ท่ามกลางสถานการณ์และรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไปในทุกๆ แวดวง รวมไปถึงวงการแฟชั่นต้องปรับตัวและหาวิธีการรับมือกันอย่างทันท่วงที Asava Group (อาซาว่า กรุ๊ป) นำโดย หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง เปิดแฟล็กชิปสโตร์ซึ่งเป็นทั้งร้านและสตูดิโอออกแบบต้อนรับ พร้อมพาไปสัมผัสวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ของแบรนด์ Asava (อาซาว่า) และ Asv (เอเอสวี) ที่นำเอาจิตวิญญาณ ความเชื่ออันแน่วแน่และความฝันตลอดชีวิตมาเป็นแรงผลักดันให้แบรนด์ดำเนินไปข้างหน้า และก้าวข้ามวิกฤติในครั้งนี้ไปได้อย่างมั่นคง
หมู-พลพัฒน์ อัศวะประภา เล่าว่า “ในปีนี้เราเองทราบดีอยู่แล้วว่าการทำธุรกิจมันจะยากและท้าทายขึ้น เราจึงเริ่มมีการปรับตัวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว พยายามมองหาวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งก็เป็นวิธีการทำงานของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ต้องปรับเปลี่ยนทุกขณะ อาซาว่า กรุ๊ปเองก็หันมาบุกธุรกิจออนไลน์มากขึ้น ขับเคลื่อนแบรนด์ไปในทิศทางใหม่ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมอบความสุข ถ่ายทอดลงบนผลงานการออกแบบ ให้เสื้อผ้าทำหน้าที่เป็นเหมือนสิ่งที่มาช่วยเติมสีสันและสร้างสุนทรียภาพให้กับชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน โดยที่เราก็ยังคงมุ่งที่จะสร้างสรรค์ผลงาน และส่งต่อความงามที่แท้จริงที่จะมาช่วยเติมเต็มและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้หญิงในแบบฉบับอาซาว่า กรุ๊ป ทุกๆ คน”
โดยในการนำเสนอคอลเลคชั่นและบอกเล่าวิธีการทำงานในครั้งนี้ ยังได้พบกับตัวแทนของผู้หญิงในแบบอาซาว่าและเอเอสวีมาร่วมถ่ายทอดตัวตนและจิตวิญญาณของแบรนด์ พร้อมทั้งบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแฟชั่นและการเติมเต็มความสุขในช่วงเวลาที่ผ่านมา เริ่มด้วย สู่ขวัญ บูลกุล กล่าวว่า “โดยส่วนตัวมองว่า ไม่ว่าสถานการณ์หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวจะเปลี่ยนแปลงไป หรือเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แฟชั่นและการแต่งตัวก็ยังคงเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้หญิงเรามีความสุขเสมอ แต่สิ่งที่มีเพิ่มเติมเข้ามา คือเราอาจจะต้องเลือกใช้ หรือเลือกซื้อมากขึ้นค่ะ"
ตามด้วยสองพี่น้องสายแฟชั่นอย่าง จารุจิต-พิมพ์เลิศ ใบหยก กล่าวว่า “สำหรับบุ๋มมองว่าพอโลกเราเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา หลายๆ อย่างในการใช้ชีวิตก็เริ่มหมุนเปลี่ยนตามไปด้วยเช่นกัน อย่างเรื่องการแต่งตัวของบุ๋มเองก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไม่น้อย จากที่เคยชอบซื้อเสื้อผ้าอินเทรนด์ อัพเดตแฟชั่นอยู่ตลอด ตอนนี้บุ๋มก็เลือกซื้อเสื้อผ้าที่ไม่แฟชั่นจนเกินไป แต่จะเลือกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันเสียมากกว่า เพราะกิจกรรมในแต่ละวันไม่ได้มีมากเท่าเมื่อก่อน ช่วงนี้บุ๋มจึงเลือกหยิบเสื้อผ้าที่มีความคลาสสิก ใส่ได้ทุกโอกาสและใส่ได้บ่อยมาเป็นตัวช่วยในการเติมเต็มด้านแฟชั่นของตัวเองค่ะ”
ปิดท้ายที่ ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง กล่าวถึงแฟชั่นและการเติมเต็มความสุขของตนเองไว้ว่า “สำหรับตัวออกแบบเองมองว่าแฟชั่นคือความสนุก และเรามีความสุขทุกครั้งที่ได้หยิบเสื้อผ้ามามิกซ์แอนด์แมตช์กัน สีสันจากเสื้อผ้าคือส่วนเติมเต็มและเพิ่มเอนเนอร์จีให้กับชีวิต ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแฟชั่นคือสิ่งที่อยู่คู่กับผู้หญิงเรา ในแต่ละวันที่ได้หยิบชิ้นนั้นมาผสมชิ้นนี้มันก็เหมือนเราได้สนุกไปกับเสื้อผ้า และเติมพลังให้กับตนเองไปด้วย”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |