ฆ่าอุกอาจกลางเมืองพัทยา มือปืนจ่อยิงเบ้าตาวินจักรยานยนต์ขณะส่งผู้โดยสารถึงที่หมายหลังโรงเรียน ตำรวจตั้งไว้หลายประเด็น ทั้งการพนัน หนี้สินและปัญหาส่วนตัว อีกรายน้าใช้มีดพร้าฟันหลานชายเป็นศพ แค้นถูกชกเพราะขโมยข้าวสารบ้านหลานไปขาย
    เมื่อเที่ยงวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ พ.ต.ท.ธัมมัญชิษฐ์ สิทธิศาสตร์ สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต บริเวณซอย 17 หลังโรงเรียนเมืองพัทยา 8 หมู่ 10 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรายงาน พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา รับทราบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยาไปตรวจสอบ พบศพนายประทุม สอาดนัก อายุ 47 ปี อาชีพวินจักรยานยนต์รับจ้าง เสียชีวิตคร่อมรถจักรยานยนต์ ตรวจสอบพบบาดแผลถูกยิงเข้าที่เบ้าตาขวาทะลุหลังศีรษะ เจ้าหน้าที่ตรวจบริเวณที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนและปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
    น.ส.ปฤศดา กลับพงศ์ อายุ 28 ปี ให้ข้อมูลว่า เพิ่งเดินทางกลับจากท่องเที่ยวพักผ่อนที่เกาะล้าน ได้โดยสารรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตจากบริเวณท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮายมาส่งที่ด้านหลังโรงเรียนเมืองพัทยา 8 กระทั่งมาถึงหน้าประตูหลังโรงเรียน ตนได้ลงจากรถเพื่อเดินเข้าทางประตูด้านหลัง ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อหันมาก็พบว่าผู้เสียชีวิตล้มลงแล้ว เมื่อตั้งสติได้จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว 
    ภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบพยาน พ.ต.ท.ธัมมัญชิษฐ์ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบพยานแวดล้อมและกล้องวงจรปิด เพื่อหาเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจกลางวันแสกๆ หลังสถานศึกษา ส่วนชนวนเหตุนั้นตั้งไว้หลายประเด็น ทั้งเกี่ยวพันเรื่องการพนัน เรื่องหนี้สิน รวมไปถึงปัญหาส่วนตัว  
    วันเดียวกัน พ.ต.ท.ภูวมินทร์ อินนอก สารวัตรเวรพนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง รับแจ้งเกิดเหตุน้าชายใช้มีดพร้าฟันคอหลานชายเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 174 บ้านโคกใหญ่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น จึงรุดไปตรวจสอบ ที่บ้านปูนชั้นเดียวบริเวณลานหลังบ้านซึ่งเป็นสถานที่เพาะเลี้ยงไก่ชน 8 ตัว พบศพนายเทพพิทักษ์ วงษ์รินยอง อายุ 28 ปี ถูกฟันที่ท้ายทอยด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
    จากการสอบสวนนางรำไพ วงษ์รินยอง อายุ 45 ปี มารดาของผู้ตาย ให้การทั้งน้ำตาว่า ผู้ก่อเหตุคือนายวุฒิชัยซึ่งเป็นน้าชายของนายเทพพิทักษ์ โดยก่อนหน้านั้นประมาณ 3-4 วันได้มีเหตุทะเลาะกันระหว่างน้ากับหลาน เนื่องจากหลานชายจับได้ว่านายวุฒิชัยได้เข้ามาลักข้าวสารภายในบ้านไปขายหลายครั้ง จึงเข้าไปตักเตือนและเกิดการชกต่อยกัน โดยนายวุฒิชัยสู้ไม่ได้ จึงกล่าวอาฆาตว่าจะกลับมาฟันให้ตาย ระวังตัวให้ดี ก่อนเกิดเหตุนายเทพพิทักษ์กำลังให้น้ำไก่ชนอยู่หลังบ้านโดยไม่ทันระวังตัว นายวุฒิชัยได้เข้ามาด้านหลัง แล้วใช้มีดพร้าที่ใช้ตัดอ้อยฟันเข้าที่ท้ายทอยก่อนที่จะหลบหนีไป
    ต่อมาเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวนายวุฒิชัย ผู้ก่อเหตุไว้ได้  แต่เจ้าตัวยังให้การภาคเสธ ไม่ยอมบอกที่ซ่อนมีดของกลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย.