5 ส.ค.63 - แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "คำถามที่ยังไม่มีคำตอบจากตำรวจและอัยการ ในคดี “บอส”" ผ่านเว็บไซต์ www.thaipost.net โดยมีเนื้อหาดังนี้
หลังจากที่ให้เกียรติรอฟังคำชี้แจงจากคณะทำงานตรวจสอบคดีบอส ของอัยการ จนๆ ได้คำตอบมาพอสังเขปแล้วในวันนี้(4 ส.ค.) ผมก็เห็นว่ายังมีคำถามสำคัญที่ยังไม่ได้ตอบอีกไม่น้อย ดังจะขอทวงถาม ไปโดยลำดับดังนี้
คำถามที่ ๑ : หลักฐานไม่พอฟ้อง ?
๑.๑) คำอธิบายว่า “หลักฐานไม่พอฟ้อง” นั้นรับฟังได้ ถ้าไม่มีใครเอาหลักฐานที่พอฟ้องได้ออกไปจากสำนวน คำถามจึงมีอยู่ว่าทำไมผลการตรวจเลือดของนายบอส ที่สาขาวิชานิติเวช คณะแพทย์ รามาฯ ที่รายงาน สน.ทองหล่อ เป็นทางการว่า “ พบ Cocaethylene อันเป็นสารที่เกิดขึ้นในเลือดในกระบวนการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย (Metabolism) หลังการ เสพ Cocaine ร่วมกับแอลกอฮอล์”นั้น แล้วทำไมรายงานนี้จึงไม่มีอยู่ในสำนวนสอบสวนที่อัยการส่งให้อัยการกรุงเทพใต้ ใครเอาออกไป จนสั่งไม่ฟ้องคดีในฐาน เมาสุราหรือเมายาขับรถ
๑.๒) ในสำนวนสอบสวนดังกล่าว รายงานไว้อย่างไร ทำไมอัยการกรุงเทพใต้ทั้งผู้รับผิดชอบและอธิบดีใน ปี ๒๕๕๙ จึงไม่สงสัยเลยว่า รถพังยับเยินอย่างนี้ ควรจะมีผลการตรวจแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดจากสถาบันทางนิติเวชเช่นคดีปกติทั่วไปมาแสดงในสำนวนสอบสวนด้วย อำนาจดุลพินิจอัยการที่เชื่อตำรวจไปหมดจนไม่ยอมสงสัยอะไรเลยอย่างนี้ นี่คืออำนาจตรวจสอบของอัยการที่เราต้องยอมรับ เช่นนั้นหรือ
๑.๓) คดีนี้ เรื่องเมาเหล้าหรือเสพยาขับรถนี้ สำคัญมากๆ หากขับรถชนคนตายแล้ว ก็ติดคุกถึง ๑๐ ปี เท่ากับขับรถโดยประมาทเลยทีเดียว ผิดติดคุกโดยพนักงานสอบสวนและอัยการไม่ต้องพิสูจน์ความเร็วรถ หรือความประมาทของใครเลย พยานตรวจเลือดที่สำคัญที่สุดอย่างนี้ อัยการไม่บี้ให้กระจ่างได้อย่างไร
๑.๔) มาวันนี้ หากเสนอกันไว้ว่าจะหยิบเรื่องโคเคนขึ้นมาเป็นหลักฐานใหม่เพื่อดำเนินคดี ก็อย่าไปเอาผิดเฉพาะความผิดตามกฎหมายยาเสพติดเท่านั้น ต้องใช้ความผิดฐานเมายาขับรถชนคนตาย ตามกฎหมายจราจรทางบกนี้ด้วย
คำถามที่ ๒ : อำนาจให้ความเป็นธรรมของอัยการสูงสุด?
๒.๑) คดีข้อหาประมาทนี้ อัยการกรุงเทพใต้สั่งฟ้องไปแล้ว รอแต่หาตัวมาส่งฟ้องต่อศาลเท่านั้น แล้วอำนาจอัยการสูงสุดยังมีอำนาจสั่งไม่ฟ้องทับลงไป ตามคำร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหาบอสได้อีกหรือ
๒.๒) ยิ่งไปกว่านั้น คำร้องขอความเป็นธรรมที่ว่านี้ เมื่อร้องไปยังอัยการสูงสุดคนก่อน ก็ได้มีการพิจารณา และใช้อำนาจอัยการสูงสุดสั่งให้ยุติกระบวนการพิจารณาคำร้องนี้แล้วอีกด้วย อัยการสูงสุดคนใหม่จะมาสั่งทับคำสั่งยุติคำร้องนี้อีกได้อย่างไร กฎหมายอัยการบอกว่าอัยการสูงสุดคนใหม่ต้องมีอำนาจสูงสุดกว่าคนก่อนอย่างนั้นหรือ อัยการประเทศไหน
คำถามที่ ๓ : อำนาจร้องสอดของกรรมาธิการ?
