6 ส.ค.63 - นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินการสอบวินัยข้าราชการอัยการ ว่า เรื่องนี้ขั้นแรกคือขั้นตอนการสอบสวนชั้นต้น เพื่อดูว่ามีการกระทำความผิดวินัยหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดวินัยแล้ว ก็จะต้องมีการสอบสวนวินัย โดยในการสอบสวนวินัย อัยการสูงสุด (อสส.) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดสามารถที่จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยได้เลย เมื่อคณะกรรมการดังกล่าวสอบสวนวินัยได้ประการใด ขั้นตอนต่อไปจะต้องส่งมาที่สำนักงานคณะกรรมการอัยการ ว่าสอบสวนถูกต้องหรือไม่ ถ้าการสอบสวนวินัยแล้วผลออกมามีความเห็นว่าไม่ได้กระทำความผิดก็จะต้องสั่งยุติเรื่องไป แต่ถ้าผลสอบออกมาว่ามีการกระทำความผิดวินัยจริง ก็จะเสนอคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เพื่อพิจารณา กรณีที่กล่าวมาหมายถึงเป็นวินัยไม่ร้ายแรง แต่ถ้าผลการสอบสวนชั้นต้นตามที่ อสส.ตั้ง เห็นว่าเป็นกรณีการกระทำความผิดวินัยร้ายแรง อสส. จะยังตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเองไม่ได้ จะต้องส่งให้ ก.อ.ตั้งกรรมการสอบสวนเอง
ส่วนในตอนนี้มีการตั้งกรรมการสอบสวนชั้นต้นแล้วหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ตนไม่ทราบเพราะการตั้งกรรมการสอบชั้นต้นในทางปฏิบัติ อสส.จะต้องเป็นผู้พิจารณาตั้งกรรมการ ก่อนที่จะส่งมายัง ก.อ. แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ ตนจะถามในที่ประชุม ก.อ.วันที่ 18 ส.ค. นี้ ว่าผลเป็นอย่างไรมีการตั้งกรรมการสอบสวนเบื้องต้นที่จะสอบสวนวินัยหรือไม่ เพราะคณะทำงานที่ได้ตั้งขึ้น 7 คน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ไม่ได้รับมอบอำนาจในการสอบเรื่องนี้ จึงต้องเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวขึ้น แต่คณะทำงานเป็นใครขึ้นกับ อสส.พิจารณา
เมื่อถามว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับดุลพินิจของ นายเนตร นาคสุข รอง อสส.ซึ่งมีอาวุโสสูงรองจากอัยการสูงสุด คุณสมบัติกรรมการที่จะสอบสวนต้องคุณสมบัติอย่างไร นายอรรถพล กล่าวว่า คุณสมบัติต้องไม่ต่ำกว่ารอง อสส.ผู้ถูกสอบ ซึ่งรอง อสส. แต่ละคนมีเงินเดือนเท่ากัน สามารถเป็นประธานคณะทำงานได้ส่วนกรรมการสามารถอาวุโสต่ำกว่าได้ หรืออัยการสูงสุดสามารถมานั่งเป็นประธานเองก็ได้
นายอรรถพล กล่าวถึงอำนาจหน้าที่ของ ก.อ.ในเรื่องนี้ว่า มีอำนาจหน้าที่ที่จะตั้งอนุกรรมการหรือคณะบุคคลให้มาดำเนินการอย่างไรก็ได้โดยเฉพาะเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 30 (4) แต่ ก.อ.จะตั้งหรือไม่ ตนขอดูข้อเท็จจริงก่อน เพราะ อสส.อาจจะมีการตั้งกรรมการสอบเบื้องต้นอย่างที่กล่าวมาแล้วก็ได้ แต่ทาง ก.อ.ยังไม่ทราบ
เมื่อถามถึงกรณีที่ประธาน ก.อ.มีความเห็นว่าการกลับคำสั่งของนายเนตรไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตรงนี้หากมีการอ้างว่าสั่งในฐานะทำการแทน อสส.จะมีผลเหมือน อสส.สั่งเอง มีผลเป็นคำสั่งไม่ฟ้องคดีหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า การที่นายเนตร รอง อสส.ได้รับการแบ่งงานจากอัยการสูงสุดให้ดูแลงานเรื่องการรับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมแล้ว ได้สั่งการในฐานะรองอัยการสูงสุดที่ได้รับมอบหมาย หรือปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุดไม่ถือว่ามีอำนาจ แต่ถ้านายเนตรสั่งขณะที่รักษาการแทนอัยการสูงสุดจะมีอำนาจ ส่วนคดีนี้จะเป็นการสั่งในสถานะใด ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง จากข่าวที่ปรากฏออกมานั้นไม่ได้บอกว่านายเนตรสั่งในฐานะรักษาราชการแทน ตนจึงได้ทำหนังสือเรียนอัยการสูงสุด เพื่อได้ทราบว่ากรณีเช่นนี้ หากนายเนตรมีคำสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมและกลับคำสั่งไม่ฟ้องจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ถ้ามีเอกสารว่านายเนตรเสนอไปยังอัยการสูงสุดก่อนว่าจะมีการสั่งสอบเพิ่มเติม ก็จะเป็นการที่อัยการสูงสุดเห็นชอบในการสั่งสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว หากนายเนตรมาสั่งให้กลับคำสั่งแบบนี้ถึงชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนประเด็นที่ตนเสนออัยการสูงสุดว่าคำสั่งของนายเนตรอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย คดียังมีผลเป็นคำสั่งฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ตามคำสั่งของอธิบดีอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ต้องขึ้นกับอัยการสูงสุดเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าอัยการสูงสุดเห็นด้วยก็ให้แจ้งความเห็นไปยังพนักงานสอบสวนหรือทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ดำเนินการต่อโดยไม่ต้องถอนหมายจับนายวรยุทธ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |