29 ก.ค.63-นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรมว่า เกณฑ์ทหารกลับมาอีกครั้ง ทว่า พ.ร.บ.ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารและการปฏิรูปกองทัพกลับช้ายิ่งกว่าหอยทากเดิน
พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่รักทุกท่านครับ หลังจากผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากของการเสียสละของทุกท่านในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัส COVID-19 นับจากนี้ หลายสิ่งที่เคยต้องหยุดพักไปได้เริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง
ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ไม่ควรจะกลับมา แต่ก็ยังกลับมานั้น ไม่ได้มีเพียงรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงฤดูกาลแห่งการ "บังคับเกณฑ์ทหาร" ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
เป็นที่รู้กันนะครับว่าการบังคับเกณฑ์ทหารนั้น ก่อผลเสียมากกว่าดีอย่างมหาศาล ทั้งทำให้ครอบครัวบางครอบครัวขาดกำลังในการทำมาหากิน ทำให้อนาคตของคนบางคนต้องสะดุดลง ทำให้สังคมโดยรวมขาดแรงงานที่ควรถูกนำไปใช้ในส่วนอื่นมากกว่า รวมไปถึงหลายคนก็อาจถึงขั้นต้องเสียชีวิตโดยที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมระหว่างที่เข้ารับการเกณฑ์ นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งทางร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจในทุกระดับ โดยทั้งหมดนั้นแลกมาเพื่อให้ได้ประโยชน์ที่ไม่คุ้มค่าของประเทศชาติ แต่หอมหวานเสียเหลือเกินกับเหล่านายพล
แม้ว่า ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ หรือพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน ได้ยื่นเสนอร่าง พ.ร.บ.รับราชการทหารฉบับใหม่เข้าสู่สภาไปตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2562
โดยเนื้อหาของ พ.ร.บ. ฉบับนี้ มีใจความสำคัญอยู่ที่การยกเลิกการเกณฑ์กำลังพลในยามสันติ ให้เปลี่ยนมาใช้วิธีการรับสมัคร และยังให้ยกเลิกการฝึกและการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมไปถึงเพิ่มการศึกษาวิชาด้านประชาธิไตย ประเพณีทางทหารแบบสากล และเพิ่มสวัสดิการต่าง ๆ ไปจนถึงโอกาสในการต่อยอดสู่การเป็นทหารชั้นสัญญาบัตร
แต่เนื่องจากร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน จึงยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี จนขณะนี้เวลาล่วงมาถึง 8 เดือนเต็ม ก็ยังไม่ได้ส่งกลับมายังที่รัฐสภาเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
จึงเป็นที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง ที่แม้ว่าจะมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 77 ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก แต่ตราบใดที่นายกรัฐมนตรียังไม่ยอมส่งร่างกฎหมายฉบับนี้กลับมาให้สภาพิจารณา กระบวนการก็จะไม่สามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้
เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าเมื่อใดนายกรัฐมนตรีจึงจะส่งร่างกฎหมายฉบับนี้กลับมา และหากยิ่งเนิ่นนานไปเท่าใด ก็ยิ่งนำมาซึ่งความถดถอยของประเทศไทยมากขึ้นอันเนื่องมาจากการบังคับการเกณฑ์ทหาร
ซึ่งดู ๆ แล้วการดึงเกมการเมืองเช่นนี้ แทบไม่ต่างอะไรจากที่พรรคการเมืองบางพรรคทะเลาะกันไปมาจนตอนนี้ประเทศชาติก็ต้องมารับผลเสียตามไปด้วย ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นเลยหากนึกถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติมาก่อน
ทั้งนี้ นอกไปจากการเสนอร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแล้ว อดีตพรรคอนาคตใหม่ยังได้เคยเสนอข้อเสนอในการปฏิรูปกองทัพ โดยให้รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง มีอำนาจเหนือกองทัพ เปลี่ยนจากระบบบังคับบัญชามาเป็นระบบเสนาธิการร่วม และไม่ให้กองทัพยุ่งเกี่ยวกับการเมือง รวมไปถึงการลดจำนวนกำลังพลและนายพลที่ประจำการ ปฏิรูปกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธและทรัพย์สินกองทัพ และยุติระบบอุปถัมภ์
ถึงที่สุดแล้วกองทัพเป็นหนึ่งในศูนย์อำนาจที่ควรถูกปฏิรูปอย่างถึงรากถึงแก่นที่สุด และการเกณฑ์ทหารก็เป็นเป้าหมายสำคัญหนึ่งที่ประเทศไทยควรไปให้ถึงยิ่งเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีกับคนส่วนใหญ่ของประเทศเท่านั้นครับ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |