เด้งร.ต.ท.ปืนไว สอบยิงชายคลั่ง


เพิ่มเพื่อน    


    เด้งรองสารวัตรมือยิงชายคลั่งเสียชีวิต หลังพี่สาวร้องขอความเป็นธรรมมีคลิปยืนยันทำเกินกว่าเหตุ ผกก.บอกให้ความเป็นธรรม เบื้องต้นตั้งข้อหาลูกน้องทำประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ด้านเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ระบุผู้ตายถูกยิงที่เท้าและชายโครงสิ้นฤทธิ์แล้ว แต่ยังถูกเตะหน้าและยิงซ้ำ
    เมื่อวันจันทร์ พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง ผกก.สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เปิดเผยความคืบหน้าคดีตำรวจเข้าระงับเหตุชายคลุ้มคลั่ง จนมีการทำร้ายร่างกายและชายเมาสุราถูกยิงเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านค้อ ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ล่าสุดได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จ.นครพนม ให้สอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอน ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นในส่วนของญาติผู้ตายได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา อายุ 58 ปี รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ ที่ยิงนายลำเพย จำปา อายุ 48 ปี เสียชีวิต โดยทางพนักงานสอบสวนได้รับเป็นคดี พร้อมแจ้งขอกล่าวหาไว้เบื้องต้น คือ กระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 
    พ.ต.อ.กวีศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ ร.ต.ท.วิจิตรรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ยังต้องรอสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากยังอยู่ช่วงการฟักฟื้นรักษาตัวจากการถูกนายลำเพยฟันศีรษะ ในส่วนของพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วสามารถปล่อยตัวชั่วคราว ไม่ต้องส่งฝากขัง รอขั้นตอนการสอบสวน นอกจากนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดนครพนมได้มีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการดำเนินคดี
    สำหรับการดำเนินคดี พ.ต.อ.กวีศักดิ์กล่าวว่า จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือ ญาติผู้ตายแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับตำรวจ ซึ่งจะต้องรอกระบวนการสอบสวน รวมถึงรอการส่งศพผู้ตายคือนายลำเพย ไปชันสูตร แต่ติดช่วงวันหยุดยาว รอส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ในวันที่ 29 ก.ค. ซึ่งในส่วนของความผิดอื่นๆ จะต้องรอสรุปพยานหลักฐานสามารถแจ้งเพิ่มเติมได้ รวมถึงประเด็นว่าเจตนาฆ่าหรือไม่ กระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ 
    ในส่วนที่ 2 ทางตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาสำหรับผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย ในความผิด 2 ข้อหา คือ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยมีหรือใช้อาวุธมีด และข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ เพราะมีพยานหลักฐาน ผู้ตายใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายตำรวจจนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และส่วนที่ 3 ทางตำรวจจะได้เข้าไปพูดคุยวางแนวทางการดูแลเยียวยาครอบครัวผู้เสียหายในส่วนที่ได้รับผลกระทบ 
    "ทางตำรวจยืนยันขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของตำรวจเกี่ยวกับการดำเนินคดี เพราะขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ถึงแม้คู่กรณีจะเป็นตำรวจหรือชาวบ้านจะต้องมีมาตรฐานในการดำเนินคดีเช่นกัน ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอย่างแน่นอน หากพยานหลักฐานสรุปว่าตำรวจกระทำผิดจะต้องได้รับโทษเช่นกัน ซึ่งต้องรอขั้นตอนการดำเนินคดี"
    ด้านนางประยงค์ อนุญาหงส์ อายุ 58 ปี ผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิปช่วงเดินไปดูเหตุการณ์อยู่ริมรั้วบ้าน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตั้งแต่ ร.ต.ท.วิจิตรถีบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มลง แล้วใช้ไม้ง่ามกดตัวนายลำเพยไม่ให้ลุกขึ้น บังเอิญไม้ง่ามหักจึงเซถลาล้ม นายลำเพยคว้ามีดในย่ามมาฟัน ส่วน ร.ต.ท.วิจิตรก็ชักปืนออกมายิงสกัดที่ขา นายลำเพยจึงเดินกะเผลกไปทรุดตัวอยู่ข้างถนน ตามสายตานายลำเพยหมดทางสู้แล้วแน่นอน ขณะนายพฤษภา จันทองหลาง อายุ 26 ปี หลานชาย เดินไปหยิบมีดมาโยนไว้อีกฝั่งหนึ่ง นายลำเพยไม่มีท่าทีจะขัดขืนแต่อย่างใด ตรงกันข้าม ร.ต.ท.วิจิตรเดินไปหยิบมีดถืออยู่มือซ้าย มือขวากำอาวุธปืนปรี่เข้าไปหานายลำเพย เตะเข้าที่หน้า 1 ครั้ง ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด โดยก่อนหน้านี้นายลำเพยถูกยิงเข้าที่ขา 2 นัด สีข้าง 1 นัดแล้ว ถ้าหากไม่ยิงซ้ำก็ไม่ตาย และก็ไม่มีทางต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ระหว่างเกิดเหตุมีชาวบ้านในละแวกเห็นตลอด.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"