'ข้าวเปิ๊บ-ก๋วยเตี๋ยวแบ' ร้านยายเครื่อง อร่อยหนึ่งเดียวในสุโขทัย


เพิ่มเพื่อน    

แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย ถ้าเอ่ยชื่อจังหวัดสุโขทัยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติก็คงหลับตานึกเห็นภาพความเป็นประวัติศาสตร์ที่มีมายาวนานตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ในยุคที่มีพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ผู้ซึ่งประดิษฐ์อักษรไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.1826มาจนถึงวันนี้ ประเทศไทยมีกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี แต่ความมีเสน่ห์ของกรุงสุโขทัยก็ยังคงมีร่องรอยปรากฏให้พบเห็นและสัมผัสได้ โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินที่ถือเป็นมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนจากแดนไกลให้ต้องไปลิ้มลองสักครั้งหนึ่ง

“ข้าวเปิ๊บยายเครื่อง” ตำนานความอร่อยที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของอาหารพื้นเมืองที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่เราอยากแนะนำนี้ ร้านข้าวเปิ๊บยายเครื่องตั้งอยู่ที่บ้านต้นนาจั่น ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ติดกับเมืองลับแล ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ ดังนั้นการจะเดินทางไปลิ้มรสความอร่อยที่ร้าน ข้าวเปิ๊บยายเครื่อง เส้นทางอาจจะดูสลับซับซ้อน แต่ก็ไปไม่ยากเพราะสามารถค้นหาเส้นทางได้ในแผนที่อินเตอร์เน็ต เพราะว่าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโฮมสเตย์ชื่อดัง อีกทั้งมีชื่อเสียงเรื่องผ้าหมักโคลนในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือวันหยุดยาวรวมทั้งเสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวจะเยอะมาก เพราะมีของกินอร่อยเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร นั่นก็คือ “ข้าวเปิ๊บและก๋วยเตี๋ยวแบ”

เมื่อเดินทางไปถึงร้าน ข้าวเปิ๊บยายเครื่อง จะตั้งอยู่ในสวนที่มีต้นไม้ปรกคลุมดูครึ้มร่มรื่นมองเห็นบ้านทรงไทยหลังใหญ่แถมปากทางเข้าร้านยังมีรูปปั้นยักษ์ยืนตระหง่านอยู่สองตนด้วย เมื่อเดินก้าวเข้าไปในร้านที่เป็นบ้านสวนชนบทแต่ดูดีก็จะมองเห็นห้องครัวแบบเปิดโล่งโชว์การทำเมนูเด็ดให้ได้เห็นกันเด่นชัด รวมถึงได้สัมผัสสถานที่นั่งกินใต้ถุนบ้านทรงไทย รวมถึงมีลานกว้างเป็นโต๊ะไม้สวยงามมีต้นกล้วยปลูกเป็นไม้ประดับให้เป็นร่มเงาบริเวณร้านสามารถรองรับลูกค้าได้เกือบ 200 คน

เมื่อมาถึงในร้านจะมีใบสั่งอาหารวางอยู่บนโต๊ะให้เราเลือกเมนูอาหารเพียงแค่ 8 รายการประกอบด้วย ข้าวเปิ๊บ , ก๋วยเตี๋ยวแบ ( 2 รายการนี้เด็ดสุด ) ,หมี่พัน ,ข้าวพันไข่ , ข้าวพันโอบ , ข้าวพันน้ำซุป , ข้าวพันพริกและชุดรวมไข่-โอบ-ซุป-พริก

เราเลือกสั่งข้าวเปิ๊บและก๋วยเตี๋ยวแบ เป็นเมนูจานแรก และเข้าไปดูวิธีปรุงก็พบว่า ในห้องครัวอยู่ใต้ซุ้มไม้ที่มีหลังคาคุมลมพัดระบายอากาศถ่ายเทดูแล้วเย็นสบาย มีเตาถ่านซึ่งมีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งทำจากดินเหนียว เห็นเปลวไฟลุกโชนมองเห็นจากช่องข้างใต้สำหรับสอดฟืนเข้าไปด้านบนเตาทำเป็นหลุมสำหรับวางหม้อดิน มีผ้าขาวบางขึงตึงอยู่บนปากหม้อ ครอบด้วยฝาชีที่มีไม้เป็นด้ามจั

