การ์ดอย่าตก คงต้องพูดกันอีกนาน
หันไปดูรอบๆ ประเทศไทย แล้วจะรู้ว่าทำไมการ์ดจึงตกไม่ได้
หลายประเทศโควิด-๑๙ ระบาดรอบ ๒ แล้ว
และระบาดอย่างจริงจังมาก
เวียดนาม กลับมาระบาดอีกครั้งในรอบ ๓ เดือน แม้จะพบผู้ติดเชื้อเบื้องต้นแค่ไม่กี่คน แต่ทำให้ดานังเมืองท่องเที่ยวที่กำลังทำเงิน กลายเป็นพื้นที่สีแดงในฉับพลัน
ญี่ปุ่นกู่ไม่กลับแล้ว ติดเชื้อ ๕๐๐-๑,๐๐๐ คนมาหลายวัน ยังไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้น
ออสเตรเลียมีสภาพไม่ต่างจากญี่ปุ่น ทั้งที่ก่อนนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อติดต่อกันหลายวัน
เกาหลีใต้แม้จะคุมได้ดี แต่ยังมีผู้ติดเชื้อตัวเลข ๒ หลักอย่างต่อเนื่อง
อีกไม่กี่วันจำนวนผู้ติดเชื้อในฟิลิปปินส์จะแซงจีน สิงคโปร์ตามมาติดๆ หลักครึ่งแสน
อินโดนีเซีย มีผู้ป่วยรวมทะลุแสนไปแล้ว อยู่ที่ ๑๐๐,๓๐๓ คน เสียชีวิตแล้ว ๔,๘๓๘ ราย
อินเดียติดเชื้อแล้ว ๑,๔๘๒,๕๐๓ คน อยู่ลำดับ ๓ ของโลก แต่มีแนวโน้มจะแซงบราซิล ขึ้นอันดับที่ ๒ ในอีกไม่นาน
ไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่เกิน ๑๐ คนในแต่ละวัน และทั้งหมดอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ
ในประเทศไม่พบมากว่า ๒ เดือนแล้ว
นั่นทำให้ The Global COVID-19 Index (GCI) จัดอันดับไทยอยู่หัวแถวประเทศที่สามารถฟื้นตัวจากโควิด-๑๙ ได้ดีที่สุด
ประเทศ ๕ อันดับแรกของโลก ที่สามารถฟื้นตัวจากโควิด-๑๙ ได้ดีที่สุด ประจำวันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓
มีดังนี้...
๑.ไทย
๒.ลัตเวีย
๓.เกาหลีใต้
๔.ไต้หวัน
๕.มาเลเซีย
นั่นคือไทยที่มองจากสายตาชาวโลก
แต่ทำไมไทยมองไทยถึงได้แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
เศรษฐกิจพัง ประชาชนอดอยาก ไร้สิทธิเสรีภาพ รัฐบาลเผด็จการ ล้มเหลวในการจัดการกับปัญหาโควิด-๑๙
นั่นคือสิ่งที่ไทยมองไทยในวันนี้
ทันทีที่มีข่าว ๑๕ บริษัทญี่ปุ่น จากรายชื่อ ๓๐ บริษัท ได้รับเงินทุนสนับสนุนสำหรับย้ายการผลิตออกจากจีน ทั้งหมดเลือกไปตั้งโรงงานในเวียดนาม
มีเสียงก่นด่าเพราะไทยมีรัฐบาลเผด็จการ ไม่มีใครคบค้าด้วย
ฉาบฉวย!
สาเหตุที่แท้จริงมาจากเวียดนาม คือหุ้นส่วน CPTTP (ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก) เช่นเดียวกับญี่ปุ่น จึงไม่แปลกที่บริษัทเอกชนญี่ปุ่นจะเลือกเวียดนาม
เป็นเรื่องแปลกกว่าเสียอีก ๑๕ บริษัทที่เหลือ ไม่เลือกไปเวียดนาม มาไทย ๖ บริษัท ทั้งๆ ที่ไทยไม่ได้เป็นหุ้นส่วน CPTTP และค่าแรงยังสูงกว่า
อัตราการว่างงานในไทยยังถือว่าต่ำมากหากเปรียบเทียบกับยุโรป อเมริกา
สิทธิเสรีภาพ ไม่ด้อยกว่าประเทศไหนๆ ฮ่องกงมีม็อบ ไทยก็มีม็อบ ด่ารัฐบาลไปจนถึงสถาบันเบื้องสูงได้ทุกวัน
แต่ประเทศไทยมีในสิ่งที่ประเทศอื่นไม่มีนั่นคือ วัฒนธรรมการชุมนุมเพื่อการเปลี่ยนขั้วอำนาจการเมือง
หลายปัญหาที่เรียกร้องกันอยู่ในวันนี้ คือปัญหาเก่าที่รัฐบาลก่อนๆ ไม่เคยคิดจะแก้ไข และเชื่อว่ารัฐบาลใหม่ก็จะยังไม่มีการแก้ไขเช่นกัน
โดยเฉพาะหากเป็นรัฐบาลเพื่อไทย-ก้าวไกล ก็จะยังไม่มีการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปกองทัพ
เด็กๆ ยุคนี้ต้องเผชิญกับ โควิด-๑๙ ซึ่งนับว่าหนักหนาแล้ว ก็ยังไม่สาหัสเท่าถูกผู้ใหญ่หลอกชักใยอยู่เบื้องหลัง
ตอนนี้ยังไม่เห็นผลของการกระทำ แต่ประเทศอยู่ในวิกฤติเมื่อไหร่ จะร้องขอให้เวลาย้อนกลับ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |