ระหว่างที่การเมืองท้องถนนกำลังเป็นช่วงขาขึ้น นิสิตนักศึกษาออกมากันทั่วทุกสารแหง เรียกร้อง 3 ข้อไปยังรัฐบาล

                แก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภา หยุดคุกคาม!!!

                ส่วนการเมืองในสภา พลันได้ยินเสียงของวัยรุ่น ก็มีญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทันที ขอให้รับฟังความคิดเห็นม็อบด้วย เพราะหวั่นใจว่าการเคลื่อนไหวนี้จะก่อเป็นเหตุการณ์วิกฤติซ้ำรอยเหมือน 6 ตุลา 14 ตุลา

                ส.ส.จากฝั่งแกนนำรัฐบาล ร่วมรัฐบาล แกนนำฝ่ายค้าน และร่วมฝ่ายค้าน ถูกจัดคิวสลับลุกขึ้นลุกลงอภิปราย ไม่มีใครยอมใคร  อภิปรายกันถึงสองวัน

                สรุปใจความว่า ความเห็นแตกเป็นสองฝั่ง รัฐบาลเห็นว่าควรตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อรับฟังเป็นการเฉพาะไปเลย

                สำหรับฝ่ายค้านบอกว่า ไม่เห็นด้วยให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพราะคนรุ่นใหม่เรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ดังนั้น นายกฯ ต้องไปรับฟังด้วยตัวเอง จะตั้งกรรมาธิการให้ซ้ำซ้อนกับชุดที่มีอยู่เพื่ออะไร แถมยังสูญเสียงบประมาณเบี้ยประชุมอีก

                เมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมต้องหาทางออกด้วยการโหวตว่าที่ประชุมใหญ่ ส.ส.จะอย่างไร ปรากฏว่า เสียงส่วนใหญ่ให้ตั้งคณะกรรมาธิการ 1 ชุด พอให้เสนอชื่อจะส่งใครมาเป็นกรรมาธิการบ้าง

                ฝ่ายค้านกลับเทจ้า เพื่อไทย ก้าวไกล เสรีรวมไทย ประชาชาติ ไม่เสนอชื่อร่วมสังฆกรรม

            “ครูแก้ว” ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ขณะนั้นทำหน้าที่เป็นประธาน ก็เปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายอภิปรายอีก ทำไมไม่ส่งชื่อ ทำไมถึงต้องตั้ง กมธ. บรรยากาศกำลังไปได้สวย

                พอถึงคิว “สายัณห์ ยุติธรรม” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ไม่รู้อะไรดลใจ พูดผ่านไมค์ด้วยเสียงทองแดงดังกลางห้องประชุม ขอเสนอชื่อฝั่งฝ่ายค้าน “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน เป็นกรรมาธิการง่ายๆ เสียแบบนั้น

                เล่นเอาที่ประชุมฮาแตก ส่วน “สุทิน” อมยิ้มในความกวนของ “สายัณห์”

มินนี่เมาธ์