31 ก.ค.63 - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่โดยมีกำหนดการประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ณ ห้องประชุมเทศบาลตําบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และก่อนการประชุมนั้นมีชาวบ้านมารอพบปะรองนายกรัฐมนตรีร่วม 500 คนส่วนใหญ่เป็นประชาชนพื้นถิ่นเชื้อสายไทยใหญ่ ก่อนการประชุมนายจุรินทร์ได้พบปะพูดคุยกับชาวบ้านซึ่งสะท้อนปัญหาราคาลำไยและกระเทียม 

โดยนายจุรินทร์ กล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับว่า  วันนี้มาประชุมเพื่อจะหาทางผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนกิ่วผาวอก บ้านหลักแตง และจุดผ่อนปรนอื่นๆเพื่อที่จะช่วยให้สามารถค้าขายกับฝั่งตรงข้ามใกล้สะดวกขึ้น

พร้อมทั้งได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีปัญหาอยู่ 3 เรื่อง 1. ลำไยกับกระเทียม เรื่องลำไยกำลังดำเนินการช่วยเหลือแก้ไข ถ้าส่งออกลำไยไม่ได้ ราคาลำไยก็จะมีปัญหา พยายามช่วยแก้ปัญหาให้ส่งออกได้  ถ้าส่งออกไปต่างประเทศเราให้กิโลกรัมละ 5 บาท เพื่อผลักดันให้ผู้ส่งออกรีบส่งออก เมื่อส่งออกแล้วก็จะซื้อลำไยของชาวสวนเรานำไปส่งออก จูงใจให้เขามาซื้อเราเพิ่มขึ้น เกษตรกรสหกรณ์ลำไยของเกษตรกร หรือผู้รวบรวมเองไปเบิกได้กิโลกรัมละ 3 บาท   คือสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์มีมาตรการไปช่วยเหลือ และการพยายามที่จะช่วยล้งจีนซึ่งสำคัญกับการระบายลำไยให้รับซื้อได้สะดวกขึ้นได้ เพื่อให้ล้งจีนเข้ามาได้สะดวกขึ้น  

“วันนี้มีการขายแบบ New Normol ขายลำไยออนไลน์ ขายผลไม้ทุกชนิดออนไลน์  เมื่อเร็วๆนี้กระทรวงพาณิชย์กับผู้นำเข้า 8 ประเทศ ซึ่งนั่งอยู่ที่ประเทศของเขา  กระทรวงพาณิชย์นำผู้ส่งออก40-50บริษัท ที่ส่งออกลำไย มาทำการซื้อขายออนไลน์ให้ค้าขายกันบนจอโดยไม่ต้องเจอหน้ากันปรากฏว่าเราตั้งเป้าหมายให้ขายได้ 500 ล้านบาท ได้ 11,000 ตัน เพื่อช่วยระบายลำไยปรากฏว่า 2 วัน ผลการขายจาก 11,000 ตันขายได้ 32,000 ตันเราขายได้ 2,100 ล้านบาท”

รมว. พาณิชย์ กล่าวต่อว่า ส่วนกระเทียมได้ยินว่ามีปัญหาว่ามีกระเทียมของฝั่งโน้นเข้ามา  ฝั่งนี้ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ชายแดนจะต้องเคร่งครัดเข้าไปดูแลต่อไป ตนได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่มาดูแลใกล้ชิดแล้ว เดี๋ยวจะมีมาตรการช่วยเหลือต่อไป

ปัญหาที่2 เรื่องที่ดินทำกินผู้ว่าฯ จะต้องไปช่วยดูว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรเช่น ในรูป ส.ป.ก. ในรูปนิคมสร้างตนเอง หรือถ้าใครมี ส.ค.1 ออกโฉนดไม่ได้ ให้ร้องมา  ที่ดินมีหน้าที่ออกให้

สุดท้าย ปัญหาที่3. เรื่องการทำบัตรให้ผู้อยู่ในประเทศไทยถูกต้อง เกิดเมืองไทย ตนเห็นใจพวกเรา จะโทษเจ้าหน้าที่ปฏิบัติก็ไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎกติกา อย่างไรก็ตามตอนที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปี 51-52 ได้ช่วยให้พวกเราที่อยู่ตามแนวชายแดนเป็นชนเผ่าได้มีโอกาสรักษาฟรีในโครงการบัตรประชาชนใบเดียว และโครงการรักษาฟรีเพิ่มขึ้นอีก 400,000 คนในช่วงระยะเวลานั้น

“สำหรับท่านที่ยังไม่มีบัตรประชาชนผมได้หารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี จะไปหาลู่ทางปรับปรุงกฎเกณฑ์กติกาต่อไป เพื่อช่วยเหลือให้พวกเราที่เกิดเมืองไทย เป็นคนไทย เรียนหนังสือไทย จนจบการศึกษาภาคบังคับแล้ว แต่ไม่มีสิทธิ์ได้รับบัตรประชาชน เพื่อทำให้มีโอกาสได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาล” รองนายกฯกล่าว