เมื่ออัยการสูงสุดคนก่อนสั่งยุติเรื่องแล้วคำร้องนี้จึงไหลมาเข้าที่ประชุม กมธ.กฎหมาย ของสภา หรือ สนช. แล้วจากนั้นก็มีหนังสือจาก กมธ.นี้ส่งไปยัง อสส.ปัจจุบัน แล้วมีการใช้อำนาจ อสส.สั่งไม่ฟ้องข้อหาประมาททำให้คนตายไปในที่สุด
๓.๑) คำถามแรกมีอยู่ว่า หนังสือนี้ระบุความเห็นว่าอย่างไร และจริงหรือไม่ที่มีผู้ชี้แจงว่า ที่ประชุม กมธ.ไม่ยอมรับพิจารณาคำร้องนี้เลย แล้วเหตุใดจึงมีหนังสือถึง อสส. ออกมาได้ในนามของคณะกรรมาธิการ มีใครในคณะกรรมาธิการออกหนังสือโกหก เปิดเกมส์ให้พิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมอีกครั้งอย่างนั้นหรือ ถ้ามี ใครควรจะเป็นจำเลยในก๊วน ๑๕๗ นี้บ้าง
๓.๒) หนังสือนี้ส่งถึง อสส. คนปัจจุบัน ใครเป็นผู้ใช้อำนาจ อสส.รับเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งๆที่ อสส.เดิมสั่งยุติไปแล้ว กมธ.มีอำนาจอะไรมามาสอดส่าย ให้ สนง.อัยการสูงสุด รับเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ไหนว่ารัฐธรรมนูญรับรองให้อัยการเป็นองค์กรอิสระไปแล้ว จริงหรือไม่ว่า อัยการที่รับหน้าที่กลั่นกรองเรื่อง ได้ตรวจและเสนอเป็นเบื้องต้นไว้แต่แรกแล้วว่า พยานตามคำร้องไม่พึงรับฟัง แล้วเบื้องบนคนไหนสั่งฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาใหม่ให้สอบพยานเพิ่มเติมตามคำร้องได้ ใช่ อสส.คนปัจจุบันหรือไม่ อย่างไร ไม่ใช่ไปต่างจังหวัดแล้วหรือ
คำถามที่ ๔ : ยังทนดูกันต่อไปได้อีกหรือ ?
การเต้นตามตามคำร้องขอความเป็นธรรมของจำเลยหรือผู้ต้องหา (ที่มีฐานะ) อย่างยืดเยื้อ ไม่มีหยุด แล้วลงเอยเป็นการใช้อำนาจดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องอย่างน่าคลางแคลงของอัยการ ที่ไม่มีใครตรวจสอบได้ นี้ ระเบิดเป็นคำถามตามรายทางมาหลายปี และถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนไม่น่าจะทนกันได้อีกต่อไปแล้ว
๔.๑) ที่ส่งฟ้องไปแล้ว ก็ยังถอนฟ้องได้ เช่นคดีธัมมชโย หรือไม่ก็ไม่อุทธรณ์ไปเสียเฉยๆ เช่น คดีโอ๊ค ก็ทำมาแล้ว ทั้งๆที่คดีนี้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนเขาเห็นตามอัยการและดีเอสไอแล้วด้วย
๔.๒) คดีธรรมกาย คดีวิคตอเรีย สองคดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทุ่มเทเต็มที่ อัยการที่ร่วมสอบสวนก็ยืนหยัดเห็นด้วยจนเห็นควรเสนอให้ฟ้อง แต่อัยการในสำนักงานก็สั่งสอบเพิ่มเติมตามคำร้องจำเลยมาตลอด แล้วก็สั่งไม่ฟ้องไปในที่สุด จนไม่รู้จะให้อัยการมาร่วมสอบสวนกับดีเอสไอเขาทำไม ในเมื่อไม่ฟังเขาเลยอย่างนี้ ทำไมไม่ให้ ดีเอสไอฟ้องเองไปเลยจะไม่ดีกว่าหรือ ในเมื่ออัยการก็เข้ามาร่วมสอบสวนตั้งแต่แรก เหมือนนานาประเทศเขาแล้ว
๔.๓) มาคดีบอสนี่ บานปลายสูงสุดถึงขนาดอัยการสั่งคดีทับกันเองได้ ราวกับเป็นศาลพิพากษาทับกันเองไปมา ตามที่จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกากะให้ถึงที่สุดเลยทีเดียว แถมชั้นฎีกายังมี กมธ.สภาร้องสอดเข้ามาอีกด้วย
พอกันทีแล้วใช่ไหม กับ “อำนาจดุลพินิจ” ที่เละเทะแบบนี้ ?
คณะกรรมการอัยการ กับ ปปช. ทนได้ไหมครับ?
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |