ง และหากสามารถยืนแนวต้าน 2,039-2,043 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคามีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป

                อย่างไรก็ตาม ทาง YLG แนะนำนักลงทุนควรกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ให้หลากหลาย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง โดยมองว่าควรมีสัดส่วนการลงทุนทองคำในพอร์ตลงทุนที่ 5-15% โดยคนที่เริ่มลงทุนควรมีสัดส่วนลงทุนอยู่ที่ 5% และค่อยปรับขึ้นเป็น 10% และ 15% โดยสัดส่วนไม่ควรเกินระดับนี้ เนื่องจากปัจจุบันราคาถือว่าปรับขึ้นมาสูงแล้ว แม้ว่าโอกาสราคายังสามารถปรับขึ้นได้อีก แต่การลงทุนควรมีวินัยและกระจายความเสี่ยงไปในสินทรัพย์ที่หลากหลาย และถือทองคำไว้ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

                ล่าสุด ในวันที่ 6 ส.ค. สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองคำมีการปรับขึ้น-ลง 7 ครั้ง ตั้งแต่เปิดตลาด รวม 350 บาท ทำให้ราคาทองคำแท่งแตะบาทละ 30,000 บาทแล้ว โดยทำให้ทองคำแท่งขายออกบาทละ 30,050 บาท รับซื้อบาทละ 29,950 บาท, ทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 30,550 บาท รับซื้อบาทละ 29,410.40 บาท

            จากที่เกริ่นมา หนุ่มคนไทยที่จะต้องไปขอสาวตอนนี้ จะต้องควักเงินมากหน่อย เพื่อจะไปซื้อทองคำ และแนวโน้มก็ยังไม่เห็นทิศทางของขาลงเท่าไหร่นัก ดังนั้นอาจจะต้องทำใจ ที่จะต้องทุ่มสุดตัวเพื่อสาวสุดที่รักต่อไป.

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง