6 ส.ค.63 - นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊กว่า ผมชอบคุยกับพ่อถึงเรื่องราวเกี่ยวกับฝรั่งเศส เพราะพ่อผมมีประสบการณ์การทำงานที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้ช่วยทูตทหารเรือประจำฝรั่งเศส ช่วงปี 2499-2501 พ่อเล่าให้ฟังว่าช่วงนั้นเริ่มมีการเคลื่อนไหวที่จะนำเอาเรื่องเขาพระวิหารเข้าสู่กระบวนการของศาลโลกแล้ว พ่อเล่าว่าฝรั่งเศสก็เริ่มกระบวนการที่จะ sabotage / จารกรรม ข้อมูลและท่าทีของไทยในทันทีเช่นกัน ขออนุญาตไม่เล่ารายละเอียดในที่นี้ เพราะเรื่องมันยาว และหาอ่านได้จากทางกูเกิ้ล หรือ วิกิพีเดีย

เอาเป็นว่าสรุปง่ายๆเราแพ้กรณีเขาพระวิหารเพราะกระดาษคาร์บอนไม่กี่แผ่น โดยฝรั่งเศสทำจารกรรมใช้สปายตีสนิทและติดสินบนจนท.พิมพ์ดีดของสน.เลขาธิการครม.ในยุคนั้น ให้เอากระดาษคาร์บอนที่พิมพ์ผลการประชุมครม.เอามาให้สปายฝรั่งเศส จนฝรั่งเศสรู้ท่าทีของไทยและสามารถตั้งรับได้ทั้งหมด ซึ่งต่อให้เราใช้ทนายที่เก่งแค่ไหนก็แพ้ (ทนายของไทยตอนนั้นคือ มรว.เสนีย์ ปราโมช)

พ่อเล่าว่า ฝรั่งเศสนั้นไม่เคยหยุดในการบ่อนทำลายไทยเลยนับตั้งแต่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ยึดครองฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง จนเราต้องเสียลาว และดินแดนฝั่งขวาบางส่วนแถวจำปาสัก สิ่งที่ฝรั่งเศสครอบงำทางความคิดแก่ นศ.ไทยที่ไปเรียนที่ฝรั่งเศสตอนก่อน 2475 นั้นก็เป็นระเบิดเวลาลูกหนึ่งที่ฝรั่งเศสวางไว้เช่นกัน ทฤษฎีการปฏิวัติแบบฝรั่งเศส อุดมการณ์แบบ ปชต.ที่ฝรั่งเศสส่งออกผ่าน นศ.ชาติต่างๆนั้น ทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศที่เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสเป็นส่วนใหญ่ เพราะบริบทของฝรั่งเศสนั้นใช้กับประเทศในเอเชียและแอฟริกาแทบไม่ได้เลย เนื่องจากวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน

ฝรั่งเศสเองก็เป็นประชาธิปไตยแค่เพียงลมปาก แต่เวลาออกไปยึดครองประเทศอื่นเอามาเป็นอาณานิคม นั่นก็เป็นพฤติกรรมของเผด็จการ หาใช่เป็นปชต.แต่อย่างใด คนทั่วไปอาจมองเห็น soft power ที่ฝรั่งเศสส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ แค่แฟชั่น haute coutoure สินค้าหรูหราแบรนด์เนม น้ำหอม อาหาร รถซีตรอง เปอร์โยต์ เรโนลด์ ฯลฯ แต่จริงๆแล้ว soft power อีกอย่างที่ฝรั่งเศสส่งออกคือ ทฤษฎีและหลักการแห่งการปฏิวัติปชต.แบบฝรั่งเศส ซึ่งถ้าเด็ก นศ.ชาติใดก็ตามรับเอามาแบบเพียวๆโดยไม่คำนึงว่าบริบทของฝรั่งเศส กับบริบทในชาติของตนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแล้ว

นั่นก็จะนำมาซึ่งความขัดแย้งทางการเมืองที่ประทุในประเทศต่างๆ เพราะการรับเอาไอเดียของฝรั่งเศสมาใช้แบบทั้งดุ้นโดยไม่ไตร่ตรอง หรือ คัดกรองให้ดีเสียก่อน ตัวอย่างก็มีให้เห็นทั้งที่ในไทยและประเทศเพื่อนบ้านของเราที่เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส

เล่าสู่กันฟังเพื่อให้เห็นว่าฝรั่งเศสนั้นมีวิธีการในการก่อกรรมทำเข็ญกับเราและผู้คนในชาติอื่นๆที่เคยเข้าไปยึดครองอย่างไร สิ่งที่ดีๆของฝรั่งเศสนั้นก็มีเยอะ ส่วนไม่ดีก็มาก ต้องเรียนรู้ให้เป็น ไม่ใช่ไปเห่อเหิมทำตัวเลียนแบบหรือนิยมบูชาฝรั่งเศส