31 ก.ค. 63 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 225/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ที่มีนายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน จะทำให้คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ได้ข้อสรุปเลยหรือไม่ว่า ไม่รู้ว่าจะจบหรือไม่ แต่เขาคงจะต้องทำไปจนจบ ให้เสร็จภายใน 1 เดือน แต่เขาก็ต้องทำหลายอย่างคือ สรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย ความเป็นมา พฤติกรรมของคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยที่ไม่ไปแทรกแซงดุลยพินิจ ถ้าพบจุดอ่อนตรงไหนจะต้องบอกทั้งหมด
และอีกส่วนคือ ไหนๆ จะต้องทำเรื่องนี้แล้ว ต้องทำเป็นบทเรียนป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคตอีก ว่าควรจะแก้อะไรตรงไหน ทั้งในส่วนอัยการ ตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม ให้ชี้แนะมาด้วย โดยในส่วนนี้จะต้องเสร็จพร้อมกันกับส่วนแรกใน 1 เดือน ซึ่งในส่วนที่สองนี้จะมีความละเอียดและยาว ดังนั้น ถ้าจะต้องลงในรายละเอียดลึกต้องขอนายกรัฐมนตรีให้ขยายเวลาเกิน 1 เดือน จะต้องทำให้เสร็จ หากไม่เสร็จก็บอกมา เพราะแต่ละคนมีงานราชการ แต่เราหวังว่าถ้าทำไประยะหนึ่งเขาจะบอกเราว่าจะต้องทำอะไรต่อ เขาอาจจะสมัครใจทำต่อก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการฯชุดนี้สามารถเรียกใครมาชี้แจงได้ทั้งหมดใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ แต่ในส่วนของอัยการ คำสั่งนายกฯไม่ได้เขียนให้ไปเรียกมา แต่ใช้วิธีประสานงานขอเชิญมาได้ ส่วนตำรวจสามารถเรียกได้ เพราะนายกฯ เป็นคนดูแล อัยการ นายกฯไม่ได้ดูแล ไม่ได้เกี่ยวข้อง และนายกฯ ไม่มีอำนาจ จึงต้องใช้วิธีประสาน เชื่อว่าถ้าประสานไปเขาก็มา เหมือนที่คณะกรรมธิการของสภาฯเรียกเขาก็ไป
เมื่อถามว่า ต้องไปดูกระบวนการตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนเลยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า แล้วแต่คณะกรรมการฯ จะไปกำหนดว่าจะเอาอย่างไร
ต่อข้อถามว่า ผ่านมา 8 ปีแล้ว หลักฐานบางอย่างอาจไม่อยู่แล้ว จะได้ข้อเท็จจริงหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่อยู่ก็ไม่อยู่ แต่ถ้าอยู่ก็เอามาดูกันได้ ต้องไว้ใจและเชื่อคณะกรรมการฯ ว่าจะสามารถไปหยิบเอาสำนวนเก่ามาว่าทำไมจึงไม่ฟ้อง ทำไมขาดอายุความ เอามาได้หมด เท่าที่ทราบเขาจะประชุมกันทุกวัน
เมื่อถามย้ำว่า หากมีข้อสรุปออกมาแล้ว จะเปลี่ยนแปลงผลของอัยการได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ให้เขามาบอก รัฐบาลจะไม่ไปพูดอย่างนั้น ถ้าพูดเวลานี้ต้องพูดตามกฎหมายก่อนว่าเมื่อคำสั่งนี้ได้สั่งอย่างนี้ ถือว่าเป็นคำสั่งเด็ดขาด กฎหมายใช้คำว่าอย่างนั้น ซึ่งเมื่อเป็นคำสั่งเด็ดขาดมันก็จบ ยกเว้นจะทำให้เกิด 3 อย่าง คือ 1.ผู้เสียหายสามารถไปฟ้องคดีใหม่ 2.ขอตรวจสอบเหตุผล หลักฐาน ซึ่งนั่นแปลว่าติดใจ และ3.ยกคดีขึ้นเพื่อสอบใหม่ และดำเนินการใหม่ หากว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งรัฐบาลไม่รู้หรอก เป็นเรื่องของคณะกรรมการฯชุดที่จะตรวจสอบว่ามันมีหลักฐานใหม่หรือไม่
ส่วนมีพยานเสียชีวิตไปแล้วหนึ่งคน จะทำให้พยานหลักฐานอ่อนลงหรือไม่นั้น รองนายกฯ ตนไม่รู้จริงๆ และไม่ทราบว่าเขาไปพูดอะไรเอาไว้ คนรู้อาจจะมี แต่ตนไม่รู้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |