3 ส.ค. 63 - ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "โควิด 19 สายพันธุ์ G
สายพันธุ์ไวรัสที่เรียกว่าสายพันธุ์ G หรือมีการเปลี่ยนแปลงกรดอะมิโน จากเดิมคือ Aspartate (D) ในตำแหน่งที่ 614 ของ spike โปรตีน หรือเรียกว่า D614 ไปเป็น Glycine เรียกว่า G614 คือกรดอะมิโนของ spike หรือหนามแหลมที่ยื่นออกมา ในตำแหน่งที่ 614 จากสายพันธุ์เดิม
ถ้าตรวจพบว่าเป็น Glycine ก็จะเรียกว่า G type การเปลี่ยนกรดอะมิโนตัวเดียว ไม่ได้ทำให้รูปร่างของโปรตีน spike เปลี่ยนแปลงไป แต่การเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งนี้ มีผลทำให้ปลดปล่อยไวรัสหรือแพร่กระจายไวรัสออกมาได้มากขึ้น (ดังแสดงในรูป ที่ลงพิมพ์ในวารสาร Cell)
พบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ โรคไม่ได้รุนแรงขึ้น แต่มีการแพร่กระจายเชื้อได้มากขึ้น ทำให้ไวรัสสายพันธุ์นี้แพร่กระจายไปได้มากกว่า
ตามหลักวิวัฒนาการ จึงเป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในปัจจุบัน สายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้น้อยกว่า ก็จะถูกเบียดบังให้น้อยลงไป
ระบบภูมิต้านทานของโปรตีนใน spike หรือหนามแหลมที่ยื่นออกมาเป็นส่วนที่กระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทาน รูปร่างไม่ได้เปลี่ยนแปลง ภูมิต้านทานจากวัคซีนที่ผลิตกันอยู่ ก็สามารถป้องกันได้ ไม่ว่าจะเป็น type ไหนของไวรัส
ภาพข้างล่างนี้นำมาจากวารสาร Cell, Korber et al., 2020 Cell 182,1-16 (under the CC BY-NC-ND license)".
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |