28 ก.ค. 2563 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะกลับมาแถลงการประมาณการตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง หลังจากหยุดพักการแถลงชั่วคราวไป3เดือน เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19กำลังแพร่ระบาด ซึ่งมีความไม่แน่นอนในการกำหนดสมมติฐาน อาจทำให้ประมาณการมีโอกาสคลาดเคลื่อนสูง อาจเกิดความสับสน
อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ในไทยเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี มีความแน่นอนในการตั้งสมมติฐาน และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินได้อีกครั้ง ประกอบกับครบกำหนดที่กระทรวงการคลังต้องทำการประเมินตัวเลขเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในรายไตรมาส จึงเป็นจังหวะที่จะกลับมาแถลงอีกครั้ง ส่วนประมาณการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยตลอดปี 2563จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร กำลังอยู่ระหว่างการประเมิน โดยจะนำปัจจัยภายนอกและภายในมาพิจารณาอย่างรอบคอบ
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า การประเมินตัวเลขเศรษฐกิจของ สศค.คาดว่าจัดขึ้นในวันที่ 30ก.ค.นี้ หลังจากการแถลงครั้งก่อนเมื่อช่วงต้นปีก่อนเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ขณะนั้นได้คาดการณ์จีดีพีไทยทั้งปีจะเติบโต2.8% อย่างไรก็ตามเมื่อตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง ทำให้กระทรวงการคลังเตรียมปรับลดจีดีพีปีนี้ให้ติดลบอย่างแน่นอน โดยคาดว่ามุมมองจะใกล้เคียงกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ให้ติดลบไม่ต่ำกว่า5-6%
สำหรับปัจจัยที่ สศค.นำมาประเมินมีทั้งปัจจัยภายในและนอก โดยปัจจัยภายในได้แก่ ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ที่มีผลต่อกำลังซื้อภายในประเทศ อัตราการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว รวมถึงผลกระทบจากภัยแล้งซึ่งมีผลต่อรายได้ที่แท้จริงของเกษตรกร ตลอดจนปัจจัยเสถียรภาพทางการเมือง และการชุมนุมของนักศึกษา ส่วนปัจจัยภายนอกจะประเมินผลจากสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจ และการค้าโลกถดถอย จนกระทบให้ภาคการส่งออกไทยต้องติดลบอย่างหนัก
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2563นายลวรณ ระบุว่า สศค. จะงดแถลงตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจไทยในไตรมาส1และ2ปี 2563เป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งตอนนี้กระทรวงการคลังจะใช้ตัวเลขประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ไปก่อน
โดยทั้ง สศช. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคลัง มองเศรษฐกิจไทยทิศทางเดียวกันว่าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19อย่างมาก ซึ่งทุกแห่งก็คาดว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส2/2563จะขยายตัวติดลบมากที่สุดของปี เพราะมีการล็อกดาวน์ประเทศ ธุรกิจส่วนใหญ่ต้องปิดดำเนินการ แต่เชื่อว่าไตรมาส3และ4/2563จะขยายติดลบน้อยกว่าไตรมาส2เพราะเริ่มการคลายล็อกทางเศรษฐกิจ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |