ผ่านช่วงเวลาวันหยุดยาว 4 วันเป็นที่เรียบร้อย เชื่อว่าหลายครอบครัวก็ได้ใช้เวลานี้ เดินทางกลับภูมิลำเนา บางส่วนก็ถือโอกาสไปพักผ่อน

                โดยจากที่เห็นในข่าว พบว่าสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยแวะไปพักผ่อนคึกคัก โดยจากข้อมูลของกระทรวงการคลังระบุว่า ในช่วงวันหยุดยาวประชาชนเริ่มเดินทางออกไปท่องเที่ยวตามที่ได้ลงทะเบีบนและจองโรงแรมไว้ ซึ่งมีการ check in ในโรงแรมกว่า 48,205 ห้อง ขณะที่ข้อมูลของกระทรวงคมนาคมระบุว่า ในช่วงเวลา 24-27 กรกฎาคม 2563 พบว่า มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 7,278,977 คน-เที่ยว สูงกว่าประมาณการ 1.55% โดยมีปริมาณการจราจรเข้า-ออกกรุงเทพฯ จำนวน 10,617,596 คัน ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 9,983,176 คัน

                ขณะที่ยอดลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 'เราเที่ยวด้วยกัน.com' ล่าสุดถึงวันที่ 27 ก.ค. เป็นตัวเลขราวๆ 4.59 ล้านคน และลงทะเบียนสำเร็จแล้ว 4.35 ล้านคน ขณะที่การจองโรงแรมที่เปิดให้ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จ เข้าไปใช้สิทธิ์จองที่พักเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด ผู้ที่ลงทะเบียนสำเร็จเข้าไปใช้สิทธิ์จองโรงแรมแล้ว 255,565 สิทธิ์ จากจำนวนสิทธิ์ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 5 ล้านสิทธิ์ โดยมีการจองแล้วชำระเงินให้กับโรงแรม 253,138 ห้อง

                อย่างไรก็ดี ยอดลงทะเบียน 'เราเที่ยวด้วยกัน.com' ยังต่ำกว่าที่คาดไว้ และตัวเลขวิ่งค่อนข้างอืด จากเป้า 5 ล้านสิทธิ์ เพิ่งมีการจองโรงแรมไปเพียง 2.5 แสนสิทธิ์เท่านั้น ซึ่งประเมินแล้วการกระตุ้นการท่องเที่ยวอาจจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง ส่วนหนึ่งเพราะคนไทยเองก็ยังกังวลกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และอีกส่วนยังคงกังวลกับเรื่องภาวะเศรษฐกิจปากท้อง จึงทำให้ต้องพักเบรกเรื่องการท่องเที่ยวเอาไว้

                ล่าสุดทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยผู้ว่าการฯ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ก็เริ่มระบุถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเฟส 2 ว่า จะขอเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ในการวางแผน และต้องประเมินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 1 เพิ่งเริ่มเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาก่อน เนื่องจากยังมีข้อติดขัดหลายประการ

        “คิดว่ามีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเฟส 2 แน่นอน เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พูดไว้แล้ว รวมทั้งในข้อเท็จจริงคือ การสนับสนุนงบประมาณต่อห้อง รัฐบาลให้ห้องละ 3,000 บาท แต่ตอนนี้ที่เช็กดูค่าห้องอยู่ที่ 1,000-2,000 บาท ซึ่งไม่เต็มวงเงินที่รัฐบาลสนับสนุน แสดงว่ายังมีเงินเหลือสำหรับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเฟสต่อไปเพิ่มเติม อาทิ การสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง และท่องเที่ยววันธรรมดา” นายยุทธศักดิ์กล่าว

                ในตอนนี้หากมองหาโอกาสในวิกฤติ ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ผู้ที่เกี่ยวข้องทางการท่องเที่ยวทุกภาคส่วนมาช่วยกันรีเชตระบบใหม่ และวางแผนกำหนดการท่องเที่ยวไทยควรมีรูปร่างหน้าตาที่พึงปรารถนาอย่างไรในอนาคตหลังโควิด ซึ่งเท่าที่ผ่านมาธุรกิจการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศต่างก็มีส่วนในการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร้างความเสียหายให้กับแหล่งท่องเที่ยวมากมาย

                ถึงเวลาแล้วที่ใช้ช่วงเวลานี้แก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวที่หมักหมมมานาน เพื่อทำให้ท่องเที่ยวของไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพและความยั่งยืน ไม่เน้นปริมาณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณนักท่องเที่ยว แต่เราก็คงจะต้องคำนึงถึงปริมาณเงินรายได้ที่ได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย เราควรส่งเสริมนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เราอยากเห็นนักท่องเที่ยวที่สนใจต้องการเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของคนไทย

                ในขณะเดียวกันก็อยากจะส่งเสริมต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขของไทย โดยไม่ทำให้คนไทยเองต้องเสียโอกาสในการรักษาพยาบาลที่จำเป็น

               ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ถ้าเราทำได้ ก็จะกลายเป็นการ “ยกเครื่อง” หรือ reset ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย.

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง