27 ก.ค. 63 - นายเชาว์ มีขวด ทนายความ อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทกระทิงแดง มีเนื้อหาระบุว่า
คดีนายบอส หรือวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทตระกูลดังเครื่องดื่ม กระทิงแดง ขับรถสปอร์ตเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ทำให้ดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิต บนถนนสุขุมวิท เมื่อคืนวันที่ 3 ก.ย. 2555 นั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ ขอไล่เรียงเหตุการณ์สำคัญเฉพาะข้อหาขับรถชนคนตาย ดังนี้
1. เม.ย.60 ศาลออกหมายจับบอส หลังเลื่อนนัด 7 ครั้งไม่พบอัยการตามหมายเรียกให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา คดีนี้จะหมดอายุความ 3 ก.ย.70
2. มีการใช้กมธ.ยุติธรรมยุคสนช.เป็นเครื่องมือรื้อคดีนี้สอบใหม่ อ้างมีผู้ขอความเป็นธรรม ก่อนสรุปว่ามีพยานหลักฐานใหม่ ว่านายวรยุทธไม่มีความผิด ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดทบทวนคำสั่งฟ้องนายวรยุทธ
3.อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมจำนวน 2 ปากตามข้อเสนอความเห็นของกมธ.ยุติธรรมยุคสนช.ที่กล่าวอ้างขึ้นใหม่ ทั้งที่พยาน 2 ปากนี้ไม่เคยให้การกับพนักงานสอบสวนมาก่อน เพิ่งปรากฏตัว ปี 2562 ภายหลังวันเวลาเกิดเหตุนานถึง 7 ปี ซึ่งปกติพยานลักษณะนี้ ไม่มีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือรับฟังได้ แต่อัยการกลับรับฟังคำพยานเช่นนี้
4. มีคำสั่งให้กลับคำสั่งเดิมเปลี่ยนจากคำสั่งฟ้องมาเป็นสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธโดยเชื่อพยานหลักฐานใหม่ที่ กมธ.กฎหมาย สนช.ส่งให้ สตช.ไม่แย้งทำให้คดีถึงที่สุด บทสรุปสุดท้ายที่ออกมาสั่นคลอนระบบยุติธรรมอย่างรุนแรง เพราะคนในสังคมเข้าใจมาโดยตลอดว่าคดีรับฟังเป็นยุติแล้วว่านายวรยุทธผิด เนื่องจากในชั้นพนักงานสอบสวนและอัยการสั่งฟ้องไปแล้ว เหลือเพียงการตามจับตัวมาฟ้อง ซึ่งผ่านมา 8 ปี ยังตามจับตัวไม่ได้ เช่นนี้แล้วมีคำสั่งกลับคำสั่งเดิมเป็นสั่งไม่ฟ้องและสตช.ก็ออกรับลูกไม่แย้งราวกับว่าเตี๊ยมกันมา
สำหรับผมเรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือ คดียุติหรือยัง และส่วนที่สองการตามหาตัวไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังการยุติความเป็นธรรมครั้งนี้ ในส่วนของคดีความนั้นคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการไม่ได้ตัดสิทธิ ทายาทผู้เสียหายที่จะนำคดีไปฟ้องร้องต่อศาลโดยตรงได้อีกช่องทางหนึ่ง แต่คดีนี้ทราบว่ามีการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายให้กับทายาทผู้ตายจนเป็นที่พอใจและไม่ติดใจเอาความทั้งทางแพ่งและอาญาแล้ว ช่องทางที่จะทวงความยุติธรรมให้กับคนตายจึงแคบลง แต่ข้อตกลงดังกล่าวยังไม่ได้ทำให้สิทธิในการดำเนินคดีอาญาของผู้เสียหายระงับไป เพราะบันทึกตกลงเรื่องค่าเสียหายเป็นเรื่องของการเยียวยาในทางแพ่งที่นำมาประกอบดุลพินิจให้ศาลลดหย่อนผ่อนโทษเท่านั้น ดังนั้น หากทายาทติดใจที่จะดำเนินคดีอาญาก็สามารถฟ้องศาลด้วยตัวเองได้ เพราะคดีนียังไม่ขาดอายุความ
ขอเรียกร้องไปยังทายาทดาบตำรวจวิเชียรผู้ตาย ให้ออกมาใช้สิทธิทางศาลเพื่อพิสูจน์ความจริงกันให้กระจ่าง ไม่ต้องไปยึดติดกับบันทึกข้อตกลงเพราะคดีอาญาแผ่นดินจะบันทึกกันอย่างไรก็ยอมความกันไม่ได้ เนื่องจากเรื่องมันมาไกลถึงขั้นสังคมต้องแตกหักกับความเชื่อมั่นต่อสถาบันอัยการ เพราะฉะนั้นท่านต้องใช้สิทธิในความเป็นผู้เสียหายฟ้องคดีเองต่อศาลเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับด.ต.วิเชียรอย่างถึงที่สุด และช่วยสร้างความกระจ่างให้กับสังคม ถ้าท่านไม่มีทนาย ตนจะอาสาว่าความให้
การตามล่าหาไอ้โม่ง ขอเสนอ 4 ข้อทางออกให้ดำเนินการ ดังนี้
1.ให้อัยการสูงสุดเปิดเผยพยานหลักฐานทั้งหมดพร้อมทั้งแจงรายละเอียดถึงที่มาของพยานหลักฐาน ความเห็นของพนักงานสอบสวนและอัยการผู้รับผิดชอบสำนวนทั้งหมด
2.ให้สอบสวนพฤติการณ์การสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุดผู้สั่งคดีว่าการสั่งคดีโดยสุจริตตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้รองอัยการสูงสุดท่านนี้เคยสั่งไม่อุทธรณ์คดีนายโอ๊คพานทองแท้ กรณีทุจริตฟอกเงินปล่อยกู้แบงค์กรุงไทยมาแล้ว ทั้งที่ตนเองไม่มีอำนาจ เพราะอำนาจการสั่งคดีชีขาดความเห็นแย้งเป็นดุลพินิจเฉพาะตัวเฉพาะตำแหน่งของอัยการสูงสุด มอบอำนาจกันไม่ได้ตามคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุดที่ 41/2533
3. สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องตอบคำถามให้ได้ว่าทำไมไม่มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟัองทั้งที่เคยมีความเห็นควรสั่งฟ้องตาม พยานหลักฐานเดิม ซึ่งมีความน่าเชื่อถือให้รับฟังมากกว่า
4.รัฐบาลที่ตอนนี้หนีไม่พ้นข้อครหา เพราะมีการใช้กรรมาธิการกฎหมาย ยุคสนช.ซึ่งมีชื่อน้องชายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมาธิการ รื้อคดีสอบเองจนกลายเป็นจุดเปลี่ยนของคดี ทำให้เกิดคำถามว่ามีบิ๊กคนไหนเข้าไปสร้างกระบวนการฟอกผิดเป็นถูกให้กับทายาทมหาเศรษฐีหรือไม่ เรื่องนี้รัฐบาลจะนิ่งเฉยไม่ได้ เพราะหากไม่รีบหาตัวผู้ใช้อำนาจผิด บิดเบือนความจริงมาลงโทษ ตนเกรงว่านอกจากระบบยุติธรรมสั่นคลอนแล้ว รัฐบาลของพวกท่านจะพังครืนลงมาในไม่ช้านี้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |