ลิเกรูดม่าน เพื่อไทยด่า "ชัชชาติ" ยับ! โทษฐานเรียกแล้วไม่มา "วัฒนา" ร่ายยาวทวงบุญคุณ เหน็บเป็นโนเนม ได้ดีเพราะพรรค เป็นทั้งรัฐมนตรี แคนดิเดตนายกฯ สรุปท้ายสรุป "สุดารัตน์" ต้องรับผิดชอบ พร้อมที่จะสู้ไม่ว่าในยามที่พรรครุ่งเรืองหรือเป็นฝ่ายถูกไล่ล่าก็ตาม ศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นนักการเมืองก็วัดกันตรงนี้
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 กรกฎาคมที่้ผ่านมา ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค มีการประชุมติดตามการทำงานของ ส.ส.กทม. อดีต ส.ส. ผู้สมัคร ส.ส. สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคเพื่อไทย กว่า 60 คน ในงานนี้แกนนำภาค กทม. อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ก. และผู้ว่าฯ กทม., น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค, นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. เดินทางมาร่วมประชุมด้วย
    การประชุมดังกล่าวมีการพูดคุยกันถึงแนวทางการส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.อย่างกว้างขวาง เสียงส่วนใหญ่ยังอยากให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เปลี่ยนใจมาลงสมัครในนามพรรค เพราะถือเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมและสมาชิกทุกภาคส่วนใน กทม.พร้อมให้การสนับสนุน
    นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังร้องขอให้นายวิชาญโทรศัพท์ไปหานายชัชชาติ เพื่อให้โน้มน้าวให้ลงมาสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคเพื่อไทยอีกรอบ แต่นายชัชชาติยังคงยืนกรานปฏิเสธ และที่ไม่ได้มาร่วมงานในวันนี้เนื่องจากติดภารกิจพอดี
      นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย กลุ่ม กทม. ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเทียบเชิญนายชัชชาติ ยังบ่ายเบี่ยง ไม่แสดงท่าทีชัดเจน ภาค กทม.ต้องรีบตัดสินใจ พรรคก็ต้องดำเนินการหาคนที่เหมาะสมกว่ามาลงสมัคร พรรคเพื่อไทยมีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ ใน กทม.ก็มีในทุกเขต คนที่เป็นสมาชิกพรรค เชื่อว่าเข้าใจ เราให้เกียรตินายชัชชาติ และยอมรับในความสามารถของท่านเสมอมา และท่านก็เป็นสมาชิกพรรค เคยเป็นถึงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย แต่พอจะลงสมัคร ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงไม่กล้าลงสมัครในนามพรรค
    "แต่พรรคไม่ได้เสียหายอะไร และจากกระแสความต้องการการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ผมเชื่อว่าเรามีโอกาสชนะ หากในที่สุดท่านชัชชาติไม่มาจริงๆ พรรคก็ต้องเดินหน้าต่อตามกระบวนการของพรรค เพราะพรรคก็ต้องรักษาระบบและกระบวนการของพรรค" นายพิพัฒน์ชัยกล่าว
    ขณะที่นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เผยว่า ก่อนการเลือกตั้งปี 2554 คนในพรรคเพื่อไทยไม่มีใครรู้จักนายชัชชาติ  ส่วนประชาชนทั่วไปยิ่งไม่มีใครรู้จักหลังจากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้แต่งตั้งให้นายชัชชาติเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ และต่อมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมตามลำดับ ท่ามกลางความแปลกใจของคนในพรรค เพราะเป็นคนนอกที่ไม่มีใครรู้จักและเป็นกระทรวงใหญ่
    "ผมทราบต่อมาว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ต้องการให้คุณชัชชาติที่เป็นวิศวกรมาดูแลโครงการรถไฟความเร็วสูง เมื่อคราวที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เสนอ พ.ร.ก.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาทต่อสภาผู้แทนราษฎร คุณชัชชาติได้โอกาสแสดงบทบาทชี้แจงต่อสภาในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งทำได้ดี ทำให้ประชาชนที่ดูการถ่ายทอดสดประทับใจ และรู้จักคุณชัชชาติตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา คุณความดีครั้งนี้ต้องยกให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ที่กล้าแต่งตั้งคุณชัชชาติซึ่งในวันนั้นไม่มีใครรู้จักให้มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่เป็นกระทรวงใหญ่ที่สุด"
        นายวัฒนายังระบุว่า หลังการยึดอำนาจนายชัชชาติหายไปจากการเมืองอีก ตนมาเจอนายชัชชาติอีกครั้งเมื่อนายชัชชาติมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก่อนการเลือกตั้งปี 2562 จากนั้นพรรคได้เสนอชื่อนายชัชชาติในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีต่อจากคุณหญิงสุดารัตน์ แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ก็ไม่ได้เจอนายชัชชาติอีก
    เขากล่าวว่า เมื่อรัฐบาลประกาศจะให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ภายในปี 2563 ที่ประชุมภาค กทม. เห็นว่าพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคใหญ่และมี ส.ส.ใน กทม. จะต้องส่งผู้สมัครในนามของพรรคเพื่อรักษาฐานเสียงและให้เกียรติชาว กทม. พวกเราเห็นว่าต้องให้โอกาสนายชัชชาติซึ่งสนใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นคนแรก จึงมอบหมายให้คุณหญิงสุดารัตน์ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการสรรหาไปเชิญคุณชัชชาติมาลงสมัครในนามพรรค
    "ผมทราบจากสื่อมวลชนว่าคุณชัชชาติปฏิเสธ แต่ไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าปฏิเสธเพราะอะไร หากคุณชัชชาติจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ผมคิดไม่ออกถึงเหตุผลที่คุณชัชชาติปฏิเสธที่จะลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย เพราะการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ หรือเป็นแคนดิเดตนายกฯ ร่วมกับคุณหญิงสุดารัตน์ในนามพรรคเพื่อไทยคุณชัชชาติก็เคยยอมรับมาแล้ว ผมจึงไม่คิดว่าการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในยามที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านและถูกไล่ล่าคือเหตุผลที่ทำให้คุณชัชชาติปฏิเสธพรรค แต่เพื่อความเป็นธรรม คงต้องรอฟังเหตุผลที่แท้จริงจากคุณชัชชาติอีกครั้ง"
    นายวัฒนาระบุว่า เรื่องของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จึงไม่ใช่เรื่องระหว่างนายชัชชาติกับคุณหญิงสุดารัตน์ เพราะคุณหญิงสุดารัตน์เป็นคนที่พรรคตั้งใจจะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ได้ตั้งใจจะให้ลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.อย่างที่พยายามใส่ร้ายป้ายสี แต่คุณหญิงก็มีหน้าที่ต่อพรรคที่จะต้องไปหาผู้สมัครมาลงในนามพรรคให้ได้
    "ถ้าคุณชัชชาติปฏิเสธ และคุณหญิงไม่สามารถหาผู้ที่เหมาะสมได้ คุณหญิงก็จะต้องรับผิดชอบต่อพรรค ซึ่งผมก็ยังเชื่อว่าคนอย่างสุดารัตน์คงพร้อมที่จะสู้กับพรรค ไม่ว่าในยามที่พรรครุ่งเรืองหรือเป็นฝ่ายถูกไล่ล่าก็ตาม ศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นนักการเมืองก็วัดกันตรงนี้แหละครับ" แกนนำพรรคเพื่อไทยรายนี้สรุป.