เลือก 7 อรหันต์ กสทช.คุมผลประโยชน์หลายแสนล้านสัปดาห์นี้ สะพัด สนช.เสียงแตก มีทั้งหนุนให้ล้มทั้งกระดาน ซ้ำรอย กกต. อีกฝั่งค้าน เอาแค่โหวตเลือกบางด้านพอ ไม่ต้องคว่ำ ยกเหตุ 14 ชื่อเข้ารอบ หลายคนมีปัญหาขาดคุณสมบัติ ส่อขัดกฎหมาย
พล.อ.อู้ด เบื้องบน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า ขณะนี้ กรรมาธิการได้ประชุมนัดสุดท้ายไปแล้ว และทุกอย่างเสร็จสิ้นจบหมดแล้ว ขณะนี้ก็ต้องรอให้ประธาน สนช.พิจารณาว่าจะบรรจุญัตติการเลือกกสทช.ในการประชุม สนช.วันใด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ในการประชุม สนช.สัปดาห์นี้ จะมีการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กสทช. โดยจะมีการพิจารณากันในวันที่ 19 เม.ย. ซึ่ง สนช.จะต้องลงมติเลือกผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็น กสทช.จำนวนไม่เกิน 7 คน หลังคณะกรรมการสรรหา กสทช. ได้คัดเลือกผู้สมัครจากจำนวน 85 คน ให้เหลือ 14 คน ใน 7 ด้าน เพื่อส่งให้ สนช.พิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 7 คน
แหล่งข่าวจาก สนช.แจ้งว่า การประชุม สนช.ในวันที่ 19 เม.ย.นี้ สนช.มีความเห็นแตกเป็น 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายที่เห็นว่าควรล้มกระดานผู้สมัคร กสทช.ในครั้งนี้ เนื่องจากผู้ได้รับการสรรหาบางคนมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมและขัดต่อกฎหมาย จึงควรให้เริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ทั้งหมด ขณะที่ สนช.อีกฝ่ายเห็นว่า ไม่ควรล้มกระดานทั้งหมด โดยให้พิจารณาบุคคลที่มีคุณสมบัติถูกต้อง ครบถ้วน ให้ได้รับการสรรหาเป็นกสทช.ไปก่อน ส่วนใครที่มีคุณสมบัติไม่ถูกต้อง ค่อยไปสรรหาใหม่ในภายหลัง ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะต้องรับฟังคำชี้แจงของ กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ที่จะส่งประวัติของผู้ได้รับการสรรหา 14 คน ให้ สนช.พิจารณาในช่วงเช้าก่อนการประชุม สนช.ลับเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 19 เม.ย.
นายมณเฑียร บุญตัน กมธ.สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่สมควรได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการ กสทช. กล่าวว่า ทุกอย่างต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนจะมีผู้ได้รับการสรรหาคนใดมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั้น ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะเป็นเรื่องมารยาทของ กมธ.ฯ
ทั้งนี้ คณะกรรมการสรรหา กสทช.ได้เลือกและส่งชื่อ 14 รายชื่อให้ สนช.ลงมติ โดยแยกเป็นด้านต่างๆ จำนวนด้านละ 2 ชื่อ ดังนี้ 1.ด้านกิจการกระจายเสียง คือ พ.อ.กฤษฎา เทอดพงษ์ และนายธนกร ศรีสุขใส 2.ด้านกิจการโทรทัศน์คือ นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ และ พล.อ.มังกร โกสินทรเสนีย์ 3.ด้านกิจการโทรคมนาคม คือ นายอธิคม ฤกษบุตร และนายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ 4.ด้านวิศวกรรมคือ พล.อ.ต.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ และ พ.อ.อนุรัตน์ อินกัน
5.ด้านกฎหมาย คือ นายมนูภาน ยศธแสนย์ และนายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร 6.ด้านเศรษฐศาสตร์คือ
นายภักดี มะนะเวศ และนายณรงค์ เขียดเดช 7.ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค หรือด้านการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน คือ นพ.สุริยเดว ทรีปาตี และนายวรรณชัย สุวรรณกาญจน์
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการออกมาตรา 44 ประเด็นปัญหา กสทช. ว่าอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา ยังไม่มีการออกคำสั่งใด ๆ ทั้งสิ้น ยังอยู่ในขั้นตอนของ กสทช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องรวบรวมข้อมูลให้รอบด้าน และดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือเรื่องทีวีดิจิทัลและเรื่องคลื่นความถี่ สิ่งสำคัญคือต้องตอบคำถามของสังคมให้ได้ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ขอให้ติดตามตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |