รัฐบาลจีนระงับสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับแคนาดา, ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักรเมื่อวันอังคาร ตอบโต้ที่รัฐบาล 3 ประเทศนี้ตัดสินใจระงับสัญญาดังกล่าวโดยอ้างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของฮ่องกง

    การตัดสินใจตอบโต้ของจีนนั้นมีออกมาในวันเดียวกับที่รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศระงับสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง แบบเดียวกับแคนาดา, อังกฤษ และออสเตรเลีย ซึ่งล้วนอยู่ในกลุ่มประเทศความร่วมมือด้านข่าวกรอง 5 ชาติ หรือไฟฟ์อายส์ ที่ตัดสินใจระงับข้อตกลงนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างว่ากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่จีนใช้กับฮ่องกงนั้น ลิดรอนเสรีภาพพลเมืองและสิทธิมนุษยชนที่ฮ่องกงได้รับ ผิดกับชาวจีนในแผ่นดินใหญ่

    กฎหมายฉบับนี้ทำให้รัฐบาลสหรัฐเพิกถอนสิทธิพิเศษทางการค้าของฮ่องกง และส่งสัญญาณด้วยว่าอาจจะระงับสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเช่นกัน

    รัฐบาลจีนกล่าวหาประเทศเหล่านี้ว่าแทรกแซงกิจการภายในของจีน และปกป้องกฎหมายความมั่นคงว่าสำคัญต่อการฟื้นฟูความเป็นระเบียบเรียบร้อยในฮ่องกง หลังเกิดการชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่เกิดความรุนแรง

    "การดำเนินการผิดๆ ของแคนาดา, ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ในการทำให้ความร่วมมือด้านการพิจารณาคดีกับฮ่องกงกลายเป็นเรื่องการเมืองนั้นทำร้ายหลักพื้นฐานของความร่วมมือด้านการพิจารณาคดีอย่างร้ายแรง" หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม "จีนตัดสินใจระงับสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างฮ่องกงกับแคนาดา, ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร รวมถึงข้อตกลงความร่วมมือด้านกระบวนการยุติธรรมทางอาญา"

    โฆษกจีนกล่าวหาประเทศเหล่านี้ว่า ใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเป็นข้ออ้างประกาศโดยฝ่ายเดียวเพื่อระงับสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง

    อังกฤษและออสเตรเลียยังทำให้จีนโกรธจากการเสนอเปิดทางในการมอบสัญชาติหรือสถานะผู้พักอาศัยแก่ชาวฮ่องกงที่ต้องการเดินทางออกไปใช้ชีวิตในต่างแดนเพราะกฎหมายฉบับนี้

    นิวซีแลนด์กล่าวในคำแนะนำด้านการเดินทางที่ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันอังคารว่า กฎหมายนี้เพิ่มความเสี่ยงของการถูกจับกุมหากทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น การประท้วง และมีความเป็นไปได้ที่จะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่จีน ซึ่งมีโทษจำคุกตลอดชีวิต

    หวังกล่าวเตือนนิวซีแลนด์ด้วยว่า จีนขอสงวนสิทธิ์ที่จะตอบโต้ และเรียกร้องให้นิวซีแลนด์แก้ไขความผิดพลาดทัน และหยุดแทรกแซงกิจการภายในของจีนและฮ่องกงทุกรูปแบบเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อความสัมพันธ์.