แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงนี้ จะมีอะไรหลายๆ อย่างเริ่มผ่อนปรนและผ่อนคลายมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้ทุกธุรกิจจะกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง เนื่องจากกำลังซื้อที่ยังถดถอย สืบเนื่องมาจากหลายผู้ประกอบการต้องลดต้นทุน ปลดพนักงาน หรือลดเงินเดือน ทำให้ผู้คนยังมีความเชื่อมั่นที่จะกลับมาใช้จ่ายกันเหมือนในอดีต
จากมาตรการล็อกดาวน์ ธุรกิจจำนวนมากจำเป็นต้องปิดให้บริการในส่วนของหน้าร้าน จนมาถึงช่วงที่ผ่อนคลายล็อกดาวน์ ร้านเปิดให้บริการได้แล้ว แต่การจราจรบนถนนก็ลดลง เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่อยู่บ้านและสั่งซื้อออนไลน์กันมากกว่าเพื่อพยายามหยุดการแพร่กระจายของโรค โดยมีข้อมูล Kantar บริษัทในเครือ WPP วิจัยกลุ่มสินค้าที่มียอดขายดีขึ้นในช่วงนี้ และจะยังคงขายดีอย่างต่อเนื่องแม้สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 จะดีขึ้น ได้แก่ อีคอมเมิร์ซ ฟู้ดเดลิเวอรี ประกัน ความบันเทิงภายในบ้าน สุขภาพ โลจิสติกส์
สอดคล้องกับข้อมูลของ Priceza เว็บไซต์และแอปพลิเคชันเปรียบเทียบราคาสินค้าออนไลน์ ได้วิเคราะห์กลุ่มสินค้าที่มีจำนวนคลิกเติบโตเพิ่มขึ้นหลังเกิดวิกฤติโควิด-19 โดยสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม มีจำนวนคลิกเติบโตเพิ่มขึ้นสูงถึง 122% ซึ่งสินค้าในกลุ่มสุขภาพและความงามที่ได้รับความสนใจมากที่สุดหนีไม่พ้น สินค้าที่ช่วยในเรื่องของการป้องกันเชื้อโรค อาทิ ผ้าปิดจมูก หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เป็นต้น
นอกจากนี้ กลุ่มสินค้าคอมพิวเตอร์ก็ได้รับจำนวนคลิกเติบโตขึ้นกว่า 56% อันเป็นผลมาจากมาตรการล็อกดาวน์ ประชาชนจำต้องอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงนักเรียน นักศึกษาต่างต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตการเรียนในสถานศึกษา มาเป็นการเรียนผ่านช่องทางออนไลน์แทน จึงทำให้สินค้าประเภทคอมพิวเตอร์ได้รับความต้องการมากขึ้น
ขณะเดียวกัน กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ได้รับจำนวนคลิกมากขึ้น 36% โดยสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันเชื้อโรคและฝุ่นควันยังคงได้รับความนิยม เช่น แผ่นกรองอากาศ สินค้าเหล่านี้ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากผู้บริโภค รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวกับการประกอบอาหาร เช่น หม้อทอดไร้น้ำมันก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบ 5 สินค้าขายดี ก่อน-ระหว่าง-หลังคลายล็อกดาวน์โควิด-19 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2563 หรือก่อนมาตรการล็อกดาวน์ กลุ่มสินค้าที่ได้รับจำนวนคลิกมากที่สุด มีดังนี้ 1.โทรศัพท์-อุปกรณ์สื่อสาร 2.สุขภาพและความงาม 3.เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ภายในบ้าน 4.เครื่องใช้ไฟฟ้า 5.เสื้อผ้าและแฟชั่น
ในช่วงก่อนมาตรการล็อกดาวน์ ประเทศไทยได้เผชิญกับปัญหาทั้งฝุ่นพิษและโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้สินค้าประเภทสุขภาพความงาม เช่น ผ้าปิดจมูกและหน้ากากอนามัย เป็นสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุดระหว่างมาตรการล็อกดาวน์ หรือช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563 ได้แก่ โทรศัพท์-อุปกรณ์สื่อสาร, เสื้อผ้าและแฟชั่น, อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องเขียน, สุขภาพและความงาม และเครื่องใช้ไฟฟ้า
เมื่อประชากรต้องอาศัยอยู่ภายในบ้าน ไม่สามารถออกไปท่องเที่ยวหรือใช้ชีวิตการทำงานแบบเดิม แม้กระทั่งการทานอาหารในร้านอาหารก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นทำอาหารทานเองที่บ้าน ส่งผลให้กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์สำนักงานได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น เช่น หม้อทอดไร้น้ำมัน กระทะไฟฟ้า รวมถึงโต๊ะคร่อมวางคอมพิวเตอร์ ก็ได้รับจำนวนคลิกมากขึ้นเช่นกัน โดยหลังคลายมาตรการล็อกดาวน์ ช่วงมิถุนายน-กรกฎาคม 2563 จะเป็นในกลุ่มคอมพิวเตอร์, สินค้าสำหรับแม่และเด็ก, สุขภาพและความงาม, โทรศัพท์-อุปกรณ์สื่อสาร รวมถึงเสื้อผ้าและแฟชั่น
หลังจากมีประกาศให้เปิดภาคเรียนภายใต้มาตรการทางสาธารณสุขและมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสมในเดือนกรกฎาคม 2563 สินค้าในกลุ่มแม่และเด็กต่างได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับสถานการณ์ โดยสินค้าที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระเป๋านักเรียน เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง หรือแม้กระทั่งสินค้าประเภทสุขภาพและความงามในช่วงสถานการณ์ต่างๆ ยังคงได้รับความสนใจติด 1 ใน 5 อันดับอยู่เสมอ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง คาดการณ์ว่าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพจะยังคงมีความต้องการและจำเป็นมากขึ้นในอนาคต และผู้บริโภคจะยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ อนามัยเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน.
รุ่งนภา สารพิน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |