การออกมาทวงค่าตั๋วเครื่องบินนกแอร์ของอดีต ส.ส. 113 ราย ในช่วงระหว่างปี 55-56 ก่อนการรัฐประหารปี 57 ผ่านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ฟันธงได้ว่าคงเป็นความประสงค์ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ อย่างไม่ต้องสงสัย

            หลังสายบินนกแอร์ได้ทำหนังสือมาถึงสภา ลงวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อติดตามยอดค้างชำระของ ส.ส. และอดีต ส.ส. กรณีจองตั๋วเครื่องบินแล้วไม่เดินทาง ยอดหนี้รวม 3,522,419.53 บาท โดย ส.ส.บางรายเป็นหนี้สูงถึง 2-3 แสนบาท และยังพบว่าเป็นผู้มีฐานะดีอีกด้วย แต่ทางสภาไม่สามารถชำระหนี้ดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นหนี้ส่วนบุคคล และทางบริษัทนกแอร์จะต้องทำหนังสือทวง ส.ส.โดยตรง

            การออกมาทวงหนี้ ส.ส.ในสภายุคนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย ก็เคยทวงกลางห้องประชุมสภามาแล้ว ระหว่างการต้อนรับ ส.ส.ใหม่จำนวน 3 ราย เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.62

            ช่วงนั้น ประธานสภาฯ ได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ของสมาชิกเกี่ยวกับค่าเดินทางต่างๆ เช่น เครื่องบิน และรถโดยสารต่างๆ ควรใส่ใจในสิทธิของตนเองโดยที่ไม่ให้กระทบต่อผู้อื่น หากจองตั๋วแล้วแต่เกิดเปลี่ยนแผนไม่เดินทางก็ควรยกเลิก เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเดินทางได้ พร้อมขอให้สมาชิกที่เป็นหนี้ค่ารถไฟ รถประจำทาง และค่าเครื่องบิน ให้รีบไปชำระ

            ส่วนสาเหตุที่ออกมาทวงครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา สันนิษฐานได้ว่านายชวนคงอึดอัดกับพฤติกรรมความไม่รับผิดชอบของอดีต ส.ส. ภายใต้ความรับผิดชอบของตัวเอง

            แต่จะให้แฉรายชื่อก็ดูจะโหดร้ายเกินไป เพราะมีเสียงสะพัดออกมาว่ารายชื่อทั้ง 113 คนนั้นกระจายตัวไปทุกพรรคการเมืองในเวลานี้ ร่วมทั้งมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต้นสังกัดของนายชวนรวมอยู่ด้วย แม้ผู้สื่อข่าวจะพยายามขอรายชื่อจากผู้เกี่ยวข้องแล้วก็ตาม แต่ไม่ได้รับการเปิดเผยออกมา โดยทุกคนพยายามรูดซิปปาก

            ดังนั้น การออกมาเตือนดังๆ ของทีมนายชวนผ่านสื่อมวลชน ก็เชื่อว่าจะทำให้อดีต ส.ส.ที่ติดหนี้รีบไปชำระหนี้โดยด่วน เพื่อไม่ให้ตัวเองและวงศ์ตระกูลเกิดความเสื่อมเสีย และกระทบต่องานทางด้านการเมือง

            มีรายงานแจ้งว่า นอกจากสายการบินนกแอร์ที่ขาดทุนหนัก และกำลังยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง จำเป็นจะต้องทวงหนี้ผู้ทรงเกียรติแล้ว ยังมีอดีต ส.ส.ค้างชำระหนี้สายการบินแอร์เอเชีย ไทยสมายล์ และการบินไทยอีกด้วย ต้องจับตาดูว่าจะเดินตามแนวทางทวงหนี้อย่างสายการบินนกแอร์หรือไม่

            ส.ส.รายหนึ่งกล่าวว่า สาเหตุที่อดีต ส.ส.ค้างชำระหนี้ตั๋วเครื่องบินเป็นเพราะคิดว่าหากตัวเองไม่บินเนื่องจากติดภารกิจประชุมสภาฯ ไม่เสร็จสิ้น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทางสภาจะเป็นผู้รับผิดชอบให้ทั้งหมด

            ขณะที่ ข้อเท็จจริงทางฝั่งสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ชี้แจงว่า หาก ส.ส.ไม่มีบิน และไม่เกิดการเช็กอินที่สนามบิน ทางสภาไม่สามารถทำเรื่องเบิกเงินมาชำระให้สายการบินได้ โดยทางแก้ไขของ ส.ส.หากยังปฏิบัติหน้าที่ไม่เสร็จสิ้นคือ ให้แจ้งเลื่อนไฟลต์บิน พร้อมชำระค่าเลื่อน 500 บาท แทนที่จะต้องเสียค่าเครื่องต่อเที่ยวในราคา 2,000-2,500 บาท ทั้งนี้เชื่อว่าหลังจากที่ข่าวเรื่องนี้เผยแพร่ต่อสาธารณะ อดีต ส.ส.จะมาชำระหนี้ และยังทำให้ในอนาคต ส.ส.จะเลื่อนไฟลต์บินเพิ่มขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้ตั๋วเครื่องบิน

            นอกจากเรื่องค้างตั๋วเครื่องบินของอดีต ส.ส.ที่กำลังเป็นเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ ก่อนหน้านี้ยังมีเรื่องในทำนองนี้ อาทิ อดีตผู้แทนจากฝ่ายนิติบัญญัติไม่คืนหนังสือจากห้องสมุดรัฐสภา ไม่ส่งคืนไอแพดและโน้ตบุ๊กอีกด้วย ซึ่งบัดนี้ไม่ทราบว่ามีการติดตามนำทรัพย์สินของสภามาคืนแล้วหรือไม่ ล่าสุด นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ยังมีปูดประเด็นใหม่ว่าในรัฐสภาก็มีการเปิดให้เล่นการพนันอีกด้วย

            ประเด็นฉาวเหล่านี้หากผู้ทรงเกียรติทุกคนยังไม่ช่วยกัน สะสางเรื่องไม่ดีให้หมดสิ้นไป จะถือเป็นตัวเร่งสำคัญให้สภาแห่งหนี้พ้นสภาพไปโดยเร็ว.