ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net "แย่มาก เลวมาก" สบถผ่านทางไกลมาเลย หลังจากช่วงโควิดที่มีโผล่มาเป็นพักๆ แล้วก็ทิ้งช่วงไป ไม่กี่วันก่อน "ทักษิณ ชินวัตร" ก็เพิ่งออกมาขอบคุณแฟนคลับที่อวยพรครบรอบเบิร์ธเดย์ 71 ปี คราวนี้ก็มีข่าวแจกออเดอร์ให้ "หญิงหน่อย" สู้ศึกผู้ว่าฯ เมืองกรุง เพื่อแม้วสายอีสานคนหนึ่ง (คนละฝั่งกับหญิงหน่อย) อ้างนายใหญ่ควันออกหูไม่พอใจข่าวปล่อยเรื่องนี้ คล้อยหลังไม่นาน ก็มีข่าวจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งคดีอาญาทางการเมือง ตัดสินคดีแปลงค่าสัมปทานเอื้อชินคอร์ป ที่ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท ป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเดือดขนาดไหนเพราะข่าวนี้จริงแน่นอน "องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมาก ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ จำคุก 2 ปี ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการเข้ามีส่วนได้เสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น จำคุก 3 ปี รวมเป็นจำคุก 5 ปี ให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 (คดีเอ็กซิมแบงก์) และต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 (คดีหวยบนดิน)" เมื่อรวมโทษจำคุกคดีเอ็กซิมแบงก์ 3 ปี และคดีหวยบนดิน 2 ปี เท่ากับทักษิณโดน 10 ปี ไม่รอลงอาญา

            ๐ วกกลับมาเรื่องใบสั่งนายใหญ่ คำสบถที่ว่าก็ไม่รู้ของนายหรือของลูกน้องกันแน่ ถ้าแค่ข่าวปล่อย "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" หัวหน้าพรรคในคาถาคงไม่แถลงข่าวมอบหมายให้ "หญิงหน่อย" เป็นประธานสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะนับตั้งแต่ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์"  ประกาศจะลงชิงผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ พรรคเพื่อไทยก็ทำลังเลไม่ชัดเจนว่าจะส่งคนเลือกตั้งหรือเปล่า หนำซ้ำแกนนำของพรรคอย่างเสี่ยอ้วนยังเชียร์สุดลิ่มพร้อมเทเสียงให้อีกต่างหาก ส่อกลิ่นทะแม่งๆ ขณะที่หญิงหน่อยก็เพียรต่อสายถึงนายใหญ่มาตลอด แสดงท่าทีชัดว่าต้องส่งคนในนามพรรค แต่ก็ไร้สัญญาณตอบรับ กระทั่งช่วงหลังลือหนาหูบุรุษผู้แข็งแกร่งในปฐพีปันใจ ผลุบๆ โผล่ๆ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ บ่อยครั้ง ในที่สุดนายใหญ่ก็ใจอ่อนไฟเขียวมาจนได้ ส่วนข่าวที่ว่าหญิงหน่อยที่อกหักจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี จะผันตัวมาลงชิงที่นั่งศาลาเสาชิงช้าก็ไม่ใช่โคมลอย ก็แค่ยังไม่ถึงเวลาก็เท่านั้น

            ๐ นอกจากเดือน ส.ค.นี้ จะมีเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 ในวันอาทิตย์ที่ 9 ส.ค. แล้วก็ยังมีเลือกตั้งใหญ่อีกสนามที่น่าจะเข้มข้นไม่แพ้กัน เพียงแต่ไม่ใช่การเมือง เป็นแวดวงสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่จะมีการเลือกตั้งนายกสภาวิชาชีพบัญชี ในวันที่ 22 ส.ค. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค หลังจากคณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชีดำรงตำแหน่งครบวาระ 3 ปี ศึกครั้งนี้มี 2 แคนดิเดต ทีมแรกนำโดย "จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล" นายกสภาวิชาชีพบัญชีคนปัจจุบัน รองปลัดกระทรวงการคลัง และรองประธานกรรมการคนที่ 2 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมงานรวม 12 คน อาทิ นางสุวิมล กฤตยาเกียรณ์ นายทะเบียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สอบบัญชี ดี ไอ เอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด น.ส.ชวนา วิวัฒน์พนชาติ เหรัญญิก กรรมการผู้จัดการบริษัท สำนักงานปิติเสวี จำกัด นางอัญชลี มณีท่าโพธิ์ นายกสมาคมสำนักงานบัญชีไทย นายสุพจน์ สิงห์เสน่ห์ อุปนายกคนที่หนึ่ง นายสุริยะ ธีรวัฒนสาร อดีตนายกสมาคมผู้สอบบัญชีภาษีอากรแห่งประเทศไทย ขณะที่ทีมที่ 2 นำโดย "วรวิทย์ เจนธนากุล" อุปนายกคนที่สอง และประธานคณะกรรมการวิชาชีพบัญชี ด้านการบัญชีบริหารคนปัจจุบัน กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ถ้าเป็นภาษานักร้องก็เรียกว่าดังแล้วแยกวง ซึ่งออกมาหวังล้มแชมป์เก่าทีมนายจักรกฤศฏิ์ ส่วนทีมงาน อาทิ นายฉัตรชัย วิไลรัตนสุวรรณ ทำงานบริษัท ซีพีแรม จำกัด นายธีรชัย อรุณเรืองศิริ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาการบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์และบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายเฉลิมชนม์ กุณฑลวรรณ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร CPF น.ส.สุภาณี ศรีสถิตวัตร ทำงานที่ CPF นายปิยะพงศ์ แสงภัทราชัย ผู้บริหารงานที่ปรึกษางานขายผลิตภัณฑ์ตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) งานนี้จักรกฤศฏิ์จะได้สานต่องานสมัยสอง หรือจะได้นายกหน้าใหม่ ก็ขึ้นอยู่สมาชิก 82,264 คน ที่เป็นผู้ตัดสิน ขอแค่อย่านอนหลับทับสิทธิ์เท่านั้นแหละ.

 ลี้คิมฮวง