ยื่นฟ้อง 'นกแอร์' เรียกค่าเสียหาย 19 ล้าน พนักงานรถลากโดนเครื่องบินชนตาย ข้องใจคดีไม่คืบ


เพิ่มเพื่อน    

30 ก.ค.63 - ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายนรินทร์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายสัมพันธ์ อ่อนชะอ่ำ , นางราตรี อ่อนชะอ่ำ มารดาของนายธนิสร อ่อนชะอ่ำ ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ที่ปฏิบัติหน้าที่บนรถที่ใช้สำหรับลากเครื่องบิน เเต่เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD6458 เส้นทาง ดอนเมือง-นครศรีธรรมราช ชนกับรถลากเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ ระหว่างที่รถลากกำลังลากเครื่องบินเข้ามายังหลุมจอด เพื่อรอรับผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้นายธนิสรเสียชีวิต มายื่นฟ้อง บริษัท สายการบินนกเเอร์ จำกัด (มหาชน) กับพวกรวม 5 คน ในความผิดฐานละเมิด ค่าเสียหาย นายจ้างลูกจ้าง เรียกค่าเสียหายกว่า 19 ล้านบาท 

นายนรินทร์พงศ์ กล่าวว่า ทางสมาคมได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากบิดาและมารดาของผู้เสียชีวิต เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากตั้งแต่วันที่เหตุเกิดจนถึงบัดนี้ บิดามารดาของผู้ตายยังไม่ได้รับการติดต่อช่วยเหลือเยียวยาดูแลเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ค่าเสียหายต่างๆ อันเกิดจากการเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ให้สายการบินนกแอร์ของลูกชายตนเองแต่อย่างใด อีกทั้งในด้านกระบวนการสอบสวนของตำรวจก็ยังไม่คืบหน้าและไม่สามารถสรุปสำนวนฟ้องร้องผู้กระทำความผิดทางอาญาได้ ทั้งที่เป็นที่ทราบดีถึงเรื่องที่ปรากฏหน้าสื่อมวลชนว่าผู้ตายเป็นพนักงานของบริษัทนกแอร์

กรณีมีคนตายในทางละเมิดมีอายุความ 1 ปี ทางเราก็พยายามหาคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว ทั้งประสาน สน.ดอนเมือง หรือไปร้องที่กระทรวงยุติธรรมก็ไปมาแล้ว เราเคยถามความคืบหน้าทางด้านคดีอาญาว่ามีการสรุปสำนวนส่งอัยการฟ้องไปแล้วหรือไม่ แต่ก็มีการผัดผ่อนอ้างเหตุ จนวันนี้ก็ยังฟ้องใครไม่ได้ เราคงไม่รอผลการสอบสวนในคดีอาญาเเล้ว สิ่งที่ยืนยันชัดเจนไม่ว่าจากสื่อมวลชนหรือภาพถ่ายวันเกิดเหตุ ว่าผู้ตายเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ในรถลาก กำลังลากเครื่องบินเข้ามายังหลุมจอด เพื่อรอรับผู้โดยสาร ซึ่งในทางละเมิดนายจ้างต้องร่วมรับผิดกับลูกจ้างในเรื่องละเมิด ส่วนคดีอาญาตนก็อยากเร่งรัดว่าใครต้องเป็นผู้รับผิดอย่างไรบ้าง 

เราต้องตามหาความจริงว่าสาเหตุการเสียชีวิตใครเป็นคนกระทำ แต่ในทางแพ่งนายจ้างไม่สามารถปฏิเสธความผิดละเมิดได้ เราได้มีหนังสือทวงถามไปยังบริษัทนกแอร์ฯแล้ว ขอให้ดำเนินการเยียวยาช่วยเหลือ แต่ไม่ได้รับการตอบรับ วันนี้บิดาและมารดาของเหยื่อต้องเดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีด้วยทุนของตนเอง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม การยื่นฟ้องในวันนี้จะขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล เนื่องจากคดีมีทุนทรัพย์ 19 ล้าน หากต้องเสียค่าธรรมเนียมถือเป็นจำนวนมากกับบุคคลที่ไม่มีฐานะร่ำรวย ซึ่งศาลแพ่งก็ได้เมตตาให้ไต่สวนเรื่องค่าธรรมเนียมในวันนี้เลย

นายสัมพันธ์ บิดาผู้เสียชีวิตกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย มีบุตรชายเป็นเด็กดี เป็นเรี่ยวแรงของครอบครัว ตนดิ้นรนส่งลูกชายเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ หวังว่าสักวันลูกชายเรียนจบจะได้ดูแลครอบครัว แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดแบบนี้ขึ้น ทำให้ครอบครัวอยู่กันลำบาก ที่ทำได้ตอนนี้คือการอดออมมัธยัสถ์ เพื่อที่จะอยู่ในสังคมได้ สาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายมาจากการทุ่มเททำงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของนายจ้างจนตัวเองเสียชีวิต แต่สิ่งที่ได้รับจากนายจ้างกลับเป็นศูนย์ ครอบครัวตนเหมือนกับคนที่กำลังจะจมน้ำตาย ยังดีที่ตนได้รับความเมตตาจากนายนรินทร์พงศ์ นายกสภาสมาคมทนายแห่งประเทศไทย ที่เมตตาสงสารครอบครัว ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคดี ขอกราบขอบคุณอย่างสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2563 เวลากลางวัน มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่บริเวณลานจอดเครื่องบินภายในสนามบินดอนเมือง เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD6458 เส้นทาง ดอนเมือง-นครศรีธรรมราช ชนกับรถลากเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ ระหว่างที่รถลากกำลังลากเครื่องบินเข้ามายังหลุมจอด เพื่อรอรับผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช ภายหลังตรวจสอบแล้วพบว่า อุปกรณ์ลากที่เชื่อมต่อรถลากกับตัวเครื่องบิน เกิดขาดและหลุดออกจากกัน ทำให้เครื่องบินที่ลากมา ไหลพุ่งชนกับรถลาก เป็นเหตุให้นายธนิสร อ่อนชะอ่ำ ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่บนรถที่ใช้สำหรับลากเครื่องบิน ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ เนื่องจากตับฉีกขาด

โดยการฟ้องจำเลยในคดีนี้ ประกอบด้วย บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน), นายปุระเชษฐ์ วณิชาชีวะ, บริษัท วิงเซิร์ฟ จำกัด, นายวรณ วิงสันเทียะ, บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ เป็นจำเลยที่ 1-5 ต่อศาล ในข้อหาและหรือฐานความผิด ละเมิดโดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 19,022,270 บาท (สิบเก้าล้านสองหมื่นสองพันสองร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) 

จำเลยที่ 1 คือ บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของเครื่องบินและนายจ้างของจำเลยที่ 2 
จำเลยที่ 2 คือนายปุระเชษฐ์ วณิชาชีวะ คนควบคุมเครื่องบินผู้ประมาทลูกจ้างของจำเลยที่ 1 
จำเลยที่ 3 คือ บริษัท วิงเซิร์ฟ จำกัด เป็นผู้ให้บริการขับรถลาก-ดันให้กับจำเลยที่ 1 และเป็นนายจ้างจำเลยที่ 4 
จำเลยที่ 4 คือนายวรณ วิงสันเทียะเป็นผู้ทำหน้าที่ขับรถลาก-ดันผู้ประมาทลูกจ้างจำเลยที่ 3 
จำเลยที่ 5 คือ บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถลาก-ดันและประกอบธุรกิจร่วมกับจำเลยที่ 3 ให้บริการลาก-ดันเครื่องบินให้สายการบินนกแอร์ที่สนามบินดอนเมือง 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"