ครม.มีมติแต่งตั้ง “ประสงค์ พูนธเนศ”  เป็นปลัดคลัง ดัน "เอกนิติ” นั่งอธิบดีสรรพากร ดึง “ทศพร” เลขาฯ สศช. โยก “ปกรณ์” ไปเป็นเลขาฯก.พ.ร. "วิสุทธิ์” เผยหารือ “รมว.คลัง-สมคิด” แล้วก่อนชงชื่อ "ประสงค์" ระบุมีความเหมาะสมหลังนั่งคุมหลายหน่วยงาน หวังช่วยสานต่อนโยบายรัฐบาลเดินหน้าต่อ  
    เมื่อวันอังคาร พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอรับโอนข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทน โดยได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ดังนี้ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สศช.,   นายปกรณ์ นิลประพันธ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. และยังมีมติรับทราบตามที่ สศช. เสนอเปลี่ยนแปลงโฆษก สศช.และรองโฆษก สศช. จากเดิมนายประพันธ์ มุสิกพันธ์ เป็นนายดนุชา พิชยนันท์ และ น.ส.กัญญารักษ์ ศรีทองรุ่ง เพื่อให้การดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ของ สศช. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล
    พ.อ.หญิงทักษดากล่าวต่อว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง แทนตำแหน่งที่จะว่าง เนื่องจากนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ และได้มีคำสั่งอนุญาตให้นายสมชัย ลาออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.61     
    นอกจากนี้ ยังเห็นชอบโอนข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย ดังนี้ 1.นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง 2.นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ 3.นายภูมิศักดิ์ อรัญญาเกษมสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และ 4. น.ส.ชุณหจิต สังข์ใหม่ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง
    ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.การคลัง เปิดเผยภายหลัง ครม.มีมติแต่งตั้งให้นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร รับตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง แทนนายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ยื่นจดหมายลาออก โดยจะมีผลในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ว่าการแต่งตั้งดังกล่าวถือเป็นการทดแทนตำแหน่งเดิมที่ว่างลง และเพื่อให้การสานต่องานต่างๆ ของกระทรวงการคลังตามนโยบายรัฐบาลเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่องด้วย ทั้งนี้ ระหว่างรอการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง สามารถให้นายประสงค์ทำหน้าที่รักษาการปลัดกระทรวงการคลังไปก่อนได้
     “ได้มีการหารือร่วมกันระหว่าง รมว.การคลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และผมแล้ว  ก่อนจะสรุปและเสนอชื่อให้นายประสงค์เข้ามารับตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งถือว่ามีความอาวุโสและเหมาะสม เนื่องจากนายประสงค์ได้เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการถึง 3 แห่ง ทั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.), อธิบดีกรมศุลกากร และอธิบดีกรมสรรพากร และนายประสงค์จะครบวาระการดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากรในเดือน มิ.ย. 2561 พอดี” นายวิสุทธิ์กล่าว
    นายวิสุทธิ์กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ครม.ยังมีมติแต่งตั้งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สคร. ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมสรรพากร ซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมเช่นกัน เพราะก่อนหน้านี้เคยทำงานด้านนโยบาย ซึ่งมีการดูเรื่องภาษีที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) มาก่อน และเมื่อมาอยู่ สคร. ก็ถือเป็นการทำงานในด้านปฏิบัติ ถือว่ามีความรู้ ความสามารถรอบด้าน
     สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายภายในกระทรวงการคลังในรอบนี้ครบเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าอาจจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายอีกครั้งในเดือน ก.ย.นี้ เนื่องจากมีหลายตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ
          นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติแต่งตั้งนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ ก.พ.ร. มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สศช. แทนนายปรเมธี วิมลศิริ ที่จะโยกย้ายไปนั่งเป็นปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อทำหน้าที่ปฏิรูป สศช. เป็นสมองของประเทศอย่างแท้จริง ที่ช่วยวางแผนประเทศเดินไปข้างหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของนายสมชัย ภายหลังยื่นใบลาออกแล้วเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้เดินทางมายังกระทรวงการคลังเพื่อเก็บของส่วนตัวทั้งหมด โดยไม่มีการแจ้งต่อข้าราชการและสื่อมวลชน เพียงแต่พิมพ์ข้อความแจ้งผ่านไลน์กรุ๊ปสื่อมวลชนกระทรวงการคลัง มีใจความว่า “วันนี้ผมเข้ามาเก็บของที่กระทรวง กราบลาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของกระทรวง และเป็นวันสุดท้ายของผมที่กระทรวง ผมจึงขอลาพวกเราชาวพี่น้องกระทรวงการคลังอย่างเป็นทางการนะครับ จึงขอออกจากกลุ่มไลน์นะครับ  รักครับ”.