2 ส.ค.2563 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณ2563 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ ปปช. ที่มาประชุมกับอนุกรรมาธิการแผนบูรการ 1 ได้ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2560 ซึ่งเป็นวันใช้บังคับรัฐธรรมนูญ ปรากฎว่า ครม.ประยุทธ์ 1 และ สนช. ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ แต่อย่างใด

และตนได้ยกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมาถามเจ้าหน้าที่ปปช.ว่า ศาลวินิจฉัยไว้แล้วว่า เมื่อใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ยังคงอยู่ต่อไปก็ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินใหม่

นายเรืองไกร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ปปช. มิอาจโต้แย้งคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยไว้เป็นเด็ดขาดว่า เมื่อใช้รัฐธรรมนูญใหม่ ครม.และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ในวันที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญใหม่ด้วย และได้ถามเจ้าหน้าที่ ปปช.ว่า ทำไม ปัจจุบัน ปปช. ยังมีการฟ้องร้องนักการเมืองที่ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินตาม พรป.ปปช. 2542 เพื่อให้ศาลฎีกานักการเมืองพิพากษาอยู่ อันแสดงว่า ปปช. ยังใช้ พรป ปปช. 2542 ดำเนินการต่อไปด้วย

แต่แปลกมากที่ ปปช. ไม่ใช้ พรป.ปปช. 2542 ดำเนินการกับ ครม. ประยุทธ 1 และ สนช. ทั้งที่มีคำวินิจฉัยผูกพันไว้ และมีคำพิพากษาศาลฎีกานักการเมืองเป็นบรรทัดฐานแล้วหลายคดี

"ติดตามเรื่องนี้มานานพอควร และต้องรอให้ ม.44 สิ้นสภาพไปก่อน ประกอบกับบ้านเมืองมีปัญหาเรื่องงบประมาณ 2563 ล่าช้า และเกิดวิกฤติโรคโควิด-19 จึงรอเรื่องไว้ และดูว่าจะมีใครดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ แต่ก็หามีไม่ ประกอบกับได้ปรึกษาหารือเรื่องนี้กับทนายความและอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาแล้วเห็นตรงกันว่า เรื่องนี้มีมูลที่ควรส่งให้ศาลตัดสิน ขณะนี้ สมควรแก่เวลาที่ต้องขอให้ปปช. อย่านิ่งเฉย ต้องรีบส่งศาลฎีกานักการเมืองพิพากษาว่า จะตัดสิทธิทางการเมืองของ ครม.ประยุทธ์ 1 และ สนช. หรือไม่"

นายเรืองไกรกล่าวว่า เพื่อไม่ปล่อยให้คดีขาดอายุความ จะส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อให้ ปปช. รีบมีมติส่งเรื่องกรณี ครม.ประยุทธ์ 1 และ สนช. ที่ตำรงตำแหน่งอยู่ต่อไป แต่ไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน  2560  ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิจารณาพิพากษาว่า จะตัดสิทธิทางเมืองพล.อ.ประยุทธ์ กับพวก ฐานจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ต่อ ปปช. เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2560 หรือไม่