แม่ครัวซึ่งเป็นลูกสาวและคนในครอบครัวของยายเครื่องลงมือทำข้าวเปิ๊บด้วยการใช้แป้ง ซึ่งทำจากแป้งสดเป็นสูตรลับ เทราดลงไปบนผ้าขาวบาง จากนั้นใช้ฝาชีไม้ไผ่วางครอบใช้เวลาประมาณไม่ถึง 1 นาที ไอน้ำความร้อนจากหม้อดินผ่านผ้าขาวบางก็ทำให้แผ่นแป้งนั้นสุกมีลักษณะเหมือนแผ่นก๋วยเตี๋ยว จากนั้นก็ใส่ผักต่างๆ อาทิเช่น กระหล่ำปลี , ถั่วงอก , ตำลึง , ผักบุ้ง รวมทั้งวุ้นเส้นใส่วางลงบนแผ่นแป้ง ปิดฝาชี รอให้สุกก็ใช้ทัพพีแซะและห่อพับแป้งให้เป็นเหลี่ยม ซึ่งก็เป็นความหมายคำว่า “เปิ๊บ” เป็นภาษาพื้นบ้านที่แปลว่าพับนั่นเอง

จากนั้นก็ตักข้าวเปิ๊บใส่ในชามโปะด้วยไข่ที่นึ่งสุกบนปากหม้อ เลือกได้ว่าจะเอาสุกมากสุกน้อย จากนั้นยกชามข้าวเปิ๊บมาใส่หมูแดงชิ้นใหญ่เพียง 1 ชิ้นเท่านั้น ใส่หมูสับและกากหมูรวมถึงเครื่องปรุงแต่เวลากินรสชาติจะออกไปทางนุ่มนวลชวนกิน แต่ถ้าจะปรุงให้อร่อยถึงใจขนาดไหนก็ตามใจชอบ สำหรับราคาก็ขายอยู่แค่เพียงชามละ 25 บาทเท่านั้น แต่ดูแล้วไม่เคยมีใครกินชามเดียวเลยแม้แต่คนเดียว ส่วนใหญ่จะสั่งเพิ่มอีกชามกันแทบทั้งนั้น

สำหรับ “ก๋วยเตี๋ยวแบ” นั้น ก็คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้ง เพียงแต่ทุกอย่างทำให้สุก โดยผ่านหม้อนึ่งไอความร้อนไม่ได้ผ่านตระกร้อลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวเหมือนร้านอื่นๆทั่วไป ที่มาของคำว่า “ก๋วยเตี๋ยวแบ” ก็คือ วางเสิร์ฟอยู่ในจานที่มีใบตองรองก๋วยเตี๋ยว ซึ่งในอดีต “ยายเครื่อง” ขายก๋วยเตี๋ยวไม่มีคนช่วยล้างจาน จึงใช้ใบตองรองก๋วยเตี๋ยว กินเสร็จแล้วก็หยิบใบตองไปทิ้งได้เลย

สำหรับการทำ “ก๋วยเตี๋ยวแบ” ก็ทำจากไอความร้อนบนแผ่นผืนผ้าขาวบางและปรุงรสตามสูตรลับเฉพาะตัวคือ เครื่องปรุงและราดด้วยน้ำหมูแดง จึงทำให้เมนูทั้ง 2 รายการนี้เป็นพระเอกและนางเอกเรียกลูกค้าเข้าร้านจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก

สำหรับเจ้าของร้านคือ นางคำเครื่อง วงศ์สารสิน หรือยายเครื่อง อายุ 74 ปี ที่คอยแสดงฝีมือและพูดคุยกับลูกค้า คุณยายใช้ภาษาพื้นเมืองแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน รวมถึงเล่าเรื่องราวในอดีตและที่มาของเมนูเด็ดที่คุณยายทำอาชีพขายข้าวเปิ๊บและข้าวแบเลี้ยงครอบครัวมายาวนานกว่า 40ป

ข้าวเปิ๊บยายเครื่อง เปิดทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้าไปจนถึง 5 โมงเย็น ต้องเน้นย้ำว่าช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวอย่างเทศกาลสงกรานต์  มีนักท่องเที่ยวไม่ขาดสายที่แวะมาที่นี่ ดังนั้นหากไปเป็นหมู่คณะสามารถโทรศัพท์สั่งจองได้ที่โทร. 087-036-0060 และ 056-677-264


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"